บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 (3)

[Thit :: 1]

ครื้ด!~ ครื้ด!~

ในวันที่ผมพาคุณหนูแยมมารับเช็คค่าตัวถ่ายแบบ หลังออกจากเข้าห้องน้ำผมกำลังจะเดินกลับไปหาเธอที่โซฟารับรอง โทรศัพท์มือถือที่สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นมา ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นเบอร์หัวหน้าโชว์อยู่บนหน้าจอ รีบกดรับสายอย่างไม่รีรอ

อลัน

“ครับหัวหน้า”

[พอดีรถฉันมีปัญหา แกช่วยไปรับลูกค้าคนสำคัญของคุณท่านแทนฉันหน่อยได้ไหม]

“อ่า.. ก็ได้อยู่หรอก แต่ว่าตอนนี้ผมอยู่กับคุณหนูแยม” ผมพูดออกไปอย่างไม่สบายใจ ไม่อยากทิ้งคุณหนูเอาไว้คนเดียว

[แล้วมีปัญหาอะไร] เสียงเข้มแกมหงุดหงิดดังกลับมา

“เปล่าครับ ไม่มี” ผมตอบออกไปอย่างหนักใจ

[ก็ดี เดี๋ยวฉันจะส่งภาพและรายละเอียดของลูกค้าไปให้]

“ครับ” ผมตอบรับอย่างไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธ ในเมื่อเป็นลูกค้าคนสำคัญของคุณท่านคงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับความจริง ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเดินกลับมาแจ้งให้คุณหนูทราบ โชคดีที่มี ‘เรียว’ ว่าที่คู่หมั้นของคุณหนูอยู่ที่นี่ด้วย ทำให้ผมเบาใจที่จะฝากเธอไว้กับหมอนั่น ถึงจะรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาเลยก็ตาม

ผมมองดูรูปโปรไฟล์ของลูกค้าที่ถูกส่งเข้ามาใน Email ด้วยสายตาเรียบนิ่ง..

‘ธรรศ พยัคฆ์ปารย์’

นักธุรกิจหนุ่มชาวฮ่องกงที่มีเชื้อสายไทย นี่คือลูกค้า VIP ของคุณท่านอย่างงั้นเหรอ..

ผมวาง Tablet ลงก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ หรี่ตามองทางข้างหน้าแล้วขับรถออกไปยังจุดหมายอย่างเงียบเชียบ

เมื่อมาถึงสถานที่นัดพบ ผมยืนรออยู่ไม่นาน ลูกค้าก็เดินออกมาจากประตูของโรงแรมหรู ด้วยรูปลักษณ์ที่เด่นสะดุดตา ใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่ดูเคร่งเครียดเกินเด็กหนุ่มอายุ 23 ปี ก้าวออกมาจากประตูกระจกแล้วหันมองซ้ายขวาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ผมรีบสาวเท้าเข้าไปทักทายทันที

“คุณธรรศใช่ไหมครับ”

“นายเป็นใคร” ธรรศเหลือบมองผมด้วยสายตาสงสัย

“ผมเป็นตัวแทนคนขับรถของคุณเมอร์ทรันด์ มารับคุณตามคำสั่งของท่านครับ”

“อ้อ! เข้าใจแล้ว” ธรรศหรี่มองหน้าผมอย่างประหลาดใจครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าสั่งผมให้เดินนำไปที่รถอย่างไม่ติดใจสงสัยอะไร

ระหว่างทางผมลอบสังเกตธรรศผ่านกระจกเมื่อมีโอกาส ใบหน้าเรียบนิ่งกับแววตาสีเขียวมรกตที่มองออกไปนอกกระจกรถตลอดเวลาของเขา ผมไม่อาจรู้ได้เลยว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่

หลายชั่วโมงต่อมา..

เมื่อการเจรจาธุรกิจจบลง ผมเป็นคนไปรับธรรศก็ต้องทำหน้าที่ส่งเขากลับด้วยเช่นกัน

“เดี๋ยว ไปส่งฉันที่นี่แทน” เสียงธรรศดังขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังจะเลี้ยวรถเข้าทางสายหลักที่เชื่อมกับโรงแรม หมอนั่นยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้ผมดูรูปภาพหน้าตึก

“ไปถูกหรือเปล่า” ธรรศถามเพื่อต้องการยืนยันว่าผมรู้เส้นทางไปยังจุดหมายที่เขาต้องการจริง

“ครับ”

