ใจสั่น 1/3
ต้นหลิว
ปึง!!!
ฉันปิดประตูห้องน้ำอย่างแรง เพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นในตอนนี้
ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้! ปากร้ายที่สุด! กล้าดียังไงมาวิจารณ์หน้าอกของฉัน
ฉันก้มหน้าลงมองดูก้อนเนื้อที่นูนขึ้นตรงหน้าอกอย่างพิจารณา ถึงมันจะเล็กไปหน่อยแต่ฉันก็มีนิ เอาเป็นว่า ฉันภูมิใจในสิ่งที่ฉันมีก็แล้วกัน
เมื่อสงบสติและอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว ฉันจึงเดินไปเปิดน้ำใส่อ่างแล้วลงไปแช่ตัวอย่างสบายใจ
ฉันควรผ่อนคลายและไม่ควรเครียดกับคำพูดบ้าๆ ของเลโอ เขาอยากจะพูด อยากจะว่าอะไรก็ช่างเขาเถอะ แค่ฉันไม่ใส่ใจซะอย่างก็ไม่มีปัญหา
เมื่ออาบน้ำแร่แช่น้ำนมจนพอใจ ฉันก็ลุกขึ้นจากอ่างน้ำแล้วเดินมาเปิดน้ำฝักบัวเพื่อล้างตัว ฉันหยิบชุดนอนสุดวาบหวิวเมื่อคืนนี้ขึ้นมาใส่อีกรอบ ก็มันมีแค่นี้นี่น่ะ ก็ต้องใส่แก้ขัดไปก่อน
แต่พอฉันเดินออกมาจากห้องน้ำกลับไม่เจอเลโออย่างที่คิดไว้ มีเพียงแม่บ้านสองคนที่เหมือนจะมายืนรอฉันอยู่
“เลโอไปไหนเหรอคะ”
“คุณเลโอลงไปรอที่ชั้นล่างแล้วค่ะ” แม่บ้านตอบ
ฉันพยักหน้าให้อย่างเข้าใจพร้อมกับที่แม่บ้านอีกคนเดินเข้ามายื่นเสื้อโค้ตตัวยาวให้แก่ฉัน
บ้านเลโอ
ฉันนั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงบ้านของเขา แสร้งทำสีหน้าบูดบึ้งนิดๆ เพื่อความเนียน
“เธอจะทำหน้าแบบนั้นไปถึงเมื่อไร” ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากถามฉันก่อนเมื่อรถจอดสนิท
ที่จริงก็ไม่ได้โกรธอะไรมากหรอก แค่ไม่รู้จะคุยอะไรกับเขาก็แค่นั้นเอง
“เรื่องของฉัน” ฉันเหลือบสายตาไปมองนิดหน่อยก่อนจะตวัดกลับมาอย่างแสนงอน
“โกรธขนาดนั้นเลยเหรอ” เลโอยื่นหน้าเข้ามาถามในระยะใกล้ ด้วยความตกใจฉันจึงเผลอจ้องตาเขาแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วหัวใจเจ้ากรรมก็ดันมาเต้นโครมครามแทบทะลุ
“ปะ เปล่าสักหน่อย” ฉันพยายามปรับน้ำเสียงให้ฟังดูปกติเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าฉันแอบหวั่นไหว
“งั้นเอางี้ เดี๋ยวฉันพาเธอไปอัพไซส์ดีมะ ฉันจ่ายให้เอง เอาให้บิ๊กบึ้มไปเลย” พูดจบเขาก็ฉีกยิ้มแบบกวนโอ๊ยสุดๆ
“เชิญพาผู้หญิงของนายไปทำเหอะ!” ฉันรีบเปิดประตูลงจากรถแล้วปิดใส่หน้าเขาอย่างแรง
ย้ำอยู่ได้! จะอะไรกันนักกันหนากับหน้าอกของฉันเนี่ย ทีแรกจะไม่โกรธมากขนาดนี้นะ แต่เขาเล่นพูดล้อฉันไม่หยุดอ่ะ คือแบบนี้ต้องโกรธจริงแล้วล่ะ
ฉันหันหลังให้รถก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูบ้าน แต่ด้วยความโมโหจนหน้ามืดเลยไม่ทันระวังว่าจะมีใครเดินสวนออกมา
ตุบ!
