เดิมพัน (1)
ห้องอาบน้ำของสนามสาม....
“เฮีย ทำไมไปรับคำท้าเขาแบบนั้น” ฉันเดินตามเฮียโต้งมายังห้องน้ำที่พวกพี่ๆเข้ามาเปลี่ยนชุดกัน
“แกไม่ต้องกลัวหรอกต้า เฮียจะไม่รุนแรงกับมัน โอเคร..”
“เครบ้าไรล่ะเฮีย ถ้าเฮียแพ้ล่ะ” นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันกังวล
“เชื่อมือพวกพี่เถอะ ต้าหนิง” พี่บิ๊กไบค์พูดขึ้น แล้วก็เดินมานั่งข้างเฮียโต้งเพื่อใส่รองเท้าสตั๊ดยี่ห้อดัง
“พวกพี่ไม่ใช่ไก่อ่อนให้พวกมันเชือดเล่นนะครับ” พี่เลโอพูด
ก่อนที่ฉันจะมาหาพวกพี่ๆ ฉันเดินไปหาป๊ามาก่อน ป๊าบอกว่าสามคนนั้นเขามาเช่ารายเดือน เพราะต้องการฝึกทักษะของตัวเอง แล้วพวกเขาก็เป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย
“ค่ะ ต้ารู้ว่าพวกพี่นะเก่ง แต่เฮียรู้อะไรไหม เพื่อนพี่ไผ่สามคนนั้นนะ เขาเป็นนักกีฬาระดับทีมชาติรุ่นเยาวชนเลยนะ”
“ห๊ะ! ห๊ะ! ห๊ะ!” ทั้งสามคนประสานเสียงกัน
“แล้วไง พวกพี่ต้องกลัวเหรอ” พี่ราเรซพูดขึ้น
เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำโดยไม่ใส่เสื้อ ไม่รู้จะโชว์อะไรนักหนา
“ก็แค่บอกไว้ค่ะ จะกลัวหรือไม่..ก็เรื่องของพวกพี่”
“เอาน่า มันจะเก่งสักแค่ไหนกันเชียว” พี่บิ๊กไบค์พูด
แล้วพี่เลโอ พี่บิ๊กไบค์กับเฮียโต้งก็เดินออกไปยังสนามเพื่อวอมร่างกาย
ฉันกำลังจะเดินตามออกไปก็ถูกมือของใครบางคนรั้งไว้ก่อน
“เดี๋ยว..”
“อะไรคะ”
ฉันหันกลับมาทำหน้าดุใส่พี่ราเรซ
“ชอบมันรึเปล่า”
พี่ราเรซยืนขึ้นเต็มความสูง ทำให้ฉันดูเตี้ยไปเลย เพราะความสูงของฉันแค่อกพี่เขาเอง พี่ราเรซก้มหน้าลงมาจ้องตาฉันนิ่ง นัยน์ตาของพี่เขาไม่แสดงความรู้สึกใดใด
“ถามทำไม” ฉันจ้องเข้าไปนัยน์ตาของเขาเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ไม่เจออะไรนอกจากความว่างเปล่า
“ถ้าชอบ...ก็จะทำให้สมหวัง”
พี่ราเรซพูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินออกไปทันที
ฉันไม่เคยนั่งดูบอลแล้วตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนเลย ในสนามมีแค่ฉันที่เป็นผู้หญิงคนเดียวมานั่งดูพวกเขาเล่น ฉันนั่งอยู่ฝั่งของพวกพี่ชาย ส่วนเพื่อนพี่ไผ่อีกคนไปเป็นกรรมการให้พวกเขา เมื่อฉันมองไปรอบๆสนามก็เจอกับสายตานับสิบจากสนามข้างๆ พากันหันมาดูเกมระหว่างพวกเฮียโต้งกับพี่ไผ่ มันก็น่าดูนะสิ เพราะทีมของพี่ชายแต่ล่ะคนหน้าตาอย่างกับดารา ส่วนทีมพี่ไผ่ก็ใช่ย่อยดูเหมือนจะมีแฟนคลับของพี่ๆที่เป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย เพราะฉันได้ยินผู้คนเหล่านั้นเอ่ยชื่อเชียร์พวกเขา
ปี๊ดดดดดดดด
เสียงสัญญาณจากนกหวีดที่เพื่อนพี่ไผ่ผู้เป็นกรรมการได้เป่าออกมาเป็นสัญญาณให้เริ่มเกมได้ เมื่อได้ยินเสียงนกหวีดทั้งสองทีมก็เริ่มเกมกันอย่างดุเดือด ฉันนี่นั่งลุ้นตลอดเวลาไม่กล้าลุกออกจากม้านั่งไปไหนเลย สายตาของทั้งสองทีมต่างก็จดจ่ออยู่ที่ลูกกลมๆที่กลิ้งไปมาอยู่ในสนาม ต่างก็แย่งกันเพื่อให้มันมาอยู่ในการควบคุมของตัวเอง และเมื่อเฮียโต้แย่งลูกมาได้สำเร็จก็ส่งให้พี่ราเรซที่ยืนรออยู่หน้าประตูระยะห้าหรา และก็ไม่มีพลาดเมื่อพี่ราเรซซัดเต็มข้อเข้าโกลไปอย่างสวยงาม ทำให้ทีมเฮียโต้งทำประตูขึ้นนำไปก่อนหนึ่งลูก ฉันนี้ใจหายใจคว้ำเลย พี่ราเรซส่งยิ้มกระชากใจมาให้ฉันพร้อมกับยกคิ้วให้อย่างกวนๆ
ตึกๆ ๆ ตึกๆ ๆ
