หวงของ (2)
ฉันกำลังจะยื่นมือไปรับโทรศัพท์พี่ไผ่เพื่อกดเบอร์โทรของตัวเองให้ ก็มีมือปริศนามาแย่งโทรศัพท์ไปซะก่อน
“45”
ฉันหันไปมองคนที่แย่งโทรศัพท์ตัดหน้าฉันไป พี่ราเรซ.. เขามาตั้งแต่เมื่อไรเนี้ย แล้วอะไรคือ 45 พี่ราเรซยืนจ้องหน้าพี่ไผ่นิ่ง พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้พี่ไผ่คืน
“อะไรของมึงวะ!” พี่ไผ่ถามอย่างหงุดหงิด พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของตัวเองคืน
“ก็เบอร์ไง” พี่ราเรซยืนล้วงกระเป๋ากางเกงตอบอย่างกวนๆ
“เบอร์ไรของมึง” พี่ไผ่ถามอย่าง งงๆ
“เบอร์รองเท้ากูเนี้ย”
“ไอ้สัสนี่ กวนเหรอ!” พี่ไผ่ผลักอกพี่ราเรซอย่างแรง แต่พี่ราเรซก็แค่เซเอง เขาแข็งแรงจะตาย
“อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ” ฉันรีบห้ามก่อนที่จะวุ่นวายไปกว่านี้
“นี่แฟนน้องต้าหนิงเหรอ” พี่ไผ่หันมาถามฉัน
ฉันมองหน้าพี่ราเรซ แล้วก็ได้รับสายตาดุๆ จากพี่เขากลับมา ทำไมต้องดุกันด้วย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
“เปล่าค่ะ” ฉันตอบตามความจริง
“แล้วมึงหวง ทำไมว่ะ” พี่ไผ่หันไปจ้องหน้าพี่ราเรซอย่างเอาเรื่อง
“เรื่องของกู” พี่ราเรซตอบ
อะไรของเขานะ ฉันไม่เข้าใจพี่ราเรซเลยจริงๆ เขาทำตัวไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ทำอย่างกับว่า หึง งั้นแหละ หรือว่าพี่ราเรซหึงฉันงั้นเหรอ บ้าไปแล้ว...
“ไอ้เรซ! เดินไม่รอกูเลยไอ้นี่”
“เฮียโต้ง..”
ฉันเอ่ยชื่อพี่ชายตัวเอง แล้วพี่เลโอกัยพี่บิ๊กไบค์ก็เดิมตามมา
“อ้าว...ทำไมมาอยู่นี้ล่ะ แล้วไอ้หมอนี่ใคร” เฮียโต้งถามฉัน
แล้วก็หันไปมองหน้าพี่ไผ่ที่กำลังแข่งจ้องตากับพี่ราเรซอยู่ ฉันงงกับกิริยาของพี่ราเรซมากเลยตอนนี้ เขาควรจะแสดงกิริยาแบบนี้กับแฟนตัวเองไม่ใช่กับฉัน
“มันขอเบอร์ต้าหนิง”
แล้วความซวยคูณสองก็บังเกิดแก่พี่ไผ่ผู้โดดเดี่ยว เพราะมาคนเดียวเพื่อนนั่งรออยู่ที่โต๊ะแต่ไม่เดินมาห้าม
“มึงจีบน้องกูเหรอ” นั่นไง พี่ชายฉันอาการหวงน้องกำเริบอีกล่ะ
“เฮีย.. พอได้แล้วน่า จะหวงไรนักหนา ไม่มีใครกล้ามาจีบต้าแล้วเนี้ย”
ฉันเริ่มไม่ไหวกับความอันตพาลของพี่ชายตัวเองเต็มทนแล้ว ทำอย่างกับฉันเป็นทองคำงั้นแหละ หวงอยู่ได้
“นี่ไอ้ต้า พูดงี้แกอยากมีแฟนรึไง ห๊ะ! พึงจะขึ้น ม.4 ริอาจมีแฟนเหรอ เดี๋ยวเหอะ!”
แล้วฉันก็โดนเฮียโต้งบ่นมาเป็นชุด
“ใช่! ต้าอยากมีแฟน จบไหม!”
ฉันไม่อยู่ให้พี่ชายบ่นอีกรอบหรอก หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายได้ ฉันก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกมาทันที
“เฮ้ย! ต้าหนิง! มาคุยกับเฮียให้รู้เรื่องก่อน!”
