บท
ตั้งค่า

ขั้นตอนของการอ่อยเหยื่อ

มินตราเดินกลับมาหาเพื่อนที่ร้านเสื้อในมือถือถุงหนังสือเล่มโปรดมาด้วย

"ไปไหนมามิน" จ๊ะจ๋าถามเพื่อนสาวที่พึ่งเดินกลับมาพลางก้มหยิบชุดนั่นชุดนี้ขึ้นมาดูบ่อยครั้ง

"เลือกได้หรือยังจะได้กลับ" มินตราเอ่ยถามเพื่อนที่มัวแต่เลือกชุด แต่ก็ไม่ได้สักที เธอหันไปที่ร้านหนังสือ แต่ก็ไม่เห็นว่าชายหนุ่มจะเดินออกมาหรือว่าเขาคงไปแล้ว

"มินมองอะไรเหรอ" จ๋าเห็นว่าเพื่อนสาวมองไปที่ร้านหนังสือบ่อยครั้งจึงได้ถามขึ้น ไม่ใช่ว่าเธอจะสนใจขุนพลหรอกนะแต่ที่เธอมอง เธอกลัวว่าชายหนุ่มจะเดินตามมา เธอแค่มีความสงสัยเท่านั้นเพราะสายตาที่รุ่นพี่มองนั้น มันไม่ปกติเลยสักนิด

สองสาวที่ได้ของที่ตัวเองต้องการก็พากันแยกย้ายกลับที่พัก มินตราเธอพักที่หอพักคนละที่กับจ๊ะจ๋า เย็นวันนั้นมินตราอาบน้ำพร้อมจะเข้านอน หนึ่งวันแล้วที่เธอไม่มีเวลาเปิดดูอะไรใหม่ๆ ในโซเชียล เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเลือกเข้าไปที่เฟสบุ๊คก่อนเธอเห็นการแจ้งเตือนเข้าหลายอย่างก่อนที่จะกดดู ไม่ว่าจะเป็นโพสต์ใหม่ เก่าที่มีคนกดถูกใจ จนกระทั่งแจ้งเตือนการแอดเพื่อน เธอดูแล้วก็ไม่รู้จักชื่อเจ้าของแอคเคาท์แม้แต่น้อย

"ใครวะ ผู้นำกองทัพ" เธอพูดขึ้นกับตัวเอง มินตราไม่คุ้นชื่อนี้ มิหนำซ้ำรูปโปรไฟล์ยังเป็นรูปอัศวินขี่ม้าอีก เธอจึงตัดสินใจกดเข้าไปดู เลื่อนต่ำลงก็มีแค่รูปสองสามรูปที่เป็นงานเชิงศิลปะ เจ้าของน่าจะตั้งส่วนตัวไว้ มินตราไม่ได้กดรับเธอวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมคือข้างๆ หมอน ก่อนจะหลับไป

@เช้าวันใหม่

เช้าวันนี้อากาศสดใสไร้เงาฝน วันนี้เป็นวันที่ต้องเข้าเรียนที่ห้องสตูเพื่อทดลองทำชิ้นงาน เธอเตรียมอุปกรณ์จนพร้อมหมด ส่วนเพื่อนๆ ก็คงมีพร้อมบ้างขาดบ้างเพราะเสียงเอะอะมันดังขึ้นมาอยู่ข้างๆ หู

"ไม้บรรทัดกูก็ไม่เอามา เมื่อเช้าถึงว่าลืมอะไรไป"

เสียงแน็กกี้เพื่อนชายในกลุ่มพูดขึ้น เขาควานหาของในกระเป๋าอยู่นาน จนมินตราเองก็รู้สึกรำคาญก่อนจะยื่นอุปกรณ์ให้เพื่อนยืม

"วันหลังหัดเตรียมใส่กระเป๋าตั้งแต่ตอนเย็นนะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาหาของที่ไม่ได้เอามา"

