BETWEEN | 05 กดหัวใจ
หลายนาทีต่อมา
เลิฟยูเปิดประตูห้องนอนส่วนตัวเข้ามาแล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอน แปลกที่หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบกับคำพูดหนึ่งของไออุ่นที่ว่าไม่ขอเจอเธออีก
“บ้าหรือไง เรียนอยู่ในรั้วมหา’ลัยเดียวกันแท้ๆ ก็ต้องเจอหน้ากันดิ!” หญิงสาวพึมพำด้วยความหมั่นไส้ คิดว่าตัวเองเรียนอยู่คนเดียวหรือไง! ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบะคว่ำก่อนที่จะหันไปมองโทรศัพท์มือถือที่ส่งเสียงอยู่ในกระเป๋าสะพายวางอยู่ข้างๆ
ติ้ง~
เสียงแจ้งเตือนข้อความจากแอพพลิเคชันไลน์ดังขึ้นทำลายความเงียบภายในห้องนอน หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นพร้อมกับข้อความจากเพื่อนรักที่รอเธอเปิดอ่าน
Line : ห้องแช็ตลับที่ไม่ลับ
เฟืองคนที่สวยๆ ?? : ถึงบ้านแล้วใช่ไหม
YOU ??: เพิ่งถึง
เฟืองคนที่สวยๆ ?? : ทำไมถึงช้าจัง กลับแท็กซี่หรือเปล่า?
YOU ??: เปล่า
เฟืองคนที่สวยๆ ?? : แล้วกลับกับใครอะ ฮั่นแน่! แอบกลับกับผู้เหรอ
เลิฟยูเปิดอ่านข้อความนั้นแล้วถอนหายใจออกหนักๆ ก่อนจะปิดโทรศัพท์แล้วไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ครู่หนึ่งที่เธอหลับตาลงภาพรอยยิ้มเย่อหยิ่งของไออุ่นก็ผุดขึ้นมาในหัวจนต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ทำยังไงก็สลัดภาพไออุ่นออกจากหัวไม่ได้เธอจึงเปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อดูข่าวสารและเปิดไอจีดูความเคลื่อนไหวของมะเฟืองเผื่อหล่อนจะอัปรูปลงบ้าง
พอเลื่อนไปสักพักก็สะดุดตากับบัญชีหนึ่ง โปรไฟล์ที่เขาใช้ตั้งเป็นภาพนั่งหันหลังอยู่ปลายเตียงไม่สวมเสื้อ ทั้งยังมีรอยสักตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ตรงสีข้างข้างซ้าย มองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร
“นี่….ไอจีพี่ไออุ่นเหรอ” ไวกว่าความคิดคือปลายนิ้วโป้งที่แตะลงตรงโปรไฟล์จนเข้ามาหน้าบัญชีเขาแต่ไออุ่นตั้งเป็นส่วนตัวจึงไม่เห็นอะไร “ฟอลโลดีไหม…” เธอเลื่อนหน้าจอไปมาอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่จะกดขอติดตามเขา
ครืด~
เลิฟยูกะพริบตาปริบๆ มองแจ้งเตือนที่บอกว่าไออุ่นรับเธอเป็นเพื่อนแถมเขายังฟอลโลไอจีเธอกลับอีกต่างหาก เลิฟยูเลื่อนจอโทรศัพท์ลงไปเรื่อยๆ เพื่อดูภาพที่ไออุ่นอัปลงทั้งหมดสองร้อยยี่สิบสี่รูป ส่วนมากจะเป็นโทนสีดำและสีขาวเกือบทั้งหมด นั่นบ่งบอกว่าเขาค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวและมีสไตล์เป็นของตัวเองมากๆ
“อ๊ะ! ตายแล้ว” เลิฟยูกดปิดจอโทรศัพท์มือถือเพราะเผลอกดหัวใจให้รูปไออุ่น ไม่นานก็มีข้อความเข้าซึ่งไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่ามาจากใคร เธอหรี่ตามองก่อนที่จะพรูลมหายใจออกยาวๆ เพื่อกดอ่านข้อความนั้นซึ่งชื่อไอจีไออุ่นโชว์หราอยู่อันดับแรกเลย
ai_oon : เธอแอบส่องไอจีฉันเหรอ
“ใครบอกว่าส่อง อะ…เออก็ได้ ส่องก็ส่อง” เลิฟยูเม้มปากแน่นหากแต่ยังไม่ได้พิมพ์ข้อความตอบกลับไป “ไม่น่าเลยฉัน” เลิฟยูกัดปากแน่นแล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไปสั้นๆ
love_u02 : เปล่า
พอตอบกลับเสร็จก็ปิดหน้าจอโทรศัพท์เลย
ครืด~
หัวใจดวงน้อยคล้ายจะหยุดเต้นเมื่อโทรศัพท์สั่นครืดขึ้นหนึ่งครั้ง ไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับเร็วขนาดนี้เหมือนจดจ่ออยู่กับห้องแช็ตเธออย่างเดียว
“โอ๊ย…หาเรื่องใส่ตัวเองอีกแล้วนะเลิฟ” เธอกดปิดหน้าจอโดยไม่สนใจข้อความไออุ่นพร้อมกับดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมแล้วหลับตาลง แต่ภายในอกกลับว้าวุ่นจนต้องลุกขึ้นมานั่งทำสมาธิให้จิตใจสงบนิ่ง “หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ” เลิฟยูพยายามควบคุมสมาธิตัวเองนานเกือบครึ่งชั่วโมง เธอปิดปากหาวหวอดๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนหลับไปทันที
วันต่อมา ณ มหาวิทยาลัย
ร่างเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนเก้าอี้ในโรงอาหารในช่วงเที่ยงหลังจากเลิกคลาสแล้ว มะเฟืองนั่งลงฝั่งตรงข้ามพร้อมกับบ่นกระปอดกระแปดเรื่องอาจารย์สั่งงานเหมือนพรุ่งนี้โลกจะแตก
“แกบ่นเหมือนหมีกินผึ้ง อาจารย์สั่งแค่สี่งานเองปะ” เลิฟยูพูดแทรกขึ้นด้วยความรำคาญ
“แค่สี่งานฉันสบายมากยายเลิฟแต่จะเอาพรุ่งนี้ไม่ได้โว๊ย! สั่งงานก็ต้องให้เวลาทำบ้างดิ ไม่ใช่สั่งวันนี้เอาพรุ่งนี้แล้วบอกว่าไม่รีบๆ ไม่รีบกับผีสิ!”
“เฮ้อ กินข้าวดีกว่า”
“เออแล้วไหงวันนี้มากินข้าวโรงอาหารเนี่ย ไม่ชวยฉันไปกินข้าวข้างนอกแล้ว? หรือเบื่อ?”
“ประหยัดหน่อย คอนเสิร์ตใกล้เข้ามาแล้วเดี๋ยวไม่มีเงินซื้อบัตร”
“เงินอะมีแต่จะกดได้ไหมนั่นอีกเรื่องหนึ่ง” มะเฟืองถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนที่เธอกับเลิฟยูจะเดินไปดูร้านค้าอาหารในโรงอาหารว่ามีอะไรบ้าง
“แม่ย้อย! ร้อยวันพันปีแม่งไม่เคยชวนมาแดกข้าวโรงอาหาร วันนี้นึกอยากปลดล็อกสกิลลิ้นทองคำหรือไงวะ” วอร์บ่นขณะที่เลื่อนเก้าอี้ออกจากโต๊ะในโรงอาหารของมหา’ลัย ก็ไอ้เพื่อนตัวดีที่ไม่รู้ผีเข้าหรือผีออกชวนเพื่อนมากินข้าวโรงอาหาร
“หาอะไรปิดปากหน่อยไหม” พิ้งค์นั่งกอดอกจ้องหน้าเพื่อนด้วยความเอือมระอาใจ ติดนิสัยออกไปกินข้าวข้างนอกกันหมดจนลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งก็เคยมาฝากท้องกับป้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่โรงอาหาร