“โอ๊ย!” ก้นฉันกระแทกพื้นอย่างจัง
“ขอโทษครับ” น้ำเสียงกล่าวขอโทษอย่างสุภาพและนุ่มหูทำให้ฉันอดที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองไม่ได้ และในจังหวะนั้นก็ทำให้ฉันสบตากับเขาโดยบังเอิญ ใบหน้าหวานราวผู้หญิงบวกกับรอยยิ้มละมุนทำให้ผู้ชายคนนี้แลดูอบอุ่นมาก เขาย่อตัวลงแล้วยื่นแขนเข้ามาพยุงร่างฉันให้ลุกขึ้นจากพื้น
“เป็นอะไรมากรึเปล่า ไปหาหมอไหม” เขายังเอ่ยถามและแสดงท่าทีเป็นห่วง จนฉันเผลอแอบคิดไปว่า ถ้าเลโออ่อนโยนกับฉันแบบนี้บ้าง ฉันหลงเขาตายเลย
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันผละตัวออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างสุภาพ
“มาถึงปุ๊บ ก็หว่านเสน่ห์เลยนะ” เสียงพูดกวนๆ ดังมาจากด้านหลังซึ่งเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เลโอ
“หว่านเสน่ห์อะไรของแกว่ะ เลโอ” ฉันหันไปมองหน้าเลโอก่อนจะหันกลับมามองหน้าผู้ชายคนนี้ด้วยความสงสัยว่าเขาทั้งสองรู้จักกันด้วยเหรอ
“ถ้าแกเหงาเดี๋ยวฉันแนะนำสาวให้ เด็ดกว่านี้เยอะ” เลโอเดินเข้ามาแทรกกลางทำให้ฉันเซถอยหลังไปเล็กน้อยเพราะโดนเลโอเบียด
“พูดอะไรของแกว่ะ นั่นภรรยาแกนะ จะพูดอะไรก็ให้เกียรติเธอหน่อยสิ”
เลโอยักไหล่สองข้างแบบไม่สนใจก่อนจะหันมามองหน้า “ก็แค่ภรรยาในนาม...เธอยังไม่ใช่ภรรยาจริงๆ สักหน่อย จริงไหม?”
พูดไม่พอ ยังมาทำท่ายียวนใส่ฉันอีก มันน่านัก อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน
“ใช่ นายยังไม่ใช่สามีของฉัน” ฉันหันไปฉีกยิ้มหวานให้ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเลโอทันที
“คุณชื่ออะไรคะ?”
ฉันเปล่าประชดนะ แค่อยากจะเลียนแบบความกะล่อนจากเลโอแค่นั้นเอง อยากจะรู้ว่ามันสนุกหรือเปล่า ใยเขาถึงได้ชอบทำนัก
ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเลโอเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างอึ้งๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าเลโอเพื่อขอความเห็น ส่วนเลโอยังมีใบหน้ายิ้มกวนเหมือนเดิม
“เขาถาม...แกก็ตอบเขาสิ” เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสินะ! นี่ฉันหวังอะไรอยู่เนี่ย..
“ผมชื่อเจโม่ครับ เป็นทั้งญาติและเพื่อนของไอ้กะล่อนนี่” เจโม่แนะนำตัว
“ใครกะล่อน กูเปล่านะโว๊ย!” เลโอชกกำปั้นเข้าที่ต้นแข็งเจโม่หนึ่งทีไม่แรงมาก เจโม่ยิ้มขำอย่างน่ารัก
เดี๋ยวนะ!
ทำไมรอยยิ้มของเจโม่ถึงได้คุ้นตาแบบนี้ เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ฉันจ้องหน้าเจโม่เขม็งไม่วางตาและพอรู้ตัวอีกทีเท้าทั้งสองข้างก็พาฉันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจโม่แล้ว
“ทำไม...ฉันถึง...” เจโม่จ้องหน้าฉันกลับด้วยสีหน้ามึนงง
“นี่เธอเป็นอะไรไป ยัยบื้อ” เลโอคว้าแขนฉันออก แรงกระตุกทำให้ฉันได้สติขึ้นมา
“ปะ เปล่า” พอรู้ตัวว่าเผลอแสดงกิริยาไม่ดีออกไปมันก็ทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ สีหน้าของคุณดูซีดๆ” เจโม่เอียงหน้าลงมามองฉันใกล้ๆ ด้วยความตกใจฉันจึงก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วจนเผลอสะดุดขาตัวเอง
“ระวัง! /ระวัง!”
ตุบ!