ผมตอบสั้นๆ ก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือกลับไปให้ธรรศที่นั่งอยู่เบาะหลัง แล้วเปลี่ยนเส้นทางเดินรถโดยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่มันก็มีเรื่องกวนใจผมอยู่นิดหน่อย ตรงที่ตึกในรูปนั่นมันเป็นตึกเดียวกับคอนโดสุดหรูของยัยคุณหนูผู้ถูกเนรเทศแห่งบ้านคลาลินเธียร์น่ะสิ พูดซะยาว ก็คือที่อยู่ของคุณหนูแก้มนั่นแหละครับ ...แต่ว่าคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันหรอก ผมขับรถต่อไปเงียบๆ โดยไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรเป็นพิเศษ

พอถึงคอนโดผมจอดรถหน้าทางเข้า ก้าวลงมาส่งธรรศถึงหน้าประตูคอนโด ตอนนั้นร่างสูงของชายชุดดำสามคนก็ก้าวออกมารับธรรศด้วยท่าทางขึงขัง ก่อนที่ใครคนหนึ่งในนั้นจะชะงักเมื่อสังเกตเห็นผม ..แต่ผมก็ไม่สนใจ

ทำหน้าที่ของคนขับรถเสร็จผมก็ปลีกตัวออกมาทันที

[End-Thit]

“คุณธรรศครับนั่นมัน..” ลับหลังของธิษณ์ไปแล้ว ชายในชุดสูทเรียบหรูควบตำแหน่งเลขาและบอดี้การ์ดของธรรศเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ตีนตันลำคอ

“ฉันรู้..” ธรรศพูดออกมาด้วยเสียงเย็นเฉียบ ดวงตาคมกริบฉายแววยะเยือกก่อนจะออกคำสั่งเด็ดขาด

“เข้าไปข้างในได้แล้ว”

ลูกน้องสองคนของธรรศรีบเปิดประตูให้เจ้านายทันที มีเพียงเลขาของเขาเท่านั้นที่ยังคงส่งสายตามองตามร่างสูงของธิษณ์ไป แม้ว่าจะผ่านมาแล้วสิบกว่าปีเขาก็ยังจำใบหน้านั้นได้

“อาเพียว!” ธรรศเปล่งชื่อของลูกน้องคนสนิทออกมาอย่างไม่พอใจ

“ครับคุณธรรศ” ชายวัยสี่สิบต้นๆ ค้อมศีรษะเป็นเชิงขอโทษนายเหนือหัวก่อนจะรีบสาวเท้าตามเข้าไปข้างใน

- Rujira Clalinthier -

ระหว่างที่ฉันกำลังเดินกระวนกระวายอยู่ในห้องเหมือนหนูติดจั่น พยายามติดต่อหามิกซ์ทั้งโทร ทั้ง Line Facebook ทุกอย่างแต่ก็ไม่มีวี่แววว่ามิกซ์จะติดต่อกลับ ทันใดนั้นเสียงประตูเปิดและเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาในห้องมากกว่าหนึ่งก็ดังขึ้น

“มิกซ์เหรอ..” เสียงของฉันขาดหายไปในลำคอ ชะงักนิ่งเมื่อเหลือบเห็นผู้ชายสี่คนยืนเรียงหน้ากันอยู่ในอาณาเขตของฉัน คนพวกนี้มันอะไรกัน..

ทั้งฉันและแขกผู้มาเยือนต่างแสดงความประหลาดออกมาบนสีหน้าทันทีที่เผชิญหน้ากัน

“พวกคุณเป็นใคร” ฉันเหลือบตามองผู้ชายรูปร่างกำยำทั้งสี่ด้วยสายตาไม่ไว้ใจ หนึ่งในนั้นมีคนที่ดูอายุ 20 ต้นๆ รวมอยู่ด้วย เขามีประกายตายะเยือกสะท้อนออกมาจากนัยน์ตาสีเขียวมรกต ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงและเคร่งขรึม ดูจากการวางตัวแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าของอีกสามคนที่เหลือ

“ผู้หญิงคนนี้.. หรือว่าจะเป็น” หมอนั่นเหลือบมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วไล่จากเท้าขึ้นจรดหัวด้วยสายตาตีราคา “หึ! เป็นของแถมที่ไม่เลวดีหนิ”

“ว่าไงนะ!?” ฉันเบิกตากว้าง หัวใจสั่นกระตุกเมื่อได้ยินแบบนั้น

ใบหน้าร้อนฉ่ามองสบสายตาเย็นยะเยือกของคนตรงหน้าเลิ่กลั่ก

“อาเพียว ให้คนมาตกแต่งห้องนี้ใหม่ ฉันจะใช้เป็นที่สำหรับเล่นแก้เซ็ง” หมอนั่นส่งสายตาให้ฉันอย่างมีเลศนัย รอยยิ้มน่าขยะแขยงผุดพรายขึ้นบนมุมปากได้รูป

