บทที่ 5 ‘หึงหวง’
@Dragon club
21.20 p.m.
“อีเจน กูเห็นมึงกดโทรศัพท์หยุกหยิกๆ ตั้งนานละน่ะ มีเรื่องเครียดหรอว่ะ”
ลูน่าซึ่งกำลังโยกหัวเบาๆ ตามจังหวะเพลงชะโงกหน้ามาถามฉันที่นั่งทำหน้าเครียดใส่โทรศัพท์ในขณะที่ยังตอบไลน์เจ้คิมอยู่
ใช่ค่ะ ตอนนี้พวกฉันกำลังอยู่ที่ดราก้อนผับ หลังจากที่กลับจากมหาวิทยาลัยช่วงเย็นเราก็นัดกันว่าคืนนี้จะมาตี้ต้อนรับฉันกลับมาจากนิวยอร์กสักหน่อยก็เลยนัดกันมาเมาให้หัวทิ่มกันไปเลย แต่เมื่อกี้ในขณะที่ฉันกำลังนั่งดื่มและโม้กับเพื่อนๆ อยู่ จู่ ๆ เจ้คิมก็ทักไลน์มาถามฉันว่ารู้จักกับพี่ดินได้ไง ตอนแรกฉันก็งงที่เจ้มันถามแบบนั้นแต่พอคุยกันไปมาจึงรู้ว่าเพราะอะไร...
“ก็เจ้คิมอะดิมึงทักมาบอกว่าพี่ดินมันสั่งลูกน้องให้ไปยกเลิกงานกูพรุ่งนี้” ฉันวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิดหลังจากที่คุยกับเจ้คิมเสร็จพร้อมกับตอบลูน่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“อ้าว ทำไมวะ”
“ไม่รู้” ฉันตอบกลับอย่างขุ่นเคืองก่อนจะหยิบแก้วน้ำเปล่าตรงหน้าขึ้นมาดื่มอย่างหงุดหงิด คือมันน่าหงุดหงิดมากเลยนะที่มายุ่งเรื่องงานของฉันแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เราสองคนก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว
“แล้วมึงยอม?” คุณนายถามฉัน ฉันเลยหันไปทางมันด้วยสายตาที่แสนจะหงุดหงิดพร้อมกับตอบว่า
“ยอมบ้าไรล่ะ กูบอกอีเจ๊ไปแล้วว่าทุกอย่างเหมือนเดิมแต่อีเจ๊กลับบอกกูว่าเกือบจะฉี่ราดไม่รู้กี่รอบแล้วที่โดนลูกน้องไอ้พี่ดินมันขู่อะ”
“ฮ่า ๆ จริงเหรอว่ะที่เจ้คิมโดนขู่อ่ะ แต่มึงเป็นใคร ๆ ก็ฉี่แตกทั้งนั้นแหละถ้ารู้จักคุณพี่แผ่นดินของมึงอ่ะ” โมชิเอ่ยขึ้นอีกคน
“ของกูที่ไหนละ ของคนอื่นไปแล้วปะมึง”
“แหนะ! มันเป็นเศร้าว่ะ แล้วพูดแบบนี้คือ...เสียดายเหรอ ฮ่า ๆ”
พวกมันพูดพร้อมกันแล้วก็หัวเราะร่าออกมาเสียงดังลั่นโต๊ะ จนโต๊ะข้าง ๆ หันมามองอะคิดดู
แล้วอะไร...ใครเสียดายอะไรไม่มีนะ แล้วก็ไม่ได้เศร้าด้วย ไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้นด้วยซ้ำ เฉย ๆ ก็แค่พูดตามความจริง เพราะตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว...แล้วจะมาเสียดายอะไร ไร้สาระ
“อย่าไปสนใจเลยเพื่อนถ้าอยากได้คืนก็แค่แย่งมา เขาแค่เป็นแฟนกันไม่ใช่ผัวเมียที่จริงจัง”