ร่างของฉันถูกกระชากกลับอย่างแรงก่อนที่จะหงายหลัง ฉันหลับตาปี๋เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องล้มแน่ๆ แต่ปรากฏว่า มีเรียวแขนอันแข็งแรงของใครบางคนรั้งเอวฉันเข้าไปกอดไว้แน่น ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วเงยหน้ามอง ใบหน้าขาวเนียนใสยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งทำให้ฉันใจเต้นแรง แววตาดุดันแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ฉันไม่อาจเดาได้
“ระวังหน่อยสิ ยัยบื้อ” น้ำเสียงดุๆออกมาจากปากของเลโอแต่มันได้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวเลยสักนิด แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นมากกว่า
“แกพาภรรยาของแกไปพักผ่อนเถอะ เธออาจจะเพลียจากงานแต่งก็ได้”
พอเจโม่เอ่ยขึ้นก็ทำให้ฉันระลึกได้ว่า ณ ที่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่ฉันกับเลโออยู่
“งั้นแกรอฉันแป็บ เดี๋ยวฉันพายัยนี่ไปเก็บก่อน” ดูปากเขาสิ จะดีกับฉันให้นานกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้
“เชิญคุณหนูต้นหลิวไปพักผ่อนที่ห้องกระผมได้ตามสบายเลยครับ” เลโอทำท่าผายมือไปทางประตูบ้านเหมือนพ่อบ้านยังไงยังงั้น
“ยะ!” ฉันกระแทกเสียงใส่เล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน และพอเดินเข้ามาก็ต้องหยุดชะงักตรงบันได
ว่าแต่... ห้องนอนของเลโออยู่ไหนล่ะเนี่ย
แต่พอเดินขึ้นบันไดมาฉันก็หาเจออย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องพึ่งแม่บ้าน ที่ฉันรู้ก็เพราะว่าประตูห้องนั้นไม่เหมือนใครเลย มันมีรูปของฉันกับเลโอแขวนไว้ที่หน้าประตูนะสิ
พ่อกับแม่ของสามีฉันนี่เตรียมพร้อมดีจริง อย่างกับจะรู้ว่าฉันต้องโดนลูกชายของเขาชิ่งให้ขึ้นมาห้องนอนคนเดียวอย่างนั้นแหละ
เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนอันกว้างแสนกว้างก็ทำให้ฉันรู้สึกรู้หมดแรง ผ่านไปแล้วหนึ่งวันสำหรับชีวิตหลังแต่งงานของฉัน เหนื่อยใช่เล่นเลยนะเนี่ย
ฉันเดินไปที่เตียงนอนขนาดคิงไซส์แล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนแรง ก่อนจะเลื่อนมือข้างหนึ่งไปค้นกระเป๋าใบเล็กเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาแล้วเปิดดูรูปใบหนึ่งที่ฉันใส่มันไว้ในช่องใสๆของกระเป๋า ในรูปมีเด็กผู้หญิงตาโตหน้ากลมคนหนึ่งยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเด็กชายทั้งสอง แต่ว่าภาพเด็กชายอีกคนนั้นหายไปอยู่ด้านหลังเพราะว่าเธอผับมันไว้ ทำให้รูปภาพเหลือแค่เด็กหญิงและเด็กชายเพียงสอนคน
“ทำไมนายถึงไม่อ่อนโยนกับฉันเหมือนเมื่อก่อนนะ เลโอ”
นี่ฉันหวังมากเกินไปหรือเปล่านะ ฉันหวังให้เลโอกลับมาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและใจดีเหมือนในวัยเด็ก ฉันจำความรู้สึกนั้นได้ดีในช่วงเวลาที่มีเขาอยู่ข้างๆ มันทำให้ฉันอบอุ่นและมีความสุขมากๆสำหรับเด็กคนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีเพื่อน ในตอนนั้นฉันโดนเด็กผู้ชายเกเรแกล้งอยู่เป็นประจำ เขาตามรังควนฉันทุกที ไม่ว่าฉันจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหน และก็มีเขา ที่เป็นฮีโร่คอยช่วยเหลือฉันไม่ให้ใครมารังแก ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน เขาก็มักจะตามหาตัวฉันเจอทุกครั้ง แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราได้เล่นได้สนุกด้วยกัน แต่ฉันก็ไม่เคยลืมเขาเลย
เพราะว่าเป็นเขา...ฉันถึงยอมแต่งงานด้วย รักแรกของฉัน...