Chapter 17 แลกหญิงกันมั้ยล่ะ?
Chapter 17
แลกหญิงกันมั้ยล่ะ?
ภูติณพาขนมไข่ออกมาเที่ยวไหว้พระในวันนี้ ลูกน้องอย่างมังกรที่พาขับรถมาถึงกับงงว่าเจ้านายเป็นอะไร นึกยังไงถึงสละเวลางานพาผู้หญิงคนนี้มาเที่ยว
ปกติแล้วภูติณบ้างานจะตาย
"วัดนี้นะครับท่าน เดี๋ยวให้บอร์ดี้การ์ดอีกหกคนตามไปนะครับท่าน"
มังกรจอดรถส่งเจ้านาย ขนมไข่ควงแขนภูติณลงจาก รถอัลพาร์ตคันหรู ตั้งแต่เกิดมาก็พึ่งเคยใช้ชีวิตประดุจเจ้าหญิงก็ตอนอยู่กับเขานี่แหละ การเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลภิรมฤกษ์ไม่ได้ช่วยให้เธอสุขสบายเป็นคุณหนูเลยสักนิด อาจเพราะเป็นเพียงลูกเมียน้อย
"ไม่ต้องอะ วันนี้กูจะเที่ยวกับขนมแค่สองคน ไม่ต้องให้ใครตามมาทั้งนั้น"
ภูติณต้องการความเป็นส่วนตัวบ้าง ปกติไม่ว่าจัไปไหนพวกลูกน้องต่างก็ต้องตามกันไปเป็นโขยง
"แต่..."
มังกรจะขัด แต่เมื่อเจอสายตาอำมหิตของภูติณจึงไม่กล้าออกเสียงอะไรต่อ
"ครับท่าน ยังไงผมจะจอดรถรอที่ด้านหลังนี้นะครับ"
"อืม ไปได้แล้ว"
"ครับ"
มังกรจำใจขับรถออกไปเพื่อจอดที่ด้านหลังวัด เขาวนรถมาส่งเจ้านายและผู้หญิงของนายที่หน้าตัววัด
"จะไม่เป็นอะไรแน่เหรอคะท่าน? ปกติท่านไปไหนก็มีบอร์ดี้การ์ดไปด้วยทุกที่"
ขนมไข่กังวล กลัวว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุให้เขาได้รับอันตราย
"อย่ากังวลไปหน่อยเลยน่า ที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทย ไม่มีใครเป็นอริกับฉันหรอก"
ภูติณย้ายมาอยู่ที่นี่ชั่วคราวเพราะหน้าที่การงาน ถ้างานลงตัวแล้วก็อาจจะกลับไปอยู่ที่ไทย
"ค่ะท่าน"
ขนมไข่ตอบรับเมื่อภูติณกล่าวแบบนั้นก็คงจะไม่เป็นอะไร
ภูติณยื่นแขนแกร่งออกไปให้ขนมไข่
"ควงแขนฉันสิ"
"เอ่อ ค่ะ"
ขนมไข่ตอบรับอย่างเขินอายก่อนจะรีบควงแขนกำยำของมาเฟียหนุ่มผู้เป็นเจ้าชีวิตของเธอในตอนนี้
ทั้งคู่พากันเดินเข้ามาไหว้พระขอพร
"นายครับ นั่นไอ้ภูติณ"
ป้องเมื่อเห็นภูติณกำลังไหว้พระอยู่กับสาวงามเคียงกายรีบแจ้งเจ้านาย
"หึ เข้าไปทักทายสหายหน่อยจะเป็นไรไปวะ"
โลกันต์เมื่อเห็นแผ่นหลังแกร่งของศัตรูตัวฉกาจก็ไม่รอช้ารีบพุ่งตรงดิ่งไปหาภูติณในทันที
ส่วนไข่หวานถึงกับหน้าซีดเซียว เธอควงแขนของโลกันต์อยู่ จะปล่อยแล้วถอยตัวออกห่างมันก็ไม่ได้
ภูติณกำลังไหว้ขอพรอยู่กับหญิงเคียงกายซึ่งก็คือขนมไข่
"ไงพวก! ไม่เจอกันนานเลยนะ"
เสียงตะโกนเรียกเป็นภาษาจากทางด้านหลังดังขึ้น ภูติณหันไปมองก็พบว่าเป็นโลกันต์ ศัตรูทางธุรกิจของเขา
"มึงมาทำไม?"