มินตราอดที่จะบ่นเพื่อนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าของพวกนี้จะไม่ได้ใช้ แต่มันเป็นของจำเป็นที่ต้องใช้บ่อยเพื่อนชายเธอก็ถนัดเหลือเกิด ถนัดลืม

"ครับแม่ ครับ ผมจะเตรียมใส่กระเป๋ามาให้เรียบร้อย"

แน็กกี้อดไม่ได้ที่จะประชดเพื่อนสาวของเขา ในกลุ่มคนที่ดูจริงจังเวลาเรียนมากที่สุดน่าจะเป็นมินตรานี่แหละ ถึงเวลาเรียนเธอเต็มที่ถ้าเวลาเล่นก็ไม่ต่างกัน เต็มที่เช่นกัน

ถึงชั่วโมงที่สาวๆ หลายคนเฝ้ารอ งานที่ต้องเข้าเรียนทำโมบายชิ้นงาน ก่อนที่อาจารย์จะให้ลงมือทำก็ต้องลงลึกรายละเอียดพร้อมจุดประสงค์ของงานชิ้นนี้

แต่การเรียนวันนี้สาวๆ ก็ต้องผิดหวังเมื่อรุ่นพี่ปีสามยังไม่สะดวกเข้ามาช่วยดู

"ไม่มีกระจิดกระใจเรียนเลยกู พี่ขุนพลคนหล่อก็ไม่มา" กุ้งนางพูดขึ้น เมื่อรู้ว่าชั่วโมงนี้รุ่นพี่มีเรียนเช่นกัน

"ผู้หญิงนี่ก็แปลกมึงว่าไหม ทำไมชอบคนเลวหล่อแล้วไงชื่อเสียเอ้ย เสียงดังไกลทั่วมหาลัย"

เจมส์และแน็กกี้คุยกันตามประสาผู้ชาย แต่ก็ไม่วายโดนเพื่อนสาวๆ ว่า

“ก็พวกมึงไม่หล่อเหมือนพี่เขาไง เลยอิจฉา”

ต่างกับมินตราที่เอาแต่นั่งยิ้มที่เห็นเพื่อนชายหญิงเถียงกันอยู่

“ทีมินไม่เห็นมันจะคลั่งเหมือนพวกแกเลย พวกแกนี่มันพวกบ้าผู้ชาย”

เจมส์อดที่จะว่าเพื่อนสาวไม่ได้ จ๊ะจ๋า และกุ้งนาง ต่างเบ้ปากไปตามๆ กัน

“มินตราคนสวย ไม่ชอบคนหล่อบ้างหรือไงจ๊ะ”

กุ้งนางที่เห็นเพื่อนสาวเอาแต่นั่งนิ่ง นานๆ ที่จะเงยหน้าขึ้นมายิ้ม เหมือนกับโลกนี้ขาดสีสันยังไงยังงั้น

“ใครจะไม่ชอบคนหล่อวะ แต่ถ้าหล่อแถมความเจ้าชู้ก็ไม่เอาด้วยหลอก ไม่ไหว”

พูดแล้วสาวสวยก็อมยิ้ม พลางส่ายหน้าไปมา มันคงจะจริงเพราะคนเจ้าชู้ถ้าจะให้เอามาเป็นแฟนคงไม่วายช้ำใจตายพอดี

เที่ยงวันของวันนั้น มินตราเดินมาพร้อมกับจ๊ะจ๋า และกุ้งนาง สามสาวเดินมาที่โรงอาหารของมหาลัย

“กินอะไรดีวะ”

จ๊ะจ๋าถามเพื่อนสาวอีกสองคนที่เดินมาข้างๆ สายตาที่มองไปยังร้านต่างๆ กวาดมองอาหารไปทั่ว

“อยากกินก๋วยเตี๋ยวว่ะ”