เสียงเฮียโต้งเรียกไล่หลังมา ฉันไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง
ฉันรถประจำทางกลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวสุดๆ โมโหทั้งพี่ชายแล้วก็เพื่อนตัวดีของเขา ฉันกำลังจะเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้านก็ถูกม๊าเรียกไว้ซะก่อน
“ต้าหนิง เฝ้าร้านให้ม๊าแป๊บ ม๊าจะไปเช็กของหลังร้านสักหน่อย”
ที่บ้านของฉันทำธุรกิจหลายอย่าง ให้เช่าสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแล้วก็ขายส่งอุปกรณ์กีฬาและไหนจะร้านอาหารกับกาแฟนี่อีก ไม่รู้จะทำอะไรเยอะเยะ แค่เปิดสนามฟุตบอลก็พอกินแล้ว ทำอย่างกับว่ามีลูกเป็นโหลงั้นแหละ
“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย เดี๋ยวลูกค้าม๊าหายหมด” ม๊าบ่น เมื่อฉันทำหน้าบึ้งตรึงเดินมาที่หลังเคาร์เตอร์
“ค๊า...” ฉันฉีกยิ้มแบบไม่เต็มใจให้ม๊า
ม๊าเดินไปหลังร้าน ฉันก็มานั่งจับเจ่าที่หลังเคาร์เตอร์ ลูกค้ามีอยู่สามโต๊ะก็ไม่ได้เยอะอะไร ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไปพลางๆ แก้เซ็ง
“ต้าหนิง” ฉันล่ะสายตาจากโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงเรียก
“พี่ไผ่ มาได้ไงคะ” ฉันถามอย่างแปลกใจ
พี่ไผ่ยืนส่งยิ้มหวานมาให้ พี่ไผ่มากับเพื่อนอีกสี่คน สามคนใส่ชุดกีฬามาเรียบร้อยแล้ว เหลือพี่ไผ่กับเพื่อนอีกคนที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน
“พี่มาเตะบอลกับเพื่อนนะ แล้วเราล่ะ ทำงานที่นี้เหรอ” พี่ไผ่ถาม
“เปล่าหรอกค่ะ ร้านของม๊าต้าเอง” ฉันบอกพี่ไผ่
“งั้นน้องต้าหนิงก็เป็นเจ้าของสนามด้วยนะสิ” เพื่อนพี่ไผ่ที่ใส่ชุดกีฬาคนหนึ่งถามขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ไม่ใช่ของต้าหรอกค่ะ ของป๊าเขา” ก็ของป๊าฉันจริงๆ อ่ะ ยังไม่รู้เลยว่าป๊าจะยกอะไร ให้ใครบ้าง
“แล้วพี่ไผ่กับเพื่อนมาเล่นที่นี้บ่อยเหรอคะ” ฉันถามเขาบ้าง
“ออ พี่พึงมาอ่ะ แต่เพื่อนพี่สามคนนี้มาบ่อย” พี่ไผ่หันไปมองเพื่อนสามคนที่ใส่ชุดกีฬา
“ออ ค่ะ”
“แต่ว่า..ต่อไปนี้คงจะมาบ่อยๆ แล้วล่ะ” พี่ไผ่พูดยิ้มๆ
ฉันก็ยิ้มตอบ รู้ทันอยู่หรอก หวังจะมาเจอฉันบ่อยๆ ล่ะซิ ฉันเจอมุขนี้มาเยอะแล้ว และทุกครั้งที่มีคนมาพูดแบบนี้กับฉันก็จะโดนเฮียโต้งไล่ตะเพิ้นออกไป
“เฮ้ย! มาได้ไงวะ! ตามน้องกูมาเหรอ” นั้นไง ตายยากซะจริงๆ พี่ชายฉัน
แล้วสายตาเจ้ากรรมของฉันก็ไปประสานเข้ากับสายตาของใครบางคนที่มีส่วนทำให้ฉันหงุดหงิด เมื่อตอนอยู่ที่ห้าง
“เสียงดังอะไรขนาดนั้นโต้ง” ม๊าเดินออกมาจากหลังร้านพอดี
“ไอ้หมอนี่มันตามต้ามา ม๊า..” เฮียหันไปฟ้องม๊า คิดว่าตัวเองเป็นเด็กอยู่รึไง
“ไร้สาระน่าโต้ง นี่ลูกค้ารายเดือนของป๊านะ” ม๊าตอบ แล้วเพื่อนทั้งสามคนของพี่ไผ่ก็ส่งยิ้มมาให้มาม๊าฉัน
“เดี๋ยวม๊าไปดูสนามให้นะ”
แล้วม๊าของฉันก็เดินออกไปจากร้านอีกรอบเพื่อไปดูสนามให้พวกเพื่อนๆ พี่ไผ่
“มึงคิดว่ามึงแน่นักเหรอ” เฮียโต้งเริ่มหาเรื่องพี่ไผ่อีกครั้ง
“ลองสักเกมไหมล่ะ” พี่ไผ่ท้าทาย
“เอาดิ ทีมล่ะสี่ไม่ต้องมีโกลด้วย” เฮียโต้งรับคำท้า
“ถ้าพวกกูชนะ มึงต้องยอมให้กูจีบน้องต้าหนิงนะ” พี่ไผ่พูด
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ
“แล้วถ้ามึงแพ้ล่ะ” เฮียโต้งถาม
“กูก็จะเลิกยุ่งกับต้าหนิงแล้วก็จะไม่มาที่นี้อีก” พี่ไผ่พูด
“ข้อเสนอน่าสน มึงเตรียมตัวไส่หัวไปได้เลย” เฮียโต้งพูดอย่างมั่นใจ
“เอาเป็นว่าตกลงนะ” พี่ไผ่พูด พร้อมกับจ้องหน้าเฮียโต้ง แล้วพี่ไผ่ก็หันมาจ้องพี่ราเรซด้วย