คนมีเจ้าของ (3)
กลับมาปัจจุบัน....
ต้าหนิงมาเรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนเดียวกันกับพวกผม เพราะม๊าของโต้งแกคิดถึงลูกสาวอยากเห็นหน้าทุกวัน
“ไอ้พวกเหี้ย อยากตายรึไงว่ะ” นั้นคือสิ่งที่พวกผมได้ยินทุกวันจากปากไอ้โต้ง
ก็น้องสาวคนสวยของมันนะสิ ฮอตไปทั่วโรงเรียนแล้ว ทำให้ไอ้โต้งคันตีนเป็นระยะๆ
“เป็นไรว่ะ” เลโอถาม ทั้งที่มันก็รู้สาเหตุอยู่แล้ว
“รู้งี้ กูให้เรียนที่โรงเรียนหญิงล้วนต่อดีกว่า” โต้งบ่น
“ก็น้องมึงน่ารักขนาดนั้นใครจะไปอดใจไหวว่ะ ใช่ไหมไอ้เรซ”
ผมสะดุ้งตัวนิดหน่อยที่ไอ้บิ๊กไบค์มันพูดเหมือนพลาดพิงผม
“ก็น่ารักจริงแหละ” ผมตอบไอ้บิ๊กไบค์ไป แบบยิ้มๆ
“เป็นเพื่อน กูก็ไม่เว้นโว๊ย เตรียมแดกตีนกูได้เลย”
“กลัวแล้วคร๊าบ... อย่าดุนักเลยพี่โต้ง” เลโอพูดอย่างล้อเลียน
บิ๊กไบค์กับเลโอพวกมันสองคนนั่งทะเลาะกับไอ้โต้งอย่างเมามัน แต่ว่า..เสียงของพวกมันไม่ได้เข้าหูผมแล้วในตอนนี้ เพราะผมกำลังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามสิบนาทีที่ผ่านมา นึกถึงแก้มเนียนๆ ที่เปล่งเป็นสีแดงอมชมพูของน้องต้าหนิง
“มึงยิ้มเชี้ยไร ไอ้เรซ” เสียงไอ้โต้งตะโกนใส่หูผม
“กูนั่งยิ้มเฉยๆ ก็ผิดเหรอวะ” ผมหันไปมองหน้าเพื่อน อยากจะขำให้ฟันร่วงกับความพาลไปทั่วของมัน
“สงสัยเมนส์ไม่มา” ไอ้เลโอพูดถูกใจ
ผมยกมือไปเตะกับไอ้เลโออย่างชอบใจ
“เดี๋ยวมึงได้กินตีนกูแน่ไอ้เลโอ” โต้งหันไปชี้หน้าอย่างคาดโทษ
ผมหัวเหราะเยาะเย้ยไอ้เลโอ แล้วก็ต้องเบรกไว้แค่นั้น เมื่อไอ้โต้งหันมาคาดโทษผมด้วย
“มึงด้วยไอ้เรซ”
“กล้าทำผัวเหรอเมียจ๋า”
แล้วก็ได้รับเสียงขำกร๊ากจากไอ้เลโอกับไอ้บิ๊กไบค์เป็นรางวัลแห่งความกวนตีน
“แม่ง..น่ารักวะ”
“จริงด้วย”
“มาหาใครวะ”
“มาหากูแน่ๆ เลย”
เสียงเพื่อนผู้ชายที่มันนั่งติดประตูทางเข้าห้องพูดคุยกัน จนพวกผมต้องหันไปมองตาม
“ต้าหนิง มาทำไร” เสียงไอ้โต้งพูดอย่างหงุดหงิด มันรีบเดินไปหาต้าหนิงที่ประตูทันที
“คือว่าต้าจะมาบอกเฮีย ว่าวันนี้ไม่ต้องรอต้า เพราะต้าจะไปซื้อของกับเพื่อนมาทำงานกลุ่ม” เสียงหวานใสตอบกลับมา
“แล้วไปกันกี่คน กลับกี่โมง มีผู้ชายด้วยหรือเปล่าเพื่อนในกลุ่มนะ” ผมว่าไอ้โต้งมันต้องเป็นผู้หญิงในร่างเทพบุตรแน่ๆ จู้จี้ชิบหาย
“มีแต่ผู้หญิงค่ะ กลับไม่เกินหกโมง” ต้าหนิงก็รายงานซะละเอียดเลย
“หกโมงปุ๊บ ต้องให้เฮียเห็นเราหน้าที่บ้านนะ” มันยังไม่พออีก
“รู้แล้วน๊า อย่าบ่นนักเลย ต้าไม่เถรไถลหรอก ไปนะ”
ต้าหนิงยกมือบ๊ายบายให้พี่ชาย แล้วไอ้เลโอกับไอ้บิ๊กไบค์เสือกบ๊ายบายตอบ
“พวกมึงทำไร” ไอ้โต้งหันกลับมาเอาเรื่องทันที
“พวกมึงก็ด้วย เลิกมองน้องกูได้แล้ว!” มันหันไปตะคอกเพื่อนผู้ชายที่นั่งแถวติดประตู
“เอาอย่างผัวเรซกูบ้าง นั่งเรียบร้อยไม่แสดงกิริยาให้กูของขึ้น” ไอ้โต้งเดินมานั่งตักผม
ไอ้ห่านี่ ตัวเท่าควายมานั่งตักกูอีก
“ไอ้เงียบๆ นี่แหละ ร้ายกว่าพวกกูอีก” บิ๊กไบค์พูด
“เมียจ๋า มันใส่ร้ายเค้า” ผมหันไปอ้อนไอ้โต้ง
“ไอ้เรซ กูขนลุก” แล้วไอ้โต้งก็เด้งตัวออกจากตักผมไป
ผมเปล่าร้ายนะ ออกจะเรียบร้อย ไม่มีประวัติด่างพลอยด้วย ใสใส^_^
ต้าหนิง
“แกดูพี่ฝ้ายดิ นางเอาอีกแล้ว”
ฉันหันไปตามนิ้วมือของเพื่อน แก้มใส...
