chapter 3 ค่าเสียหาย
chapter 3 ค่าเสียหาย
เห็นผู้ชายเชิ้ตดำหน้าหล่อเดินตรงมาทางเธอใกล้เข้ามา สโนว์ก็อาศัยความตัวเล็ก และใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที วิ่งหนีออกมาจนถึงลานจอดรถที่จอดรถของเธอ พร้อมกับหอบหายใจแฮ่กอย่างหมดแรง ก่อนจะเข้ามาในรถพร้อมกับฟุบหน้ากับพวงมาลัยเพราะหายใจแทบไม่ทัน
“อะไรกันเนี้ย”
ไม่คิดว่าเพราะความเป็นห่วงเพื่อนจนรีบมารับ จะกลายเป็นโดนเพื่อนเทแล้วหายหัวไปกับแฟน ส่วนตัวเองก็ดันไปหาเรื่องใส่ตัวอีก
รถเก๋งคันเก่าออกสตาร์ทเพื่อจะหนีจากสถานการณ์ที่น่าอันตรายด้วยความรวดเร็ว จนเกือบจะถึงทางออก ไม่คิดว่าวาวาเพื่อนของเธอจะโทรกลับมาพอดี สโนว์เห็นเข้าเลยรีบกดรับสายทันที
“แล้วแกอยู่ไหนอ่ะ สโนว์”
“กลับหอสิถามได้! อยู่ทำเพื่อ!”
“เออ ฉันก็จะบอกว่ากลับหอกับต้นแล้ว ขอบใจแกมากนะ ที่อุตส่าห์รีบมาหาฉัน แล้วก็ขอโทษด้วยนะเว้ยเพื่อน ฉันซึ้งน้ำใจแกมาก”
“เออ ไม่เป็นไร เพื่อนกัน”
เพื่อนเล่นบทขอโทษพลางเอ่ยแบบซาบซึ้งน้ำใจแบบนี้ สุดท้ายเธอก็โกรธเพื่อนไม่ลง เธอรีบตัดสายวาวา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองทาง
“ว้าย!”
เอี๊ยดดด!
โครมมม!
“ซะ ซวยรอบสอง”
รถของสโนว์ชนท้ายรถพอรช์สีดำคันหน้าที่กำลังจะออกจากปากทางของผับ เพราะเขาหยุดชะลอดูรถจากถนนใหญ่ ทำให้เธอซึ่งไม่ทันมองจนเบรคไม่ทันแล้วชนท้ายใส่รถคันหน้าอย่างจัง
มองสภาพรถกระป๋องของตัวเองที่ข้างหน้ายู่ไปเล็กน้อย กับท้ายรถหรูท้ายคันหน้าที่มีรอยสีถลอกไม่มาก สโนว์ถึงกลับหน้าเสียก่อนจะเปิดประตูรถไปจากรถเพื่อเคาะกระจกเรียกอีกฝ่ายให้ลงมา
“ขะ ขอโทษนะคะ คือหนูไม่ทันมอง…อ่า…”
กระจกรถพอร์ชที่เลื่อนลงมาพร้อมกับใบหน้าของผู้ชายคนนั้น
“คะ คุณ!”
“อีกแล้วเหรอ เธอนี่มัน!”
เขาลงจากรถพร้อมปิดประตูรถเสียงดัง จากตอนแรกที่หมดอารมณ์คั่วผู้หญิง เพราะรู้สึกจุกจากการโดนสโนว์กระแทกกล่องดวงใจเลยโมโหรีบจะกลับบ้าน ส่วนสโนว์ก็คิดไปเองว่าเขาจะตามเธอมา ทั้งที่จริงไม่ใช่เลยคือมันแค่เป็นทางออกซึ่งเขาจะกลับออกมาพอดีเลยแยกกับผู้หญิงชุดแดงตรงนั้น
“คะ คุณแกล้งเบรกรถกะทันหันใช่ไหม!”
“ผมเปิดไฟท้ายแล้ว กำลังรอดูรถจากถนนใหญ่”
สโนว์มองตามความเป็นจริงก็พอจะเข้าใจได้ว่าตัวเองผิด แต่ที่สำคัญรถตัวเองประกันเพิ่งหมดไปหมาด ๆ และเธอยังไม่ได้ไปต่อมันด้วยซ้ำ แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่วายเถียงข้าง ๆ คู ๆ ว่าตัวเองไม่ผิด
“คุณต่างหากที่เบรกรถกะทันหัน”
“หึ…หรือว่านี่เป็นวิธีอ่อยผู้ชายแบบใหม่สินะ”
“ห๊ะ! อ่อย? คุณว่าอะไรนะคะ?”
“นี่เธออยากรู้จักฉันถึงขนาดลงทุนขับรถชนท้าย?”
“จะบ้าเหรอคะ หนูไม่ทันมองด้วยซ้ำว่ามีรถจอดอยู่ข้างหน้า หนูจะรู้ได้ไงว่าเป็นรถของคุณ อ๊ะ” สโนว์รีบยกมือปิดปาก
“สรุปว่าไม่ได้มองสินะ?” เขาเลิกคิ้วมองสโนว์ ก่อนยกมือขึ้นมากอดอกแล้วเอาตัวเองพิงกับขอบรถสายตาคมกริบกำลังนึกขำสโนว์ที่ยืนหน้าเสียทำท่าเหมือนคนจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพลาดรับสารภาพผิดไปซะแล้ว
ก่อนที่บรรดาการ์ดของผับนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้ามา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่มี พวกนายไปดูตรงอื่นเถอะ ตรงนี้เรื่องเล็กน้อย” เขาหันไปพูดกับการ์ดของผับที่กำลังมาถึง
"ว่าไงให้โทรเรียกประกัน"
"ประกันรถหนูเพิ่งขาด"
"เฮ้อ หรือไปตกลงค่าเสียหายที่โรงพัก นี่ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอมากหรอกนะเด็กน้อย เสียเวลา!" เอริคถอนหายใจแรง สายตาคมกริบจ้องมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้า
ในขณะที่สโนว์เหมือนสมองอื้ออึงมึนงงและไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อ เธอได้แต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
“โอเคค่ะ นะ หนูจะจ่ายค่าเสียหายให้ ในบัญชีมีอยู่สองหมื่นโอนให้คุณก่อนก็ได้ ไม่ ๆ ขอโอนก่อนหมื่นเก้า ขอเก็บไว้พันหนึ่งเอาไว้ไปเรียน”
“คิดว่าเศษเงินหมื่นเก้าพอค่าซ่อมรถ?”
“ละ แล้วคุณจะเรียกเท่าไหร่ล่ะ”
“แสนหนึ่ง”
“บ้าไปแล้ว เงินตั้งแสนหนูจะไปเอามาจากไหน”
“เพิ่มข้อหาทำร้ายร่างกายด้วยอีกหนึ่ง เมื่อกี้เธอทำร้ายฉัน”
“ทำร้ายร่างกาย?”
“ตรงนี้” เขาชี้ไปตรงเป้า แล้วสายตาของสโนว์ก็ดันเผลอไปมองตามมือเขาจริง ๆ
ซึ่งจุดที่เขาชี้อยู่ ขนาดว่ามันอยู่นิ่ง ๆ ใต้กางเกง สแลคสีดำก็เหอะ แต่สโนว์ก็เดาได้ว่าขนาดมันคงไม่ธรรมดา เพราะยังแอบเห็นความตุง ๆ อยู่ตรงนั้น
อึก…เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“จะมองอีกนานไหม หรืออยากมองข้างในด้วย”
กึก!
“บะ บ้าเหรอคะ”
“งั้นก็ว่ามาเรื่องค่าเสียหาย”
“ขะ ขอเวลาหนึ่งเดือน หนูจะหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณ เอ่อ รถคุณด้วย”
“นานไป”
“จะบ้าเหรอ งั้นตั้งแสนคุณคิดว่าหนูจะไปหาเงินชดใช้คุณไวขนาดนั้นจากไหน”
“ไม่รู้ เพราะเธอเป็นคนขับชนเอง”
“ขอเวลาสัก สะ สองอาทิตย์ได้ไหมคะ งั้นวันนี้คุณเอาไปก่อนหมื่นเก้าแล้วกัน เอาเลขบัญชีมาหนูโอนให้”
“หมื่นเก้ากินมื้อเดียวก็หมด เธอเก็บไว้กินข้าวเถอะ”
-คนบ้าอะไรกินมื้อละหมื่นเก้า บ้าชะมัด- สโนว์นึกหมั่นไส้อยู่ในใจ
“งั้นเอาเบอร์คุณมา เดี๋ยวหนูได้เงินแล้วจะติดต่อเรื่องโอนเงินค่าเสียหายไปให้”
“แล้วถ้าเธอไม่โทรมาล่ะ”
“หนูไม่ใช่คนแบบนั้น!”
“เอาเบอร์เธอมา” ไม่พูดเปล่าเขายังคว้าโทรศัพท์จากมือของสโนว์ที่กดค้างหน้าจอเอาไว้ แล้วกดเบอร์มือถือของเขาพร้อมเมมชื่อไปว่า ‘เจ้าหนี้’ ก่อนส่งกลับคืนไปให้เธอ
“สองอาทิตย์! ถ้าเธอไม่โทรกลับมา หรือหาเงินมาชดใช้ฉันตามเธอถึงมหาวิทยาลัยแน่”
“ห๊ะ คุณรู้ได้ไงว่าหนูเรียนที่ไหน”
“รูปหน้าโปรไฟล์ในโทรศัพท์”
เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะกลับเข้าไปในรถแล้วขับออกไป ทิ้งสโนว์ให้ยืนเหวอมองรายชื่อที่เขาเมมทิ้งเอาไว้
“เจ้าหนี้ งั้นเหรอ”
“โอ๊ย ทำไมซวยแบบนี้เนี่ย จะไปหาเงินจากไหนมากมายขนาดนั้น”