ลูน่าพูดพร้อมกับขยับตัวมาซบไหล่ฉันเหมือนมันกำลังปลอบฉันแต่เอาจริง ๆ คือมันกำลังสอนให้ฉันแย่งแฟนคนอื่นอยู่นะ ท่าจะบ้าไปกันใหญ่ เมาแล้วกลายเป็นคนพูดไม่คิดแบบนี้เหรอ
“กู ไม่ เอา กูไม่อยากโดนตราหน้าว่าแย่งแฟนชาวบ้านเขา อีกอย่างนะมึงแฟนใหม่ดีกว่า...แฟน เก่า!” ฉันผลักหัวลูน่าออกไปไกลๆ ก่อนจะเน้นที่ละคำตามไปอย่างนึกรำคาญ
“ว้าว~ เริดค่ะ น้องเจนจะเอาผัวใหม่โนผัวเก่าจ้า”
“เอ้า...ชนแก้วสักหน่อยแด่ว่าที่ผัวใหม่ของอีเจนมันค่า”
เสียงโมชิว่าพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นกลางวง พวกมันที่เหลือจึงยกแก้วในมือของตัวเองขึ้นไปชนตามโมชิ ฉันที่ไม่ได้ยกแก้วไปชนตามพวกมันก็เลยโดนกดดันด้วยสายตาจนต้องยกแก้วขึ้นไปชนอย่างจำนน
“แด่การหาผัวใหม่ของอีเจน...ต่อไปนี้มึงคืออีเจนร้อยผัวของพวกกู!!”
“หยุด!! ฉายาบ้าไรของมึงเนี่ยนาย ร้อยผัวบ้านมึงสิ ถ้าจะอวยพรให้กู...กูขอคนเดียวก็พอแต่ขอแบบ หล่อ รวย แสนดี ไม่มั่วและไม่เจ้าชู้นะ เพราะกูเกลียดผู้ชายมักมาก”
ฉันยกมือห้ามคุณนายทันทีที่มันตั้งฉายาให้ฉัน ก่อนจะบอกสเป็กที่ฉันต้องการ
“สเป็กมึงเนี่ยหายากจังว่ะเจน โดยเฉพาะไม่มั่วและไม่เจ้าชู้อ่ะ ยิ่งในผับแบบนี้นะไม่ต้องพูดถึง”
โมชิว่าพร้อมกับปรายตามองไปรอบ ๆ ผับซึ่งมีแต่ผู้ชายทรงแบดบอยยืนกันเต็มไปหมด แล้วไอ้ทรงแบบนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงความแสนดีเลย ความเป็นคนมีหรือเปล่ายังไม่รู้เลยแต่ถ้ามีคนมาจีบ ฉันก็พร้อมเปิดใจนะ ไม่อยากปิดกั้นหัวใจตัวเอง จะมาแนวไหนฉันก็รับได้หมดแหละ ขอแค่ไม่เจ้าชู้ก็พอ
“เออน่า ถ้าเป็นแฟนกูเดี๋ยวกูจะอ่อยเช้าเย็นให้ไปไหนไม่รอดเลย” ฉันว่ากลับ
“แล้วไม่เก็บพรหมจรรย์ที่มึงหวงนักหวงหน่าแล้วรึไง” ลูน่าว่าขึ้นหลังจากที่ฉันพูดจบ ฉันเลยตอบกลับทันทีอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา "กูพร้อมใช้งานแล้ว”
“บ๊ะ! มันเอาเรื่องเว้ยเห้ย งั้นเดี๋ยวกูดันเอง” โมชิพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉันก่อนที่มันจะตะโกนคำพูดที่เกือบจะทำให้ฉันบรรลัยออกไปว่า “เพื่อนหนูสวยโสดซิ...ง”
อุ๊ป!
“อื้ออออ”
“มึงเล่นบ้าไรของมึงเนี่ยอีชิ” ฉันรีบเอามือปิดปากโมชิทันทีที่มันป่าวประกาศลั่นออกไปแบบนั้น จนผู้ชายโต๊ะตรงข้ามกับพวกฉันหันมายกยิ้มกันใหญ่ นังเพื่อนเวร ทำอะไรไม่ปรึกษากันเลย!
ฟึบ!
“มึงมาปิดปากกูทำไมเนี่ย กูกำลังช่วยมึงหาผัวใหม่อยู่น่ะ” ยัง ยังไม่สำนึกอีก เดี๋ยวแม่หยุมหัวให้หรอก
“มึงเล่นป่าวประกาศในผับแบบนี้ กะจะให้กูมีผัวเป็นร้อยในคืนเดียวเลยว่างั้น...กูหาเองไม่ต้องยุ่ง” ฉันว่ามันตาเขียว แต่ดูมันเถอะ...
“ฮ่า ๆ จ้า~ กูขอให้รอดจากแฟนเก่ากิตติมศักดิ์ชั้นเยี่ยมของมึงก่อนเถิด ไม่ใช่ว่าตกเป็นของเขาก่อนจะได้ผัวใหม่ละมึง”
ลูน่าว่าออกมาอย่างล้อเลียนหลังจากที่ฉันบอกว่าจะหาเอง แล้วดูมันพูด...นี่ไม่ต่างจากการแช่งฉันเลยน่ะแทนที่จะขอพรให้เพื่อนห่างไกลคนร้ายกาจอย่างพี่ดิน แต่มันดันกลับอวยพรให้ฉันตกเป็นเมียของพี่ดินซะงั้น เอากับมันเถอะ
20นาทีผ่านไป...
หลังจากที่พวกฉันนั่งโม้และนั่งดื่มที่โต๊ะจนเบื่อแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะออกมากางปีกบินบนฟลอท่ามกลางจังหวะเพลงมันๆ แล้วล่ะ
และแน่นอน...ฉันออกมาเต้นตรงโซนที่มีผู้ชายยืนเยอะๆ
แรดใช่ไหม เปล่าหรอก แค่ออกมาบริหารเสน่ห์นิดๆ หน่อยๆ เอง เมื่อก่อนเป็นเด็กดีไง ไม่ค่อยได้บริหารเสน่ห์เท่าไหร่ ทั้งที่ตัวฉันเองก็สวยแถมเซ็กซี่หยาดเยิ้มซะขนาดนี้ เสียดายของอะ
อีกอย่างเมื่อกี้ก็ป่าวประกาศกลางวงเหล้าแล้วว่าจะหาแฟนใหม่ เพราะฉะนั้นคืนนี้ต้องได้แล้วละ จะได้เอาไปกระแทกหน้าแฟนเก่าสักหน่อย เขามีได้ฉันก็มีได้ จะได้เลิกมายุ่งกับฉันสักที
ครืดดด~
เสียงโทรศัพท์ในมือฉันสั่นเหมือนจะมีแจ้งเตือนเข้ามา ฉันจึงยกขึ้นมาดูว่าใครส่งอะไรมา ถามว่าดูยากไหมก็ยากแหละ ไฟสลัวแถมกะพริบเขียวแดงน้ำเงินอีก ปวดหัวไปหมดแล้วเนี่ย แต่ฉันก็พยายามยื่นเพ่งดูข้อความที่เข้ามาเมื่อกี้อย่างตั้งใจ จนรู้ว่าใครส่งมา พอรู้ว่าใครส่งข้อความมาเท่านั้นแหละฉันจึงยกยิ้มมุมปากทันทีเพราะคนที่ทักมาคือพี่ชายของฉันเอง พี่เจคมันไม่ได้ทักมาถามอะไรนะ
แต่ทักมาดุที่ฉันเต้นอ่อยเต้นเบียดผู้ชายอยู่ตอนนี้ต่างหาก แต่แปลกที่พี่เจคเห็นฉัน แสดงว่าพี่มันอยู่ที่นี้ด้วยงั้นเหรอ?
ฉันเก็บความสงสัยไว้แค่นั้นก่อนจะชะเง้อคอเงยหน้าขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อมองหาพี่เจค แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ฉันจึงส่งข้อความตอบกลับแบบกวนๆ กลับไป...
ไลน์:: JK
J.nine: ก็น้องโสดอะ เหงาด้วย พี่ไม่ว่าอะไรใช่ปะถ้าน้องจะสอยกลับไปสักคน
นั่นแหละคือข้อความที่ฉันส่งไป แต่ไม่ทันไรพี่เจคก็อ่านทันทีพร้อมกับส่งข้อความกลับมาอย่างรวดเร็วว่า...
JK: มันนั่งดูดนมจากเต้าอยู่ คงมีเวลามาสนใจเธอหรอกมั้ง
แต่เดี๋ยวน่ะ คำพูดแบบนี้...แน่นอนไม่ใช่พี่ชายที่แสนดีของฉันแน่นอน แล้วก็ไม่ต้องนึกนานด้วยว่าใครที่เป็นคนตอบไลน์พี่เจค เพราะคนเดียวที่จะพูดจาแบบนี้ได้ ก็หนีไม่พ้นพี่ดินแน่นอน นี่แสดงว่าคืนนี้เขาก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ บ้าจริง!
แล้วที่มาตอบไลน์พี่เจคก็เพราะขโมยโทรศัพท์พี่เจคใช่ไหม ฉันว่าต้องใช่แน่ ๆ เพราะถ้าขอดี ๆ มีเหรอที่พี่เจคจะให้
เหอะ! โดนฉันบล็อกทุกทางแล้วก็ยังอุตส่าห์หาทางมาวุ่นวายกับฉันอีกนะ นี่กะจะรังควานชีวิตฉันไม่เลิกเลยใช่ไหมห้ะ!
ก็ดี เดี๋ยวฉันจะยั่วโมโหให้อยู่ไม่เป็นสุขเลย ชอบมายุ่งวุ่นวายกับฉันดีนัก
ฉันกดแป้นพิมพ์หยุกหยิกๆ อีกครั้งตอบโต้ไปมาอย่างดุเดือดกับพี่ดิน เพราะเมื่อกี้เขาสั่งให้ฉันถอยห่างจากผู้ชายที่อยู่รอบตัวฉันด้วย หึ แล้วเรื่องอะไรฉันต้องทำตาม
ฉันก็เลยเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า จากนั้นก็หันหลังไปกอดกับผู้ชายที่พี่ดินบอกให้ฉันถอยห่างเมื่อกี้แทน ฉันเต้นยั่วเบาๆ เพราะรู้ว่าพี่ดินมันกำลังมองอยู่
เอาสิ ฉันจะทำให้คลั่งเป็นบ้าเลย...
ฉันเต้นกับผู้ชายที่กำลังกอดเอวฉันโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าตาของเขาเลยด้วยซ้ำ ว่าเค้าโครงหน้าตาเป็นยังไง หล่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ อีกอย่างตอนนี้ไฟก็ค่อนข้างสลัวด้วยถึงเงยหน้าไปมองก็เห็นไม่ชัดอยู่ดี ที่สำคัญฉันก็แค่ต้องการยั่วโมโหไอ้พี่ดินแค่นั้น
แต่รู้อะไรไหม ผู้ชายที่ฉันกอดอยู่เนี่ย เขากอดตอบฉันกลับมาด้วยแหละ แถมน้ำหอมจากตัวเขาก็ช่างหอมแบบยั่วยวนมาก มันหอมจนอยากพลีกายให้เลยละ
คือเข้าใจใช่ไหมว่าเวลาเราดื่มของมึนเมาเข้าไปปุ๊บสติก็จะแบบเคลิ้ม ๆ กรึ่ม ๆ บวกกับได้กลิ่นน้ำหอมที่หอมแบบนี้แล้วฉันแทบจะเสียสติ กลิ่นตัวยังหอมขนาดนี้ ต้องเป็นผู้ชายที่รักสะอาดและหน้าตาหล่อเหลาเอาการแน่นอนเลย...
หมับ!!
“อ๊ะ!” ใครมันมาทำลายความสุขของฉันเนี่ย
“กล้ายั่วโมโหฉันแบบนี้...คิดดีแล้วเหรอเจน”
เอาล่ะ เสียงเข้มๆ ติดเย็นชาจนฉันขนลุกสู้แถมกลิ่นตัวและกลิ่นลมหายใจหอมแบบผสมบุหรี่ที่ฉันคุ้นเคยแบบนี้จะเป็นใครไม่ได้อีกแล้วถ้าไม่ใช่พี่ดิน แถมยังทำตัวป่าเถื่อนมากระชากตัวฉันจนเซไปกระแทกกับหน้าอกตัวเองอีก ก็ต้องเขาแล้วละเพราะมันไม่มีใครที่จะกล้ารุนแรงเวลาโมโหกับฉันแบบนี้แล้ว...นอกจากพี่ดินคนเดียว
พลั่ก!
ฉันผละออกจากอกพี่ดินแต่ยังไม่ทันจะได้ออกห่างต้นแขนของฉันก็โดนเขาจับไว้อีกครั้งซะก่อน และฉันก็พยายามอย่างมากที่จะฉุดแขนตัวเองกลับมา แต่พี่ดินมันก็จับไว้แน่นเหลือเกิน...
“ฉันถามว่ากล้ายั่วโมโหฉันแบบนี้ คิดดีแล้วเหรอเจน” เสียงดุติดหงุดหงิดของพี่ดินถามฉันเสียงห้วนขึ้นมาอีกครั้ง ฉันเลยต้องหยุดยื้อแขนตัวเองที่เขาจับไว้แล้วเงยหน้าไปตอบเขาอย่างหงุดหงิดเช่นกัน
“แล้วทำไมต้องคิด”
-_-
อ่า~ กระดูกต้นแขนของฉันคงต้องหักแล้วแหละถ้าจะบีบแรงขนาดนี้
ใช่ เขาบีบแขนฉัน และใช่ เขากำลังโมโหฉัน เพราะดูจากสีหน้าที่ผ่านไฟสลัวๆ ตอนนี้แล้วก็พอเห็นรางๆ กับสายตาคมกริบคู่นั้นของเขาที่กำลังจ้องฉันเขม็งอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ถ้าพี่พอใจจะทำร้ายร่างกายของฉันก็แล้วแต่นะ เอาให้กระดูกหักไปเลยก็ได้ ฉันจะได้ไม่ลังเลที่จะเกลียดพี่ไปตลอดชีวิต”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่หนักแน่นเอาเรื่อง ที่พูดแบบนั้นไม่ใช่อะไรหรอก มันเจ็บมากไง แขนฉันก็มีอยู่แค่นั้นอะ ทำไมต้องรุนแรงกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันด้วย
“ไปกับฉัน”
พรึบ!
พูดจบพี่ดินก็ลากฉันออกไปจากตรงนั้นทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจถามฉันเลยว่าฉันต้องการไปกับเขาไหม
“พี่จะพาฉันไปไหน!” ฉันถามเสียงฉุนขณะที่มืออีกข้างก็พยายามดึงมือพี่ดินออกแต่ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก ไม่รู้ว่านี่มือคนหรือมือปลาหมึกกันแน่ จับแน่นเป็นบ้าเลย
กึก!
“เอาเธอไปเก็บไง จะให้ฉันปล่อยเธอยืนเต้นเบียดพวกเวรนั้นเหรอว่ะ”
เหอะ! แต่ดูคำตอบของพี่ดินสิ ทำเอาฉันต้องพ่นลมหายใจพร้อมกับกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่ายสุดๆที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นออกมา คือเห็นฉันเป็นสิ่งของหรือไงกันถึงต้องรีบเอาไปเก็บอะ คนนะไม่ใช่เก้าอี้
“ฉันไม่ใช่สิ่งของนะพี่ดิน”
“ฉันก็ไม่เคยมองเธอว่าเป็นสิ่งของนะเจน”
“…”
“…”