ตอนที่ 2 ปัณณ์ บอสสาว
ภายในบ้านเดี่ยว ตั้งอยู่ชานเมืองหากข้ามไปอีกนิด เธอก็ได้ทะเบียนบ้านเป็นอีกจังหวัดแล้ว
ชั้นล่างนอกจากใช้รับแขก พื้นที่ด้านข้างยังถูกต่อเติมทำเป็นห้องทำงานเล็ก ๆ หลังคาทึบครึ่งหนึ่ง หลังคาใสกับผนังกระจกบานใหญ่อีกครึ่งหนึ่ง เจ้าของบ้านคิดไว้ว่าจะใช้ถ่ายงานบางครั้งบางคราว
หญิงสาวกำลังไล่อ่านแช็ตจากคนสำคัญ คนที่เธออยากเจอ แต่มันเนิ่นนานจนดูเหมือนหมดหวังที่จะพบกัน
Rrrrrr
Rrrr
“สวัสดีค่ะ” เธอรับสายเบอร์แปลกที่โทรเข้า
[ผมเองนะครับ ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร แต่ผมไม่แน่ใจว่าทางคุณยังอยากให้ทำงานต่อหรือเปล่า เพราะมันก็หลายปีแล้ว แต่ผมก็ยังหาคนคนนั้นไม่พบ]
“ทำต่อค่ะ ช่วยทำต่อไปก่อน เราจะหาจนกว่าจะเจอ”
[เข้าใจแล้วครับ ผมแค่เกรงว่าคุณจะเสียเงินรายเดือนไปเปล่า ๆ ดูเหมือนคุณวีพยายามปกปิดตัวเองมากกว่านะครับ]
“ไม่หรอกค่ะ พี่วีเป็นคนที่ชอบออนไลน์มาก การที่เธอหายไปแบบนี้ฉันภาวนาให้เราหาเจอค่ะ”
เธอไม่อยากพูดไป อันที่จริง หากพี่วีไม่มีชีวิตแล้ว อย่างน้อยก็ต้องพบศพ นั่นคือสิ่งที่เธอคิดไว้ มันไม่ใช่การมองโลกแง่ร้าย แต่เธอกำลังเผื่อใจไว้ต่างหาก
การจ้างนักสืบตามหาผู้หญิงคนหนึ่งที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปจากวงการโมเดลลิง ที่ไม่มีญาติหรือครอบครัวที่จะช่วยให้เบาะแส หรือแม้แต่ช่วยแจ้งสูญหายหรือเสียชีวิต หากนับเวลาจริง ก็เกือบ 2 ปีแล้วที่ปัณณ์ติดต่อทำงานกับนักสืบคนนี้
ข้อมูลที่ได้จากนักสืบ คือ พี่วีหรือคุณวี แห่งไอวีริช บริษัทจัดหานายแบบ นางแบบ และพริตตีให้กับเอเจนซีสายอีเวนต์ บริษัทนี้เคยมียุคทองที่ใคร ๆ ก็เรียกใช้ แต่แล้วจู่ ๆ ผู้บริหารสาว ก็เริ่มหยุดรับงาน ยกเลิกสัญญากับเด็กในสังกัด
จังหวะที่เธอค่อย ๆ เฟดตัวหายไปจากวงการ แปลกเหลือเกินที่ไม่มีใครรู้หรือสังเกตว่า เธอหายไปไหน
“ฉันอยากเจอเธอให้ได้ค่ะ ช่วยทีนะคะ”
[ครับ ผมจะหาต่อไป]
“ค่ะ รบกวนโทรมาอัปเดตแบบนี้ทุกเดือนเหมือนเดิม ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย”
[รับทราบครับ]
ใบหน้าไร้เครื่องประทินโฉมใด ๆ เพราะอยู่บ้านคนเดียว ผิวพรรณเต่งตึงไปทุกส่วนยกเว้นหัวคิ้วขมวดย่น เธอไม่เครียดกับเรื่องพี่วีแล้ว ตอนนี้ปล่อยไปตามยถากรรม เจอก็ดี ไม่เจอก็หาไปเรื่อย ๆ เธอรวย เธอจ้างไหว ค่าสืบแค่เดือนละหมื่นเอง