“ครับคุณธรรศ” ผู้ชายที่หน้าตามีอายุสุดในกลุ่มพยักหน้าก่อนจะปลีกตัวออกไปโทรศัพท์

“เอาตัวไป” เสียงเฉียบขาดดังขึ้น ฉันสะดุ้งเฮือกยังไม่ทันตั้งสติก็ถูกผู้ชายอีกสองคนคว้าหมับเข้าที่แขนทั้งสองข้างแล้วหิ้วออกจากห้อง โดยมีนายธรรศอะไรนั่นเดินตามมาติดๆ

ฉันดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง แต่ก็สู้แรงมหาศาลของผู้ชายไม่ได้ ..นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย

“นี่! ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อยไงจะพาฉันไปไหน ช่วยด้วยโอ๊ย!”

“เงียบ” ฉันถูกธรรศใช้มือหนาๆ บีบคางเอาไว้แน่นทันทีที่เข้ามาในลิฟต์

“เจ็บ~” ฉันจ้องหน้าหมอนั่นนัยน์ตาแดงก่ำด้วยความโกรธ

“เก็บปากของเธอเอาไว้ร้องบนเตียงคืนนี้ดีกว่า” หมอนั่นมองฉันแววตาเลือดเย็นแกมหยามเหยียด นัยน์ตาคมกริบเหลือบมองเรือนร่างฉันราวกับเป็นเจ้าของ

ฉันรู้สึกขนลุกเกลียวขึ้นมาทันที

“นายเป็นใคร มาทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ปล่อยฉันนะ” ฉันตะโกนออกไปอย่างโกรธจัด พยายามสลัดตัวให้หลุดจากการจับกุมแต่ก็ไม่ได้ผล จ้องหน้าธรรศอย่างรังเกียจ

ธรรศดึงคางฉันเข้าใกล้ แล้วโน้มหน้าลงมา ริมฝีปากของเขาอยู่เหนือริมฝีปากฉันขึ้นไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาเสียงแหบต่ำ

“เป็นมาสเตอร์ของเธอยังไงล่ะ”

หา? มาสเตอร์! ฉันเบิกตากว้าง มองหน้าธรรศเลิ่กลั่ก

“อย่ามาตลกกับฉันนะ ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของใคร” ฉันกัดฟันแน่น สูดหายใจด้วยความโกรธ

“อ้อเหรอ แต่มีคนขายเธอไม่สิ.. มีคนให้เธอเป็นของแถมจากการขายห้องนั้นให้ฉันเพื่อผ่อนหนี้” หมอนั่นยิ้มเลือดเย็น

“ผ่อนหนี้” หัวใจฉันกระตุกวูบ ใบหน้าของมิกซ์ทอวาบเข้ามาในหัว

จู่ๆ ร่างกายก็อ่อนแรงขึ้นมากะทันหัน น้ำตารื้นคลอเบ้า..

“ไม่จริง! นายโกหก มิกซ์ไม่มีทางทำแบบนั้นกับฉัน ปล่อยฉันสิ! บอกให้ปล่อยไง มันต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ” ฉันมองสบสายตาเย้ยหยันของธรรศอย่างรู้สึกสับสน หัวใจปวดหนึบ

ไม่จริง.. ไม่จริงใช่ไหม

ธรรศหรี่ตามองฉันด้วยสายตาคุกคามพร้อมกับคำพูดที่เสียดแทง

“ไม่ผิดหรอก เพราะเธอหน้าตาตรงสเปกฉันเหมือนในรูปที่ไอ้งั่งนั่นโชว์ให้ดูเปี๊ยบ”

ฉันส่ายหน้าเลิ่กลั่ก มองสบแววตาเยือกเย็นของธรรศนัยน์ตาสั่น

..มิกซ์น่ะเหรอทำแบบนั้น ไม่มีทาง! ฉันกัดริมฝีปากแน่น ในอกปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก

ติ้ง! ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก เสียงเด็ดขาดของธรรศก็ดังตามขึ้นมา

“อย่าตุกติก ไม่งั้นได้ลงข่าวหน้าหนึ่งแน่”

“อึก!” ฉันกัดฟันแน่น หมอนั่นรู้จุดอ่อนฉัน บ้าชะมัด เพราะอาชีพนางแบบของฉันหรือเพราะชาติตระกูลของฉันกันแน่ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดฉันก็ไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองเป็นข่าวฉาวได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel