BETWEEN | 06 แกล้ง
เลิฟยูหน้าถอดสีกับคำปรักปรำของไออุ่น เธอไม่ได้เป็นอย่างที่เขากำลังกล่าวหาสักหน่อย ในชีวิตไม่รู้จักคำว่าไม่ได้ตั้งใจกับพลาดเลยเหรอ ก็จริงที่เข้าไปส่องไอจีพี่เขาแต่เธอแค่พลาดไปกดหัวใจอย่างไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น
“มีอะไรแก้ตัวไหม?”
“ไม่มีค่ะเพราะหนูไม่ใช่อย่างที่พี่กำลังปรักปรำ”
ไออุ่นแค่นหัวเราะพร้อมกับโน้มตัวมาหาเธอเล็กน้อย
“โกหกตาใสเลยนะ”
“ก็ไม่ใช่”
“เลิฟ…แกมีเรื่องกับพี่เขาเหรอ” มะเฟืองจับแขนเลิฟยูไว้แน่น เธอมองหน้าไออุ่นอย่างหวาดๆ แต่บทสนทนาต้องจบลงเมื่อพิ้งค์เดินเข้ามา
“มีอะไรกัน?” เธอมองหน้าเพื่อนตัวเองก่อนจะเบนสายตาไปมองสองสาว อีกคนเหมือนจะโกรธส่วนอีกคนกำลังกลัว “อุ่น” พิ้งค์เรียกเพื่อนเธออีกครั้งเมื่อไออุ่นยังเงียบ ทว่าเขาไม่แม้แต่จะตอบคำถามนั้นเพียงหันหลังเดินออกไปเฉยๆ
“มีอะไรกันวะ” ทันทีที่ไออุ่นนั่งลงบนเก้าอี้วอร์กับโฮปที่นั่งรออยู่สักพักแล้วก็เอ่ยถามเพื่อนทันที
“เปล่า” เขาปฏิเสธ
“พิ้งค์” โฮปเรียกพิ้งค์ แค่มองตาเธอก็รู้ว่าเพื่อนจะถามอะไร
“ไม่รู้” พิ้งค์ตอบปัดพลางตักข้าวใส่ปาก “รีบกินนะ เดี๋ยวแดดดี้จะมารับแล้ว”
“อา…โอเคๆ”
ความสงสัยของทุกคนถูกตัดจบแค่นั้น ไม่มีใครเอ่ยถามถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ต่อ พอกินข้าวเสร็จทั้งสี่คนก็เดินออกมาจากโรงอาหารท่ามกลางเสียงเจื้อยแจ้วของรุ่นน้องปีหนึ่งที่ทำกิจกรรมอยู่ตรงลานข้างนอกโรงอาหาร
“นึกถึงสมัยที่เราถูกรุ่นพี่รับน้องเนอะ สนุกฉิบหาย” วอร์ตวัดแขนขึ้นมากอดคอโฮปกับไออุ่น เล่าถึงความหลังเมื่อครั้งที่ตนกับเพื่อนอยู่ปีหนึ่ง “คิดถึงเพื่อนทุกคนเลย”
“เป็นเชี่ยไรของมึงเนี่ย จะมารำรงรำลึกเหี้ยไร” โฮปปัดแขนวอร์ออกจากไหล่แล้วรีบสับเท้าเดินไปขึ้นรถเพราะอากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนอบอ้าวด้วย เข้ามานั่งตากแอร์ในรถคงดีกว่าเดินเอื่อยๆ อยู่แบบนั้น
“อ้าว” เพื่อนทุกคนรีบไปขึ้นรถโดยทิ้งวอร์ไว้คนเดียวบนถนน เขารีบวิ่งไปขึ้นรถคันเดียวกับโฮป ส่วนไออุ่นขับรถออกมาทันทีโดยไม่รอเพื่อนหรือบอกว่าเขาจะไปไหน
“เชี่ยอุ่นไปไหนวะน่ะ” โฮปสอดส่องตามท้ายรถที่ขับออกไปอย่างเร็ว
“ปล่อยมันไปเถอะ”
“อืมๆ” ทั้งสองหนุ่มขับรถกลับบ้าน
ส่วนไออุ่นขับรถไปที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง พอได้ยินวอร์พูดถึงปีหนึ่งเขาจึงนึกออกว่าเคยมาคาเฟ่แห่งนี้ทุกวันจนเป็นลูกค้าประจำ ทว่าพอขับรถมาจอดหน้าร้านแล้วยังไม่ทันได้สอดส่องก็เจอกับป้ายประกาศขายเสียก่อน เขานิ่งงันไปพักหนึ่ง
“หายไปไหน…” ไออุ่นพึมพำเสียงเบาอยู่คนเดียว หรือว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ควรกลับมาที่นี่อีก ไม่ควรมาเห็นอะไรแบบนี้อีกเลย… รถยุโรปหรูค่อยๆ ขับเคลื่อนผ่านไปช้าๆ
00:30
บรรยากาศในคลับยังคงคึกคักด้วยแขกวีวีไอพีหลายท่านที่ตั้งใจมาเสพความสุขและร่ำสุราเค้านารีในค่ำคืนนี้ หนึ่งในนั้นคือไออุ่นที่กำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่โต๊ะประจำ
“คุณผู้ชายรับอะไรเพิ่มไหมครับ”
“ขอ…วิสกี้อีกหนึ่งแก้ว” ไออุ่นเอ่ยบอกพนักงานหนุ่มพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ไฟฟ้าออกจากปาก ควันสีขาวคละคลุ้งในอากาศแล้วจางหายไป “เฮ้อ”
พรึบ!
การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของผู้มาใหม่ทำไออุ่นรีบหันมามองก่อนที่เขาจะเบือนหน้าหนีพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก โฮปเลิกคิ้วทักทายเพื่อนรัก
“ไม่ชวนเลยนะ”
“อยากดื่มคนเดียวเงียบๆ”
“มีเรื่องอะไร” เขาถือวิสาสะยกเท้าขึ้นมาพาดกับโต๊ะตรงหน้า กอดอกรอฟังไออุ่นอย่างตั้งใจ “หรือยายเด็กคนนั้นกวนใจมึง?” โฮปหรี่ตาจับสังเกตอาการเพื่อนหลังจากเอ่ยถามถึงบุคคลที่สามแล้ว
“เปล่า"
“แล้วเป็นอะไรวะ เห็นมานั่งดื่มคนเดียวแบบนี้กูเป็นห่วงนะ” คราวนี้ไออุ่นหันมามองโฮป
“กูไปคาเฟ่มา"
“คาเฟ่ไหนวะ"
“…” ไออุ่นไม่ได้ตอบ
“อ๋อ คาเฟ่พี่ลันตาใช่ไหม"
“อืม"
“เป็นไง ไม่ได้ไปนานมากจนกูจำทางไปไม่ได้แล้วเนี่ย” ทุกคนอาจหลงลืมไปว่ามีคาเฟ่นั้นอยู่แต่ทว่าเขาจำได้แม่นเลย “พี่เขายังเปิดอยู่ใช่ไหมวะ” เพราะเห็นเพื่อนเงียบไปนานโฮปจึงเอ่ยถามอีก
“ไม่อยู่แล้ว"
“ถามจริง”
“อืม"
“แล้วมึงไปที่นั่นทำไม อย่าบอกนะว่าจู่ๆ ก็คิดถึงพี่เขาขึ้นมาน่ะ” ไออุ่นหันมามองจ้องหน้าโฮปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรสักคำแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น เขาถอนหายใจออกยาวๆ เพื่อระบายความว้าวุ่นในใจ
“แค่จะแวะไปดูเท่านั้น คิดว่าตายังเปิดร้านอยู่"
“สรุปปิดแค่วันเดียวหรือยังไง"
“ประกาศขาย"
“เฮ้ย! ขนาดนั้นเลยเหรอวะ แล้วไม่ได้ติดต่อพี่ลันตานานมากแล้วนะ"
“อืม"
“เอ้า? มึงเองก็ไม่ได้ติดต่อพี่ตาแล้วเหรอ"
“สองปี” สองปีที่เขาไม่้ได้ติดต่อกับลันตา ไม่ไปเจอ ไม่ส่งข้อความหาและไม่โทร.หาจนกระทั่งวันนี้ ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาขับรถไปหาเธอที่คาเฟ่แต่และได้รู้ว่าที่นั่นประกาศขายไปแล้ว
โฮปขมวดคิ้วแน่น
“ก็ไหนบอกคบกันกับพี่ตา แล้ว…แล้วทำไมมึงบอกว่าไม่ได้ติดต่อพี่เขาสองปีวะ หรือเลิกกันแล้ว”
“สมองมึงมีรอยหยักบ้างไหม”
“อ้าวเล่นงี้เลย”
“…” เขาคร้านจะเถียงกับโฮปจึงเบือนหน้าหนีไปมองทางอื่นแทน
“เลิกกันตอนไหนวะเนี่ย กูตกข่าวอยู่คนเดียวไหมวะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะไม่ได้มีแค่มึงที่ไม่รู้เรื่องนี้”
“แบบนี้ค่อยโล่งอกหน่อย”
“สัตว์!” ไออุ่นชักสีหน้าใส่เพื่อน
“แหม กูแค่หยอกขำๆ ไหมวะ”
“เก็บไปหยอกไอ้วอร์เถอะ”
“หยอกมันก็ขำกันตาย สู้ดีหยอกคนหน้านิ่งแบบมึงดีกว่า”
“มาเพื่อกวนตีน?”
“เปล่า มาแดกเหล้าฟรี” ว่าจบก็กระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่แถมยังกระดิกนิ้วเรียกพนักงานหนุ่มมาสั่งเหล้าอีกต่างหาก ไออุ่นทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาเบาๆ ด้วยความเอือมระอา
ทั้งสองนั่งดื่มด้วยกันจนถึงตีสอง โฮปขอตัวกลับบ้านก่อนส่วนไออุ่นกลับทีหลัง เขาเดินมาขึ้นรถเพื่อขับกลับบ้าน หน้าจอโทรศัพท์มือถือกลับสว่างวาบในตอนที่เขาเอี้ยวตัวมาดึงสายเข็มขัดนิรภัย
“หึ!” ไออุ่นแค่นหัวเราะอย่างนึกขำ ก็ที่หน้าจอสว่างวาบขึ้นเพราะแจ้งเตือนคนกดหัวใจรูปในไอจีเขาน่ะสิ แล้วเจ้าของบัญชีก็คือเลิฟยู ไออุ่นกดโทร.หาเธอทันที เพราะคิดว่าเลิฟยูคงกำลังไล่ดูรูปอยู่แน่ๆ รอไม่นานปลายสายก็รับแต่เธอไม่ยอมเปิดกล้อง
(ทะ…โทร.มาทำไม)
“ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ ว่าส่องไอจีฉันเสร็จหรือยัง”
(พี่ไออุ่น)
“ทำไม หรือว่าฉันพูดผิดไปเหรอ”
(…) ปลายสายเงียบไป ในเวลาต่อมาเลิฟยูจึงเปิดกล้อง แต่ก็ไม่อยู่นิ่งเพราะกลัวการมองหน้าไออุ่นในเวลานี้
“หึ” ไออุ่นแค่นหัวเราะเบาๆ
(หัวเราะทำไมคะ)
“เธอนี่มัน…”
(อะไรเล่า~ แค่นี้นะคะ)
“เดี๋ยว”
(ทะ…ทำไม)
“ออกมาดื่มด้วยกันหน่อยสิ”
(ดื่มอะไรหนูดื่มไม่เก่งขนาดนั้น แถมตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย หนูมีเรียนเช้าไม่ว่างไปหรอก แค่นี้นะคะ) เลิฟยูร่ายยาวพร้อมกับจ่อปลายนิ้วโป้งไว้ตรงวางสาย
“เดี๋ยวฉันไปรับเธอที่บ้าน อีกยี่สิบนาทีเจอกัน” เขาตัดจบไปแค่นั้นก่อนจะขับรถไปรับเลิฟยูที่บ้านตามที่บอกไว้
บ้านเลิฟยู
“หะ…ให้ตายสิไอ้พี่ไออุ่นบ้า! จะมารับอะไรตอนนี้เนี่ย บ้าไปแล้วเหรอ” ร่างกายเธอทำงานอัตโนมัติ แม้จะบอกไปแบบนั้นแต่ก็รีบก้าวลงจากเตียง วิ่งกุลีกุจอไปที่ห้องแต่งตัว จริงๆ เธอแค่ตื่นมาเข้าห้องน้ำและเข้าไปดูอะไรเพลินๆ ในอินสตาแกรมเท่าพอเห็นโพสต์เขาก็แค่กดหัวใจเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นและไออุ่นคงไม่พูดเล่นแน่นอน “โอ๊ย!” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ลนลานทำอะไรไม่ถูก
หลายนาทีต่อมา
“เขาไม่มาหรอก ไม่มารับเราหรอก” ไออุ่นคงแกล้งเธอตามประสา เขาหมายหัวเธอไว้แล้วนี่…จริงๆ แค่อยากแกล้งให้ตกใจเล่นก็เป็นไปได้
พรึบ!
เลิฟยูทิ้งกระเป๋าสะพายลงบนเตียงนอนตั้งท่าจะทิ้งตัวลงบนเตียงแต่กลับต้องดีดตัวลุกขึ้นยืนตรงเพราะโทรศัพท์มือถือกำลังสั่นสะเทือนอยู่ในมือและคนที่โทร.ผ่านแอพพลิเคชันอินสตาแกรมคือไออุ่น!
“วะ…ว่ายังไงเหรอคะ หนูนอนแล้ว”
(ไฟที่ห้องเธอยังสว่างอยู่เลย หรือเธอชอบเปิดไฟนอน?) น้ำเสียงยียวนของเขาทำให้เลิฟยูรีบเดินไปที่หน้าต่างแล้วแง้มผ้าม่านดูว่าเขามาจริงไหม
“รู้ได้ยังไงว่าห้องหนูอยู่ตรงไหน”
(ดึกป่านนี้พ่อกับแม่เธอคงไม่ลุกขึ้นมาเปิดไฟทิ้งไว้แล้วไปนอนหรอกมั้ง)
“พี่!”
(ลงมา ฉันรออยู่หน้าบ้าน ให้เวลาห้านาทีเท่านั้น)
“ทำไมหนูต้องไปด้วย”
(เห็นเพจข่าวในมหาวิทยาลัยใช่ไหม)
“….”!
(แฟนคลับฉันเยอะนะ เธอคิดดูแล้วกันถ้าฉันส่งรูปแคปหน้าจอที่เธอไปกดหัวใจรูปฉันรัวๆ ไปจะเกิดอะไรขึ้น) นี่เขากำลังขู่เธอด้วยภาพแคปหน้าจองั้นเหรอ บ้าไปแล้ว
“หนูไม่แคร์หรอกนะ”
(งั้นเหรอ อืม….โอเค) ไออุ่นวางสายไปทันทีที่พูดจบ เลิฟยูเปิดผ้าม่านแล้วมองฝ่าความมืดสลัวไปที่ประตูหน้าบ้าน รถยุโรปคันสีแดงจอดอยู่จริงด้วยและเหมือนไออุ่นก็เพิ่งเดินไปขึ้นรถ แต่ทว่าเขากลับหันมามองแล้วชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์มือถือ รอยยิ้มที่ปรากฏบอกว่าเขาทำจริงแน่
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ชีวิตฉันมันวุ่นวายไม่พอเหรอ” ทำไมต้องมาเจอกับคนแบบนี้ด้วยนะ ตอนแรกเธอก็ปลื้มเขาอยู่หรอกแต่กลับลำตอนนี้ทันไหมล่ะ -_-!
ไออุ่นเคาะนิ้วชี้กับพวงมาลัยรถอย่างสบายใจ เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็เห็นร่างเล็กในชุดนอนกระโปรงวิ่งกระหืดกระหอบมาที่รถเขา
ก๊อก ก๊อก
เลิฟยูเคาะกระจกรถอย่างลนลานและหอบเหนื่อยจากการวิ่งลงมาจากบ้าน
“ก็แค่นี้…หึ!” เขาปลดล็อกประตูให้เธอเข้ามา
“ทำแบบนี้ทำไม หนูไม่ได้อยากเจอหน้าพี่ไออุ่นและไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับชีวิตพี่ขนาดนั้นนะ ไหนบอกว่าไม่อยากเจอหน้าแล้วไง”
“ใช่ฉันพูดแบบนั้น” น้ำเสียงเยือกเย็นทำไรขนอ่อนเลิฟยูลุกซู่ทุกอณู
“จะพาหนูไปไหน พี่ไออุ่นจะพาเลิฟไปไหน” เมื่อเห็นเขาขับรถออกมาจากหน้าบ้านอย่างรวดเร็วเธอจึงถามด้วยความหวาดหวั่น
“ไปดื่ม….ที่ห้องฉัน”
“…”!