“เฮ้อ!” เสียงพรูลมหายใจบ่งบอกอารมณ์
หลังจากหนึ่งงานที่ทำเป็นกิจวัตรรายเดือนจบไป เธอไล่งานอื่นในอีเมลบริษัทอีก มือถือวางไว้บนโต๊ะทำงาน สายตาย้ายมาสนใจจอคอม เปิดดูเอกสารต่าง ๆ
Rrrrrr
Rrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้จากน้องในออฟฟิศ
[พี่ปัณณ์ เขาเมลมาอีกแล้วค่ะ]
เลขาสาวไม่พูดพร่ำทำเพลง เพียงเธอเห็นว่าแอ็กเคานต์บอสออนไลน์ ก็รีบโทรหาเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายน่าจะเห็นแล้วเหมือนกัน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ดูเอง”
สำหรับยุคที่คนมองเห็นโอกาสแล้วรู้จักเรียนรู้ และลงมือทำด้วยความวิริยะอุตสาหะแม้เจออุปสรรคขัดขวาง ก็ไม่อาจทำให้ล้มเลิกหรือหยุดยั้งความตั้งใจ เธอประสบความสำเร็จด้วยระยะเวลาสั้นกว่าคนทำธุรกิจในยุคสมัยเก่าก่อน ปัจจุบันนี้เธอกลายเป็นผู้มีรายได้สูงแม้อายุยังน้อย
ปัณณ์ - ปัณณ์ทิชา สุขนิยม บอสสาวแห่งปัณณ์แลบ (PUNLAB) อายุ 28 ปี วางมือถือลงด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะพยายามปฏิเสธงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่ยื่นมาให้หลายครั้งมาก แต่ทางนั้นก็ไม่ยอมรามือเสียที
ป้าก!!!
เสียงพิมพ์งานดังเกินปกติ เพราะสาวสวยเริ่มโมโห เธออ่านอีเมลกลับไปกลับมา เปิดดูทั้งฉบับเก่า ฉบับใหม่ เห็นข้อความที่เลขานุการช่วยตอบ อ่านทวนแล้ว รู้สึกว่าทีมงานของเธอตอบได้ชัดเจน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เลิกล้มความพยายาม
“คุณไต้ฝุ่น แหม...ยอดผู้ติดตาม 7 ล้าน แล้วจะมาแคร์ทางนี้ทำไมเนี่ย APN นี่มันยังไงกันยะ ฉันจะเครซี่แล้วนะ เป็นอิหยังนักหนา อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจหรือยังไง แม่อยากจะโทรกลับไปสปีคใส่หน้าจริง!”
ปัณณ์ พิมพ์ภาษาอังกฤษตอบกลับไปหาผู้จัดการฝ่ายการตลาด เพราะทางนั้นส่งเมลภาษาอังกฤษมายืดยาว พร่ำเพ้อถึงผลดีของการได้คอลแลบงานร่วมกัน
“ถามด้วยค่ะ ว่าอยากร่วมงานด้วยมั้ย”
ป้าก ป้าก ป้าก!!!
“เรียบร้อย”
คนสวยตอบอีเมลกลับไป ท่าทางตอนพิมพ์นั้นช่างใส่อารมณ์เหลือเกิน แต่ข้อความที่ส่งกลับแปลไทยได้ว่า...