ภูติณรีบเดินไปประจันหน้ากับโลกันต์ที่ควงสาวคนสวยไว้เคียงกาย ดวงตาคู่ร้ายไล้มองไปทั่วทั้งเรือนร่างขาวอวบนั้น
"กูก็อยากจะมาไหว้พระขอพรบ้างสิวะ ทำไม? คิดว่ามีมึงคนเดียวรึไงที่จะเหยียบประเทศนี้ได้"
โลกันต์ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงยียวน ทั้งไข่หวานและขนมไข่ต่างก้มหน้าก้มตาไม่อยากสบตาซึ่งกันและกัน สาวสวยทั้งสองมีดวงหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกันมาก
"เหยียบประเทศนี้กูไม่ว่า แต่อย่าให้รู้ละกันว่ามึงคิดจะทำอะไร"
"หึ กูจะทำอะไรมันก็เรื่องของกู ถ้ามึงเก่งก็อย่ากลัวสิวะ"
"อย่างกูน่ะไม่กลัวหรอกไอ้โลกันต์ มีแต่มึงน่ะสิมุดหัวอยู่แต่ในกระดอง"
"กูไม่ได้ขี้ขาดอย่างมึงนะเว้ยไอ้ภูติณ เปิดกิจการเอาไว้แล้วต้องติดหนึบไม่ยอมกลับไทย ทำไม? กลัวคู่แข่งเหรอ หืม?"
น้ำเสียงของโลกันต์ยังคงยียวนกวนประสาท ภูติณรู้สึกเกลียดขี้หน้าคนตรงหน้านี้มาก
"ว่าแต่มึงเถอะ เดี๋ยวนี้หัดควงสาวออกนอกประเทศแล้วเหรอวะ?"
ภูติณลองถามกลับไปบ้าง ดวงตาคมของหนุ่มหน้าแขกตุรกีไล่มองไข่หวานตั้งแต่หัวจรดเท้า
"กูจะควงกับใครแล้วมึงเสือกอะไร?"
"พี่กันต์ ใจเย็นนะคะ ในวัดในวานะ"
ไข่หวานพยายามปรามหนุ่มรุ่นพี่ ส่วนขนมไข่นั้นไม่กล้าที่จะพูดอะไรเพราะมีสถานะเป็นรองอยู่มาก
"น่ารักนี่ผู้หญิงของมึง กูยืมสักวันได้ปะวะ"
ภูติณพูดออกมาแบบนั้นก็ทำเอาสาวข้างกายที่ควงอยู่แอบน้อยใจ พอมีไข่หวานเข้ามาเธอก็เป็นเพียงตัวสำรองที่ไม่มีค่าอะไรเลย เขาไม่ได้ต้องการเธอมาตั้งแต่แรก
"งั้นกูขอยืมผู้หญิงของมึงกลับได้ปะล่ะ"
โลกันต์สวนกลับมาแบบนั้นก็ทำเอาภูติณเดือดอยู่ในใจ แต่ก็เลือกที่จะใจเย็นแล้วยียวนกวนประสาทกลับ
"ก็เอาสิวะ แลกกันมั้ยล่ะ วินวินทั้งคู่"
ใจของขนมไข่ตัวน้อยแตกสลาย เด็กสาววัยสิบแปดจะต้องเจอความเสียใจเช่นนี้อีกกี่ครั้งกี่หน
ภูติณไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด คิดจะนกให้ใครก็ยก เขาไม่ได้ต้องการเราตั้งแต่แรกแล้วนี่ อย่าคิดมีใจให้เขาเชียวนะขนมไข่ เธอเตือนตัวเองในใจ
"หึ ทุเรศ! คนแบบกูไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก ไม่กินผู้หญิงต่อจากใคร!"
โลกันต์รับไม่ได้กับสิ่งที่ภูติณเสนอออกมา ยิ่งใช้ผู้หญิงร่วมกับศัตรูตัวฉกาจอย่างมันยิ่งไม่มีทาง
"ต่างจากกูเลยว่ะ กูล่ะชอบจริงๆของเหลือใช้ มันเร้าใจดีว่ะ"
ยิ่งได้ยินก็ยิ่งปวดใจสำหรับขนมไข่
ไข่หวานลอบมองน้องสาวต่างมารดา แค่ยืนคุยกันอยู่ตรงนี้ก็รู้สึกได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นร้ายมาก รู้สึกสงสารน้องสาวขึ้นมาจับใจ
ขนมไข่ต้องมาทนทุกข์ทรมานใจเพราะยอมสลับตัวมากับเธอแท้ๆเชียว
"ขนมไข่!"
"คะท่าน?"
ขนมไข่สะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นเจ้านาย
"กลับ!"
ภูติณควงขนมไข่เดินออกไป ระหว่างออกก็เดินกระแทกไหล่โลกันต์จนเขาเซ
"ว้าย! พี่กันต์! เป็นอะไรรึเปล่าคะ!"
ไข่หวานตกใจ โชคดีที่โลกันต์ไม่ถึงกับล้มลงไป
"ไม่เป็นไร"
โลกันต์ตอบกลับไปอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่อยากโมโหเพราะวันนี้ตั้งใจจะมาทำบุญ
ขนมไข่เดินควงแขนภูติณมาจนถึงด้านหลัง มังกรนั่งรออยู่ในรถ
"อ้าว พึ่งเข้าไปทำไมกลับเร็วจังครับท่าน"
มังกรรีบเอ่ยถามขึ้นมา
"เจอตัวเหี้ยในวัด"
"ฮะ?"
มังกรถึงกับงง
"พากูกลับโรงแรม"
ภูติณไม่พูดอะไรต่อ เข้านั่งไขว่ห้างแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ส่วนขนมไข่ก็นั่งก้มหน้างุดๆ รู้ว่าเขาอารมณ์เสียจึงไม่อยากกวนใจ
"ไอ้มังกร"
"ครับท่าน"
"ไข่หวาน ผู้หญิงของไอ้โลกันต์มาที่นี่ จังหวะที่ไอ้โลกันต์ออกไปทำงานมึงพาลูกน้องไปเอาตัวผู้หญิงคนนั้นออกมาให้ได้"
"แต่ท่านครับ ผมว่ามันคงเอาลูกน้องมาคุ้มกันอยู่ไม่น้อยเลย"
มังกรพูดอย่างเป็นกังวล ระดับฝีมือของทีมต่อสู้กับทีมบอร์ดี้การ์ดที่มีอยู่นั้นสูสีกัับฝั่งโลกันต์มากๆ เขายังมองไม่ออกว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ขนมไข่ได้ยินแบบนั้นก็หลับตาลงเบาๆ พยายามขับไล่น้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
อดทนไว้ขนม อย่าร้อง ต้องไม่ร้อง เราต้องไม่ร้องไห้ เธอคิดในใจแล้วพยายามสกัดกลั้นอารมณ์เสียใจ
อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด หากไข่หวานมาแทนตำแหน่งของเธอ เธอก็พร้อมจะยอมหลีบให้แต่โดยดี
ขนมไข่จะอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ไประรานหรือเรียกร้องหาความสงสารจากใครทั้งนั้น เธอจะดูแลความรู้สึกของตัวเอง
ภูติณในตอนนี้ไม่ได้สนใจขนมไข่ เขาเพียงอยากได้ไข่หวานเพื่อยั่วอารมณ์โมโหของโลกันต์
มึงเจอกูแน่ ไอ้โลกันต์:)