แล้วทำไมใจฉันต้องเต้นแรงด้วย แค่พี่เขายิ้มเองไม่ได้มีอะไรพิเศษสักหน่อย ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทางไม่กล้าสบตากลับเขา
เมื่อทีมใดทีมหนึ่งทำประตูได้ กรรมการก็นำลูกฟุตบอลมาตั้งตรงกลางสนามเพื่อเริ่มเกมใหม่
ปี๊ดดดดดดดด
กรรมการเป่านกหวีดให้สัญญาณเริ่มเกมต่อได้ ทีมของพี่ไผ่ได้เริ่มก่อนเพราะเป็นฝ่ายตามเกมอยู่ พี่ไผ่เขี่ยลูกฟุตบอลไปด้านหลังส่งไปให้เพื่อนของพี่เขาที่รอรับลูกฟุตบอลอยู่
พี่เลโอแย่งบอลมาจากเพื่อนพี่ไผ่ได้กำลังจะส่งให้พี่บิ๊กไบค์แต่ก็โดนพี่ไผ่ตัดหน้าแย่งไปได้ซะก่อน พี่ไผ่เตะฉีกไปทางด้านซ้ายส่งลูกฟุตบอลไปให้เพื่อนในทีมของตัวเอง ซึ่งเพื่อนของพี่ไผ่ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษพอดีจากการส่งลูกที่สวยงามบวกกับทักษะการเล่นฟุตบอลของเพื่อนพี่ไผ่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงทีมชาติและก็ไม่พลาด ทีมของพี่ไผ่ก็สามารถทำประตูตีเสมอให้กับทีมของพี่ไผ่ได้
ฉันนั่งตบมือให้กับพวกพี่ๆเขาที่เล่นเข้ากันได้ดีจนสามารถทำประตูเสมอทีมของเฮียโต้งได้ พี่ไผ่หันมายิ้มหวานมาให้ฉันพร้อมกับยกสองมือขึ้นมาชูนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ทำมินิฮาร์ทส่งมาให้ด้วย พี่เขาก็ดูน่ารักดีนะ ดูเหมือนว่าพี่เขาจะชอบฉันจริงๆ ถึงได้ท้าทายเฮียโต้งไปแบบนั้น
ปี๊ดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเริ่มเกมอีกครั้ง คราวนี้ฉันนั่งลุ้นจนตัวโก้งเพราะว่าเวลาในเกมเหลืออีกแค่สามสิบนาทีไม่รู้ว่าทีมเฮียโต้งหรือทีมพี่ไผ่ ทีมไหนจะเป็นฝ่ายชนะ
พี่บิ๊กไบค์เขี่ยลูกไปให้เฮียโต้ง เฮียโต้งวิ่งเลี้ยงลูกฟุตบอลขึ้นไปส่งให้พี่ราเรซ ซึ่งยืนรออยู่ฝั่งขวา พี่ไผ่วิ่งเข้าไปดักทางไว้ทำให้พี่เรเรซเล่นยากกว่าเดิม
“ราเรซ สู้เค้าน๊า...”
ฉันหันไปมองตามเสียงเชียร์นั่น พี่ฝ้าย กับเพื่อนของเขาอีกสามคนที่ยืนจ้องจิกกัดฉันด้วยสายตา ไม่รู้ว่ามายืนเกาะรั่วสนามตั้งแต่เมื่อไร
เชอะ! หมั่นไส้...
พอเห็นพี่ฝ้ายตะโกนเชียร์พี่ราเรซออกนอกหน้านอกตาแบบนั้น ฉันก็อยากจะทำมั่ง
“พี่ไผ่ค่า...สู้ๆ ”
ฉันตะโกนเชียร์พี่ไผ่พร้อมกับชู้สองนิ้วยกขึ้นบอกให้พี่ไผ่สู้ๆ
จังหวะนั้นเหมือนพี่ราเรซกำลังจะยิงประตูแต่พี่เขากลับชะงักไม่ยอมเตะลูกฟุตบอลทำให้พี่ไผ่แย่งลูกฟุตบอลไปได้ พี่ไผ่ไม่รอช้ารีบเลี้ยงลูกฟุตบอลกลับมายังหน้าเขตประตูฝั่งของทีมเฮียโต้ง และก็ไม่พลาดเมื่อพี่ไผ่ยิงฟรีคลิกเข้าประตูฝั่งของเฮียโต้งไปอย่างสวยงาม เพื่อนในทีมของพี่ไผ่วิ่งมากระโดดกอดพี่ไผ่อย่างดีใจ
ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงเป่านกหวีดหยุดการแข่งขัน เมื่อหมดเวลา
“ไอ้เรซ! มึงเล่นเหี้ยไรว่ะ!” เสียงเฮียโต้งตะโกนโวยวายใส่พี่ราเรซ
แต่พี่ราเรซกลับยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับไปไหน แล้วทำไมใจฉันมันถึงสั่นแปลกๆ เขาทำคงไม่ได้หยุดเล่นกะทันหันเพราะฉันหรอกนะ เขาควรจะตั้งใจเล่นให้ดีกว่านี้สิ แฟนของเขาก็ยืนให้กำลังใจอยู่ทั้งคน
พี่ไผ่เดินเข้าไปหาพี่ราเรซ ซึ่งยังยืนอยู่หน้าประตูฝั่งทีมของพี่ไผ่อยู่ ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนคุยอะไรกัน แต่พี่ไผ่หันมามองหน้าฉันแวบหนึ่งแล้วก็หันกลับไปคุยกับพี่ราเรซต่อ
จากนั้นพี่ราเรซก็เดินออกจากสนาม เขาเดินตรงไปยังห้องอาบน้ำที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้จากสนามเท่าไหร่