คุณจินคะ ฉันดีใจมากที่ทาง APN ใส่ใจและยื่นข้อเสนอมากมายให้ แต่ทางฉันต้องขออภัยจริง ๆ
ฉันไม่ได้รับงานรีวิวหรือทำคอนเทนต์แล้วค่ะ และถ้าทาง APN สนใจอินฟลูเอนเซอร์ท่านอื่น ๆ ฉันเองก็ยินดีจะแนะนำให้ เพื่อตรงตามแผนการตลาดที่คุณจินอธิบายมา หวังว่าทางคุณจะเข้าใจ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
ปัณณ์
----
@ APN DEPARTMENT STORE
ห้างสรรพสินค้าแหล่งรวมแบรนด์ระดับไฮเอน ลานจอดรถไม่เคยว่างสำหรับคนทั่วไป ไม่ว่าจะวันธรรมดาหรือวันหยุด แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้า VIP ขึ้นไป รถของคุณจะถูกนำไปจอดไว้ในลานรวมของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อระดับเดียวกัน พร้อมบริการพิเศษมากมายที่ทำให้บรรดาเศรษฐีทั้งหลายอยากจะทิ้งเงินไว้ที่นี่ปีละสองสามร้อยล้าน
ห้างของ APN ปกติแล้ว ถ้าไม่จำเป็น เธอไม่มาหรอก ปัณณ์ขับรถวนหาที่จอดอยู่สองรอบแล้ว แต่ยังไม่ได้ ดูท่าวันนี้เธอต้องยอมใจ อาจต้องขับไปหาที่จอดแถวโรงแรมใกล้ห้างแทน
แม้หาที่จอดไม่ได้ บอสสาวก็ไม่หงุดหงิด ไม่ใช่เพราะอะไร ก็คนที่ทำให้ลานจอดเต็มวันนี้ อาจจะเพราะบริษัทของเธอจัดงานอยู่ในห้าง และบรรดาแฟนคลับของแขกรับเชิญต่าง ๆ คงกำลังช่วยสร้างสีสันให้กิจกรรมเป็นที่รู้จัก ป่านนี้ชื่ออีเวนต์คงกลายเป็นคอนเทนต์ยอดฮิตติดเทรนด์ไปทุกแพลตฟอร์มแล้ว
[บอสมายังคะ] เลขาสาวรีบโทรหา
“มาแล้ว กำลังเดินอยู่ที่ทางเชื่อมจากโรงแรมไปห้าง ตอนนี้ทุกคนมาครบกันยัง” ปัณณ์ถาม
[ยังค่ะ ขาดช่องคุกกี้แชมปิยอง]
“หืม...นางอยากลองของสินะ”
[เหมือนไลฟ์ว่าอยู่บนรถ]
“หึ! ไม่ใช่ว่าขับไปไลฟ์ไปนะ”
[อ่อ ไม่ค่ะ ๆ ทีมงานเรามอนิเตอร์อยู่]
บอดีการ์ดของงานมารอรับบอสสาวที่ทางเชื่อมตามที่เลขานุการสั่ง เพียงปัณณ์ก้าวขาถึง ณ หน้าลานจัดงาน
“คุณปัณณ์ มาแล้ว!!!”
ไม่ใช่แสงแฟลชของนักข่าวหรือแฟนคลับ แต่เป็นกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทั้งสายนูทูป ต๊อกตอก หรืออิมสตาแกรม ต่างเดินลงจากเวทีแบบที่ไม่แคร์สคริปต์ เพื่อมาจูงมือพาบอสเข้างาน
และไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเคลื่อนตัวไปทางไหน กล้องถ่ายทั้งจากนักข่าวและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กล้องนับพันจากแฟนคลับ ต่างหมุนตามผู้ที่พวกเขารักใคร่
รูปของ ปัณณ์ เข้าไปอยู่ในทุกช่องอย่างรวดเร็ว บอสสาวยิ้มทักทายบรรดาครีเอเตอร์ ก่อนจะเริ่มบทพูดตามแผนงานอีเวนต์ปกติ
และในช่วงท้ายตามสคริปต์...