“กระแดะไม่เข้าเรื่อง!” โฮปชักสีหน้าพร้อมกับสะกิดไหล่ไออุ่น “แดกไรดีครับพี่อุ่น”
“…” ชายหนุ่มปรายตามองเพียงนิด “จะดีกว่าถ้าเลิกกระแนะกระแหนกูได้” เพราะเมื่อเช้ามีน้องนักศึกษาเรียกเขาพี่อุ่นซึ่งเป็นชื่อที่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่เรียกเขา แต่เผอิญกำลังเดินอยู่กับโฮปมันเลยล้อเลียนเขาตั้งแต่เข้าเรียนจนกระทั่งจบคลาส เรียกพี่อุ่นตลอดครึ่งวันจนเขารำคาญ
“เพราะดีออก พี่อุ่น”
“เอากับเขาด้วยเหรอ” ไออุ่นมองพิ้งค์อย่างตำหนิติเตียนแต่หญิงสาวก็ไหวไหล่ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดุดันคู่นั้น “ไปหาอะไรกินดีกว่า” เขาลุกขึ้นพร้อมกับเพื่อนทุกคน วอร์กับโฮปเดินเลี่ยงไปซื้อก๋วยเตี๋ยวไก่มะระป้าหวายเจ้าเก่าเจ้าเดิม
“กินไรดีเรา” พิ้งค์เอาไหล่สะกิดแขนไออุ่นที่ยังยืนนิ่ง
“กินข้าวแกง”
“ดีเหมือนกัน กำลังอยากกินพะโล้ไข่อยู่พอดีเลย” พิ้งค์เดินตรงไปที่ร้านข้าวแกงหวังว่าไออุ่นจะเดินตามหลังเธอมา ที่ไหนได้เขาเดินไปอีกทางหนึ่ง “อ้าว! อุ่น ไออุ่น!” พิ้งค์ตะโกนเรียกเพื่อนรักซึ่งไออุ่นไม่หันมามองเลย
“หึ!” เสียงแค่นหัวเราะเยือกเย็นดังขึ้นจากทางด้านหลังมำใหสองสาวรีบหันมามองยังต้นทางของเสียง
เลิฟยูชะงักค้างเมื่อสองดวงตาปะทะกับร่างสูงใหญ่ที่ทำให้หัวใจเธอกระหน่ำเต้นแรงทั้งที่วินาแรกที่ได้เจอ
“คงส่องไอจีฉันหมดแล้วสินะ”
“…เปล่านะ ก็บอกไปแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ”
“บอก?”
“…”! อา…ก็เธอเล่นไม่เปิดอ่านข้อความจากไออุ่นจึงไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเขาส่งข้อความอะไรมา “หนูก็แค่กดหัวใจให้พี่รูปเดียว”
“แล้ว?”
“ก็ไม่แล้วไง เห็นรูปนั้นพี่เท่ดี”
“เหรอ แล้วอีกสองรูปล่ะ”
“ฮะ! สะ…สองรูปมาจากไหนเหรอ จำได้ว่ากดรูปเดียวนี่” ไออุ่นแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเปิดการแจ้งเตือนเมื่อคืนที่ผ่านมาให้เลิฟยูดู “ฉิบ!!” หญิงสาวเกือบหลุดคำหยาบเมื่อเห็นชื่อบัญชีตัวเองโชว์หราอยู่บนการแจ้งเตือนว่าได้กดหัวใจให้รูปไออุ่นถึงสามรูปด้วยกัน
“อย่าบอกนะว่าไม่ใช่เธอกดแต่เป็นแมวกดน่ะ”
“…”!
“ถามจริง เธอเป็นสต๊อกเกอร์เหรอ”
“บ้า! ไม่ใช่สักหน่อย”
“แล้วตามฉันทำไม”
“ใครตามพี่ไม่ทราบ ก็หนูอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ไออุ่น หนูก็ต้องเจอพี่เป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
“อืม….น่าคิด”
“นะ…น่าคิดยังไง”
“น่าคิดว่าเธอจะเป็นสต๊อกเกอร์อย่างที่ฉันคิดเอาไว้”
“…”!