ซึ่งพี่ฝ้ายแฟนของพี่ราเรซกำลังล่อเด็ก ม.4 ที่พึ่งย้ายมาใหม่ ฉันมักจะเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆ สงสารพี่ราเรซจังโดนสวมเขาขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก
ฉันกับแก้มใสเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประถม พอฉันย้ายมาต่อม.4 ที่โรงเรียนเดียวกันกับเฮียโต้งแก้มใสก็ย้ายตามมาด้วย
“แก้มว่าต้าไปบอกพี่ราเรซเถอะ พี่เขาจะได้ตาสว่างสักที”
“ทำไมเป็นต้าล่ะ” ฉันถามเพื่อนอย่างตกใจ
“แก้มรู้นะ ว่าต้าชะ...”
“เดี๋ยวต้าไปบอกเอง” ฉันรีบลุกหนีเพื่อนทันที ก่อนที่แก้มใสจะพูดอะไรออกมา
ฉันยืนรวบรวมความกล้า ดักรอพี่ราเรซที่หน้าห้องน้ำชาย ฉันเห็นพี่ราเรซมาคนเดียวพอดีก็เลยกล้านิดหน่อย
“พี่ราเรซ”
ฉันเอ่ยเรียกพี่เขา ส่งสายตาบอกให้เดินตามมา ซึ่งพี่เขาก็เข้าใจเดินตามมาอย่างว่าง่าย
ฉันเดินนำพี่ราเรซมาแถวๆ ชมรมดนตรี ซึ่งไม่มีใครอยู่พอดี
“พี่ราเรซคะ หน้าตาพี่ก็ดีแถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก แต่ทำไมเรื่องผู้หญิงพี่ถึงได้โง่จัง”
ฉันพูดขึ้น เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้ว
“พี่โง่ยังไง” พี่ราเรซยกคิ้วถามอย่างกวนๆ
“แฟนพี่เขานอกใจอแต่พี่ก็ยังคบกับเขาอยู่อีก ไม่ให้เรียกว่าโง่แล้วให้เรียกว่าอะไรคะ”
แต่พี่ราเรซกลับดูไม่แปลกใจหรือตกใจเลยสักนิด ตรงกันข้ามพี่เขากลับยิ้มหวานมาให้ฉันอีกต่างหาก
“แล้วจะให้พี่ทำยังไง” พี่ราเรซยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำให้ฉันต้องก้าวถอยหลัง แต่ก็ถอยได้แค่ก้าวเดียวเท่านั้นแหละ เพราะด้านหลังฉันคือกำแพง
“ก็...ไม่รู้สิ คิดเอาเอง” ฉันตั้งท่าจะวิ่งหนีแต่ก็ถูกแขนยาวสองข้างกักตัวไว้ที่กำแพง
“ถ้าต้าหนิงบอก พี่จะทำตามทุกอย่างเลย” พี่ราเรซจ้องหน้าฉันอย่างมีเลศนัย
พร้อมกับส่งรอยยิ้มแสนกระชากใจมาให้อีก
ฉันทำตัวไม่ถูกเลย ได้แต่ก้มหน้างุดเพื่อซ่อนแก้มแดงๆ ของตัวเองไว้ เพราะมันแอบหวั่นไหวไปกับการกระทำของคนตรงหน้า
“คือ...ต้า...” ฉันนึกคำพูดไม่เอาเลย เมื่อพี่ราเรซขยับตัวเข้ามาใกล้
ฉันรีบยกมือขึ้นมาดันอกแกร่งของพี่ราเรซไว้
“พี่ฟังอยู่” พี่ราเรซก้มหน้าลงมาสบตากับฉัน ใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงเซนต์ด้วยซ้ำ
ตึกๆ ๆ ตึกๆ ๆ
ใจฉันเต้นแรงมาก ไม่คิดว่าพี่ราเรซจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้
“ราเรซ!” ฉันกับพี่ราเรซหันขวับไปมองพร้อมกัน
ซวยแล้วไง แฟนพี่เขามาแล้ว แถมยังมาเห็นในสภาพชวนให้คิดไปใกล้ด้วย
“ทำอะไรกัน” พี่ฝ้ายเดินมาควงแขนพี่ราเรซแสดงความเป็นเจ้าของ
“พี่ฝ้าย” ฉันเอ่ยชื่อพี่เขา
“มีธุระอะไรกับแฟนพี่เหรอ ต้าหนิง” พี่ฝ้ายจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง
“เปล่าค่ะ ขอตัวนะคะ” เมื่อพี่ราเรซปล่อยแขนออกจากการกักตัว ฉันก็รีบชิ่งหนีทันที