“...ปัณณ์มีแอ็กเคานต์อิมสตาแกรมตั้งแต่ ม.1 ทำช่องตอน ม.2 ยาวนานมาก ๆ จริงค่ะทุกคน
ตอน ม.ปลายอกหักก็เป็นคอนเทนต์นะ จำได้ว่าระบายไป ร้องไห้ไป ยอดผู้ชมในคลิปก็ถล่มทลาย...แล้วปัณณ์ก็ได้เข้าวงการเลยล่ะ ตลกดีมั้ย
อ่า...เห็นหลายคนก้มดูหน้าจอ ไม่ต้องไปหาย้อนดูนะคะ ช่องนั้นปิดไปแล้ว ไม่ไหวค่ะ อายจริง ๆ
แต่นั่นแหละ ที่อยากบอกทุกท่าน ข้อดีของออนไลน์คือ มันไปไว ทั้งข่าวดีและข่าวร้าย มันลบและเพิ่มเข้าไปได้ ถึงมันจะทิ้งเนื้อหาเรื่องของเรา แต่เราก็ปั๊มเรื่องใหม่ ๆ เข้าไปกลบเรื่องเก่าได้เช่นกัน
เห็นมั้ยว่าไม่มีใครพูดถึงคลิปเด็กม.ปลายผีบ้าร้องไห้ถ่ายคลิปแล้ว
อย่ากลัวที่จะลองลุย ไม่โอเคก็ลบทิ้ง
อย่ากลัวที่จะเอ่ยปากขอช่องข้าง ๆ ว่ามาคอลแลบด้วยกันมั้ย
และอย่าหยุดสร้างสรรค์คอนเทนต์ดี ๆ ลงในหน้าฟีดของคุณ
วันนี้ปัณณ์แลบ และเหล่าครีเอเตอร์ทุกคน หวังว่าเราจะได้เพื่อนร่วมงานช่องใหม่ ๆ เพราะโลกออนไลน์มีพื้นที่ว่างให้พวกคุณเสมอ เต็มที่เลยนะคะ ทีมงานเรารอชมพลังของคุณอยู่”
เสียงกรี๊ด และเสียงปรบมือสนับสนุน พร้อมการโบกมือให้กล้อง ปัณณ์รับช่อดอกไม้จากตัวแทนครีเอเตอร์ที่มียอดซับสูงสุดในบริษัทของเธอ
หลังจากนั้น ไม่ว่าการแสดงใด ๆ ที่ถ่ายทอดจากครีเอเตอร์สายร้องเพลงคัฟเวอร์ สายบิวตีบล็อกเกอร์ หรือสาย How To ต่าง ๆ ทุกคนต่างเต็มที่ จนแฮชแท็กชื่องานแพร่สะพัดไปทั่ว และแม้บอสสาวจะไม่ได้ร้องขออะไร เหล่าครีเอเตอร์ก็ใส่แอ็กเคานต์ของเธอลงในช่องทางที่อัปเผยแพร่ภาพอยู่
ปัณณ์เดินลงเวทีไปพร้อมกับบอดีการ์ดอีกครั้ง เลขานุการตัวเล็กรีบยื่นขวดน้ำดื่มให้
“คุกกี้มายัง โรส” เธอถามเลขา
“มาแล้วค่ะ นางกำลังเตรียมไลฟ์พาเดินทัวร์งาน”
“วันนี้เป็นไง”
“ยอดผู้ลงทะเบียน...”