มินตราตอบเพื่อนสาวที่มองดูอาหารตามร้านต่างๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยวอย่างปากบอก จังหวะที่มินตรายืนรอก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้นก็มีหนุ่มร่างสูงมายืนข้างๆ เธอยังไม่ทันได้สังเกตมอง แต่ชายหนุ่มก็ทักขึ้นเสียก่อน

“ใจตรงกันเลยนะเรา”

น้ำเสียงทุ้มของชายร่างสูงทำเอาเธออดที่จะหันไปมองไม่ได้ ขุนพลหันมาสบตาสาวสวยตากลม ก่อนจะยกยิ้มให้บางๆ ทำเอามินตราเองไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“พี่ก็พึ่งมาทานเหมือนกันเหรอคะ”

ชายหนุ่มยิ้มก่อนที่จะตอบประโยคนั้นให้เธอ

“ครับ พอดีพี่ทำงานส่งยังไม่เสร็จเลยมาช้า”

มินตราได้แต่พยักหน้ารับรู้คำตอบนั้น ก่อนที่ก๋วยเตี๋ยวที่เธอสั่งจะพร้อมเสิร์ฟ มินตราเธอไม่รอช้ากะว่าจะรีบถือชามก๋วยเตี๋ยวไปให้เร็วที่สุดเพราะไม่มีอะไรที่ต้องคุยกับรุ่นพี่นานนัก แต่ทว่า เขากับพูดทักขึ้นอีก

“น้องมินตราไม่เห็นรับแอดเฟสพี่เลย”

ใบหน้าว่าคมแล้ว สายตาที่มองมาคมกว่า มินตราเธอไม่คิดว่ารุ่นพี่จะแอดเฟสมาและไม่รู้ว่าคนไหน ชื่ออะไร เพราะปกติเธอไม่รับคนอื่นไปทั่ว

“อ๋อ คือมินยังไม่เปิดดูเลยค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าพี่แอดมา”

“งั้นเหรอ …อัศวินขี่ม้านะ” พอพูดจบเขาก็ถืออาหารไปยังกลุ่มเพื่อน พอไปนั่งที่โต๊ะ ขุนพลก็มองมาแล้วยิ้มให้เธอ ส่วนมินตรายัง งงอยู่กับอัศวินขี่ม้าก่อนจะตั้งสติแล้ว เดินไปที่โต๊ะของเพื่อนๆ เธอ

"มิน พี่ขุนพลเขาคุยอะไรกับแก"

ยังไม่ทันได้นั่ง หนึ่งในเพื่อนของเธอก็ถามขึ้น

"ไม่มีอะไร พี่เขาก็ถามเรื่องทั่วไป" มินตราเลือกที่จะไม่เล่า ไม่ใช่อยากจะปิดเพื่อนเพียงแค่คิดว่ามันไม่สำคัญอะไรมาก อีกอย่างก็ไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเซ้าซี้ถามให้วุ่นวายด้วย

เมื่อกลับมาที่ห้องเธอจึงเปิดเฟสบุ๊คดู แต่ก็ยังไม่กดรับแอดแต่อย่างใด มินตราชั่งใจอยู่สักพักพร้อมกับพูดขึ้น

"ก็แค่รับแอดหรือเปล่าวะ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่หว่า" เมื่อพูดกับตัวเองแล้ว เธอจึงกดรับแอดเพื่อนจากรุ่นพี่หนุ่ม ยังไม่ทันได้ถึงยี่สิบนาทีด้วยซ้ำ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น

ข้อความ

(ขอบคุณนะครับที่รับแอด) สติ๊กเกอร์รูปยิ้ม

มินตราหยิบขึ้นมาอ่านแต่เธอก็ไม่ได้ตอบกลับไป เพราะไม่อยากจะสานสัมพันธ์ให้มากนะ แค่กดรับเพื่อนก็น่าจะเพียงพอแล้ว

**รุกอย่างหนัก 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel