chapter 4 งานพิเศษ
chapter 4 งานพิเศษ
สโนว์กลับมาขึ้นรถอย่างคนอารมณ์เสีย ก่อนจะพบว่ารถเก๋งคันเก่าของเธอก็ดันเกิดสตาร์ทไม่ติดอีก
“บ้าเอ้ย อะไรกันเนี่ย”
จากที่กำลังเซ็งเพราะต้องหาเงินเอาไปคืนผู้ชายแปลกหน้า ซึ่งตอนนี้มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของเธอไปเรียบร้อยแล้ว
ยังต้องมาซวยซับซวยซ้อน เพราะรถดันมาเสียอีก ครั้นจะเรียกรถมาลากเอาไปซ่อมที่อู่ ซึ่งมันก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก เอาเฉพาะค่าลากรถก็พันห้า ไหนจะค่าซ่อมรถของตัวเองหลังจากนี้อีก ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากมายขนาดนั้น ส่วนเงินในบัญชีที่มีอยู่สองหมื่นสโนว์ตั้งใจจะเก็บรวบรวมเอาไปให้คืนเขา
แต่ถ้าจะโทรไปขอเงินพ่อแม่ก็ใช่เรื่อง เพราะเธอรู้ว่าคงต้องโดนบ่นชุดใหญ่แน่
สุดท้ายเมื่อถึงทางตัน สโนว์เลยตัดสินใจเดินไปบอกคนดูแลลานจอดรถให้ช่วยเข็นรถของเธอเอาไปไว้ที่ลานจอดรถของผับก่อน ค่อยหาแก้ปัญหาเอาใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ใช่ในตอนนี้
เธอได้แต่ยืนเซ็งอยู่ที่ริมฟุตบาตเพื่อรอเรียกรถแท็กซี่ ก่อนจะเห็นผู้หญิงในชุดเซ็กซี่สองคนเดินคุยกันออกมา
“โอ๊ยตาแก่นั่น ทิปหนักเป็นบ้า เนี้ยให้ฉันดื่มสามแก้วให้มาสามพัน ฟันก็ไม่ได้ฟันโง่ชะมัด”
“พวกผู้ชายก็โง่ๆ แบบนี้ทั้งนั้นแหละ แค่อ้อนๆ หน่อยก็พร้อมเปย์”
“นี่ยังไม่ถึงเดือนฉันได้มาสี่หมื่นแล้วนะแก”
“อย่ามาขิงย่ะ เพราะฉันก็ได้มาห้าหมื่นภายในสองอาทิตย์เหมือนกัน”
หมับ!
“พี่สองคนทำงานอะไรกันเหรอคะ”
สโนว์ดวงตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง พร้อมกับจับแขนผู้หญิงตรงหน้า แค่ได้ยินว่าไม่เสียตัวแถมได้เงินเยอะขนาดนั้นตาก็ลุกวาว
“ทำไมคะ หนูอยากทำงานเหรอ” แม้จะเป็นคำถามธรรมดาแต่สายตาคนทั้งคู่แอบมองเหยียด
“คือพอดีหนูอยากหาเงินไปซ่อมรถ” สโนว์ชี้เข้าไปข้างไปทางลานจอดรถที่มีรถเก๋งเก่า ๆ ของเธอจอดอยู่
“ก็งานชงเหล้าธรรมดา”
“แค่ชงเหล้าแล้วได้เงินเป็นหมื่น ๆ เลยเหรอคะ”
“ก็ทำนองนั้น อยากทำไหมล่ะ”
“แกอย่าไปฝากงานใครซี้ซั้วสิ เดี๋ยวก็เสียชื่อแกหรอก” ผู้หญิงอีกคนเบะปากใส่สโนว์ก่อนดึงแขนไม่ให้เพื่อนของเธอเข้าไปยุ่ง
“นะ หนูไม่ทำเสียแน่นอนค่ะ”
“นี่หนูน้อย อายุเธอคงไม่ถึงเกณฑ์แน่ ๆ กลับไปเรียนหนังสือไป๊”
“หนูอายุยี่สิบแล้วค่ะ” สโนว์ยิ้มแห้งเพราะเธอติดปากชอบแทนตัวเองว่าหนู แถมยังตัวเล็กสภาพเลยไม่ต่างกับเด็กมัธยมปลายทั่วไป
“ยี่สิบ?”
“อืมช่วยเด็กมันเถอะแนน พวกเราก็เคยลำบากแบบนี้มาก่อนไม่ใช่เหรอ” พี่คนสวยหันไปยิ้มให้เพื่อนก่อนหันมาคุยกับสโนว์ต่อ
“พรุ่งนี้มาหาพี่ตอนหนึ่งทุ่มก็แล้วกัน จะฝากงานให้ อ่อพี่ชื่อจุ๊บแจงนะ”
“คะ พี่จุ๊บแจงขอบคุณมากเลยนะคะ”
สโนว์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้งานที่ได้เงินดีมาก ๆ แต่ก็แอบกังวลว่าหากเลิกงานดึก ตัวเองจะกลับบ้านยังไง
“จริงสิ เวสป้าบ้านคุณพ่อ”
นี่เป็นสิ่งเดียวที่สโนว์คิดจะรบกวนท่าน ก่อนที่เธอจะรีบโทรพ่อแล้วหาข้ออ้างว่าเอารถเข้าอู่ ทั้งที่ตัวเองยังคิดไม่ตกเลยด้วยซ้ำว่าจะหาเงินมาซ่อมรถได้ยังไง
ที่สำคัญเธอจะหาเงินแสนรวดเร็วขนาดนั้นเอาไปใช้หนี้หมอนั่นได้อย่างไร อย่างเก่งก็คงรวบรวมให้มากที่สุดแล้วค่อยต่อรองเขาอีกที
สโนว์กลับถึงหออย่างเหนื่อยอ่อน เธอถึงได้รู้ว่าเพื่อนรักที่อุตส่าห์เป็นห่วงนักเป็นห่วงหนาจนทำให้ตัวเองเดือดร้อน ดอดไปอยู่กับแฟนที่คอนโดซะแล้ว ส่วนเธอในตอนนี้ต้องมานั่งเซ็งอยู่คนเดียว เพราะกำลังปวดหัวกับเงินที่ต้องหาใช้หนี้ ไหนจะค่าซ่อมรถอีก
เฮ้อ…ดีนะที่เธอยังมีมาม่าตุนไว้ยกแพ็ค จากนี้ไปเธอคงต้องเขียมให้มากขึ้น
วันรุ่งขึ้นหลังเลิกเรียนสโนว์มาขอทำงานเป็นเด็กชงเหล้าตามที่นัดหมายเอาไว้ ตอนแรกผู้จัดการก็ไม่อยากรับเพราะสโนว์ดูเด็กกว่าอายุมาก ดีว่าพี่จุ๊บแจงมาช่วยคุยและการันตีรับปากว่าสโนว์ทำงานได้แน่
“ขอบคุณนะคะพี่จุ๊บแจง หนูไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอนค่ะ”
“อืม ตั้งใจทำงานก็แล้วกัน งานพวกเราไม่มีอะไรมากก็แค่ชงเหล้า เอาใจลูกค้า ถ้าเอาใจเก่งก็ทิปหนัก”
“อ่าค่ะ หนูว่าหนูทำได้”
“งานพวกเราเริ่มสองทุ่มครึ่ง สโนว์ไปหาอะไรกินก่อนสิ แล้วค่อยกลับมาแต่งตัว”
“ได้ค่ะพี่” สโนว์ยิ้มรับก่อนจะออกจากห้องพักพนักงาน เธอตั้งใจว่าจะไปดูรถของตัวเองที่ยังคงจอดทิ้งเอาไว้ที่ลานจอดรถด้านหน้า
ทว่าพอลับสายตาจากห้องผู้จัดการ จุ๊บแจงที่เดินตามหลังออกมา ก็เบะปากออกมาทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งทำเป็นตัวเป็นนางฟ้าต่อหน้าสโนว์
“อะไรกันยะยายแจง ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” แนนมองหน้าเพื่อนสาวที่เปลี่ยนสีหน้าไวมาก
“หน้าแบบไหนย่ะหล่อน”
“ก็หน้าแบบที่แกทำอยู่ ว่าแต่แกไปการันตียัยเด็กนั่นทำไมอะแจง”
“อ๋อ หึ หึ แกดูสิยัยแนน เห็นไหมยัยเด็กนั่นดูจืดชืดจะตาย”
“ก็ใช่ แล้วไง”
“ก็ไม่แล้วไง แกคิดดูสิ ถ้าพวกเราหาคนไม่สวยมาทำงานพวกเราก็ยิ่งดูสวยขึ้นยังไงย่ะ แล้วพอตำแหน่งพวกเราเต็ม ผับก็ไม่รับคนเพิ่มเข้าใจป่ะ หรือแกจะรอให้พวกที่หนีมาจากผับอื่นมาwalk in สมัครงานแล้วมาสวยแข่งกับพวกเราเหรอ”
จุ๊บแจงทำท่ายักไหล่
“โห…แกคิดได้ไงเนี่ย”
“แล้วแกดูนะ ยัยเด็กนั่นหัวอ่อนลองถ้าเจอลูกค้ารวย ๆ สายเปย์ เราจะได้ขอยัยเด็กนั่นดูแลแทน ง่ายจะตาย”
“แกมันร้าย ฉันก็นึกว่าแกแม่พระ”
“ถ้าฉันเป็นแม่พระ ฉันคงไปบวชชีอยู่ที่วัด ไม่มาเป็นเด็กเอนแล้วเป็นเพื่อนแรด ๆ กับแกได้หรอก”
“ย่ะ ฉันแค่แรดแต่แกอะทั้งแรดทั้งร้าย”
“คิ คิ ก็พอกันทั้งคู่แหละย่ะ เออ ว่าแต่แกเหอะแนน ไหนว่าจะจับคุณเตชินคืบหน้าบ้างหรือยังเถอะ”
“คุณเตชินเหรอ เขาก็คงชอบฉันแหละเพราะฉันก็นอนกับเขาหลายครั้งแล้ว ในเมื่อฉันไม่ได้คุณเอริค ได้น้องชายคุณเอริคก็ยังดี”
สองสาวยิ้มให้กันก่อนจะพากันไปที่ห้องแต่งตัวพนักงาน