“ไม่ ไม่เอาเรื่องนั้น กระแสน่ะ เป็นไง” ปัณณ์พูดไกด์สิ่งที่เธอต้องการให้น้องเลขาทราบ
“อ่อ เราติดเทรนด์หนึ่งในสามทุกแพลตฟอร์มค่ะ สปอนเซอร์คงแฮปปี้น่าดู” โรส บอก
“แล้วยอดผู้ติดตามของพวกนาโนขึ้นด้วยมั้ย”
“สักครู่นะคะ” เลขาสาวเปิดเข้าแอปของระบบหลังบ้านที่สามารถเลือกได้ว่าจะเข้าดูสถิติเหล่าครีเอเตอร์ในรูปแบบใดบ้าง
“กลุ่มยอดผู้ติดตามหลักหมื่นอัป จะมีเปอร์เซ็นต์ขึ้นเยอะสุดค่ะ แต่กลุ่มหลักพัน ยังไม่ค่อยเคลื่อนเท่าไร”
“คงจมน่ะ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวรอกิจกรรมกลุ่ม พวกเขาจะได้ฉายแสง”
ปัณณ์ยกยิ้ม...เธอเคยเป็นแค่นักรีวิวตัวน้อยในสมัยเรียน ทำเพจทำช่องมาตั้งแต่แพลตฟอร์มต๊อกตอกยังไม่เปิดตัวเสียอีก คนเราทำเป็นพัน ๆ โพสต์มันต้องปังบ้างแหละ เธอคิดแบบนั้น...และเธอก็คิดถูกเสียด้วย
ถึงจะไม่ได้ดังเป็นพลุแตก ติดลมบน แต่ยุคนั้น ตัวตนในโลกออนไลน์ของปัณณ์ ดันไปเข้าตาเอเจนซีที่ดูแลพริตตี นางแบบ เส้นทางที่จะปูผู้คนเข้าสู่วงการ และเธอไม่ปฏิเสธโอกาสนั้นที่เข้ามาหา
ชีวิตเหมือนกำลังไปได้ดี แต่คนเราก็คงมีบ้างที่ตัดสินใจผิดพลาด เธอล้มลุกคลุกคลานอยู่หน่อย โชคดีที่เจอคนดี ๆ มาหนุนนำ ทำให้ผ่านเรื่องแย่ ๆ จนกลายมาเป็นปัณณ์ เจ้าของปัณณ์แลบ อย่างทุกวันนี้
“ว้าย! ทุกคน ตามมาเลยค่า ตามมาเลย ตอนนี้คุกกี้อยากพาไปเจอตัวเป็น ๆ จังเลย เบื้องหลังความสำเร็จของพวกเราที่เป็นผู้ผลักดัน ดูแล และช่วยปกป้องครีเอเตอร์
ก่อนคุกกี้จะหันกล้องไป แต่ว่าต้องขอถามบอสก่อนนะคะว่าพร้อมมั้ย...คุณปัณณ์คะ คุกกี้ขอไลฟ์หน่อยนะคะ
โอเคน้า...เอาล่ะทุกคน พร้อมใช่มั้ย ฝากกดใจรัว ๆ ให้คุณปัณณ์หน่อยนะคะ แท้แด!!!!”
ไม้เซลฟี่หันขวับเปลี่ยนทิศ กล้องหน้าของมือถือราคาครึ่งล้านสาดเลนส์พร้อมฟิลเตอร์ปรับให้ทั้งคู่ดูสวยผ่องสดใสทะลุไลฟ์เข้าไปอีก
“หวัดดีค่าเอฟซีคุกกี้ทุกคน”
“คุณปัณณ์ คุกกี้มาสายขอโทษด้วยนะคะ แต่ว่างานวันนี้คนเยอะมากเลย คุณปัณณ์เจอมั้ยคะ เหล่าครีเอเตอร์ตัวน้อยที่ปีนี้บริษัทจะพาพวกเขาไปสู่แสนฟอลโลเวอร์”
“เดี๋ยวตอนทำกิจกรรมกลุ่มน่าจะได้เห็นความสามารถของทุกท่านมากยิ่งขึ้น”
“อ๋า น้องมุกถามว่าออนไลน์ก็ได้ทำไมต้องจัดอีเวนต์” คุกกี้อ่านคอมเมนต์ที่ไหลเป็นสายน้ำขณะไลฟ์ แต่เธอเลือกคำถามที่น่าสนใจขึ้นมา
“เพราะทุกอย่างในออนไลน์ มาจากออฟไลน์ไงคะ เราจะได้เห็นจริง ๆ ว่ายามอยู่เบื้องหลัง เขาทำกันยังไง เรื่องพวกนี้ฉันคิดว่าคือสิ่งที่บ่งบอกพลังสร้างสรรค์ ศักยภาพและความแตกต่างของแต่ละคน”
“เฉียบมากค่ะบอส เอาจริง ๆ นะ MCN มีเยอะ แต่คุกกี้เลือกทำงานกับคุณปัณณ์ เพราะชอบที่คุณปัณณ์คือคนออนไลน์ตัวจริง ไม่ใช่เพิ่งปังเพราะไวรัลไม่กี่คอนเทนต์
ทุกคนคะ คุกกี้อยากบอก คือคุณปัณณ์เนี่ย ทำมาหมดแล้วค่ะ ทุกสิ่งที่ทุกคนได้เห็น แล้วขอพูดเลย ตัวแม่ของวงการมาก”
“คุกกี้ พูดแบบนี้ เหมือนฉันอายุ 60 เลย” ปัณณ์ทำท่าตีคนข้าง ๆ เบา ๆ
“แอร้ย ใครจะว่า สวยเด้งขนาดนี้ เอาล่ะทุกคน เราไม่รบกวนบอสเยอะ ก่อนไปบอสมีอะไรจะพูดกับคนดูไลฟ์ตอนนี้มั้ยคะ” คุกกี้ถาม
“ฉันติดตามคอนเทนต์คุณคุกกี้เสมอ เห็นแฟน ๆ รักคุณคุกกี้แบบนี้ เป็นฉันก็อยากทำคอนเทนต์ให้ดูทั้งวันเหมือนกันค่ะ รักน้า”
ปัณณ์กับเจ้าของช่องคุกกี้แชมปิยองทำหน้าแนบแก้มชิด โบกมือพร้อมยิ้มหวาน ทั้งคำพูดที่เป็นมิตร ทุกอย่างสนับสนุนให้ทั้งสองคนได้รับความรักจากเหล่า ๆ ผู้ติดตามในโลกออนไลน์
นักไลฟ์เดินไปแล้ว ปัณณ์เปิดมือถือขึ้นมาดู เพราะโทรศัพท์ในมือสั่นอยู่พักหนึ่งแล้ว
Rrrrrrr
“สวัสดีค่ะ”
คนโทรมาได้ยินเสียงรบกวนรอบข้าง แต่เพราะอยากคุยด้วย จึงไม่ได้ซีเรียสอะไร
[เป็นไงบ้างครับ] ปลายสายพูดภาษาจีน แต่ปัณณ์ ตอบเป็นภาษาไทย
“อยู่ในอีเวนต์ค่ะคุณหวง”
[อ้าวเหรอ ขอโทษทีผมลืมไป]
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณหวงโทรมามีอะไรมั้ยคะ”
[แค่อยากรู้ว่าทำอะไรอยู่เฉย ๆ มีแพลนมาจีนมั้ยครับ ผมกำลังวางตารางพักร้อน]
สายตาหญิงสาวปราดมองเห็นว่าน้องเลขากำลังเข้ามา เธอเปลี่ยนไปพูดภาษาจีนทันที
“เดี๋ยวไว้โทรหาใหม่นะคะ โรสมา”
[ครับ ๆ เอ่อ คุณชอบทะเลหรือภูเขา]
“คุณหวง ๆ ไว้ค่อยคุยนะคะ”
บอสสาวรีบวางสาย เพราะเรื่องที่คุยค่อนข้างส่วนตัวมากกว่าจะมาเอ่ยกันต่อหน้าคนอื่น
“ว่าไงโรส”
เลขารีบแทรกตัวเข้ามาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จักหน้ามาก่อน ปัณณ์หันมาสบตา แล้วยิ้มให้แขกตามมารยาทที่ควรเป็น
“คะ!?” ปัณณ์เอ่ยขึ้น
“บอส นี่คือคุณเกล ผู้ช่วยของคุณเมฆินทร์ค่ะ เอ่อ คุณไต้ฝุ่น APN ค่ะ” เลขาของปัณณ์ พยายามพูดอ้างอิงถึงเบื้องหลังของชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“อ่อ ค่ะ ว่าไงคะ” เธอพยักหน้ารับทราบ แล้วพาทั้งสองคนเดินออกห่างจากหลังเวที เพราะบริเวณนี้เสียงดัง
“คุณไต้ฝุ่นอยากขอพบคุณปัณณ์สักครึ่งชั่วโมงครับ” เขาพูดสั้น ๆ ให้เธอเข้าใจ หลังยื่นนามบัตรตัวเองให้
“เรื่องงานหรือเปล่าคะ ฉันปฏิเสธไปแล้วนะคะ ทางอีเมล” เธออธิบาย พลางมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือตัวเอง และความร้อนรนนั้นเริ่มแสดงออกมาทางสายตา
“คุณเกลคะ” ปัณณ์เอียงตัวเข้าไปให้ผู้ช่วยของนักธุรกิจใหญ่
“ครับ?”
“คือฉันต้องไปต่ออีกงาน สำคัญมาก”
“ที่ไหนครับ ผมให้คนไปส่งได้ และเราอาจใช้เวลานั้นในการพูดคุยในรถระหว่างเดินทาง” เลขาสู้ชีวิต เขาต้องวางสล็อตงานให้สำเร็จ
“โทษทีค่ะ ที่นี่แหละ ชั้นบน ขอตัวก่อนนะคะ”
บอสสาวตัวเล็กก้าวฉับ ๆ ไม่สนว่าใครจะอยากเบรกเธอไว้ เดี๋ยวนี้พอไม่ต้องเป็นลูกจ้าง และทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ความมั่นใจก็มีมากขึ้น
“คุณปัณณ์ครับ!?” เกลรีบก้าวขาตาม แต่ไม่ทัน เธอแทรกตัวเข้าในลิฟต์แก้ว และประตูลิฟต์ปิด พร้อมเลื่อนขึ้นชั้นบนทันที
ด้านนักไลฟ์สาวเมื่อครู่ เธอไปนั่งพักการออนไลน์ที่คาเฟหรู ๆ แถวนั้น ความเคยชินกับการถูกจับจ้อง ทำหญิงสาวนั่งกินชาไข่มุกไป ถ่ายคลิปเล่น ๆ ไป หากใครมองมาก็คงรับรู้ได้ว่าเธอกำลังมีความสุขกับช่วงเวลาพิเศษนี้จริง ๆ
แต่ภาพหน้าจอมือถือที่ปรากฏต่อหน้าเธอ แช็ตเมามันตามประสากลุ่มเพื่อน
CHAT
Cookie : e-dok ทำเป็นมาจิกที่กูมาสาย
Wawa : เจ้าเดิมอะดิ นางต้องแอ๊บว่าเป็นซูเปอร์วูแมนแหละ บ้าอำนาจน่าดู
Cookie : อวยจนปากจะฉีกถึงรูหู เอาจริง ๆ ลำบากใจมากนะ กูทำคอนเทนต์ปังกว่าเป็นร้อยเท่า แต่ต้องบอกว่านางเก่งกว่า เพลียจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
Wawa : เลียเถอะค่ะเพื่อน ถ้านางแหกขาให้ ก็รีบเลียซะ ยังไง ๆ ก็ดีกว่าเจ้าอื่น จะไปจีนก็เกาะนางไว้
Cookie : อดทนมาก นี่ ถ้ามีอะไรมาทำให้นางพังได้ กูจะบินไปหาคุณหวงเอง
Wawa : ค่ะ ขอให้คุณหวงเอ็นดูมึงนะคะ ถ้ามึงเป็นเมียคุณหวงได้เมื่อไร มารับกูไปด้วยนะ
Cookie : แน่นอน คุกกี้ตัวจริง ไม่ปลอมเหมือนใครบางคน ไปก่อนนะ อีนังเลขามาชำเลืองตามองกูอีกแล้ว