BAD TRY 5
“เดี๋ยวคริสขอตัวไปเอาของที่รถสักครู่นะคะ” เมื่อคริสตัลเห็นชายหนุ่มที่เธอรอให้เขาติดต่อกลับมาตลอดหนึ่งอาทิตย์เดินออกไปจากร้านอาหาร ไม่รอช้าเธอรีบหันกลับมาพูดกับกรกชที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับเธอแทบจะทันที
“น้องคริส…” ร่างเล็กไม่สนใจเสียงรั้งเรียกของกรกช เธอรีบสะพายกระเป๋าแล้วก้าวขาเดินออกมาข้างนอกอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตกวาดสายตามองชายหนุ่มที่เธอต้องการพูดคุยด้วยทั่วลานจอดรถ และเมื่อเห็นว่าเขายืนพิงรถคันนึงสูบบุหรี่อยู่ จึงรีบสาวเท้าเข้าไปหาเขาทันที
“คุณแดร็ก” เมื่อเจ้าของใบหน้าสะสวยเปล่งเสียงเรียกชื่อเจ้าของส่วนสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร เขาค่อยๆ หันหน้ามาสบตาอีกครั้งนึง แววตานั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา
“…”
“คุณไม่ได้นามบัตรของคริสจากลูกน้องคุณเหรอคะ” คริสตัลกำลังคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะติดต่อกลับมาหาเธอบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะเมินเฉยกับคำพูดของเธอในวันนั้นขนาดนี้
มือขวาหนุ่มไม่ได้พูดอะไรกลับไป เขาเพียงแค่นึกถึงวันที่พอร์ชลูกน้องคนสนิทนำนามบัตรของผู้หญิงที่น่ารำคาญอย่างคริสตัลมาให้ ถึงแม้ว่าเขาจะรับมันมาแต่สุดท้ายเขาก็ขยำทิ้งลงถังขยะ และไม่ได้คิดจะสนใจอะไรมันไปมากกว่านั้นเลย
“คริสกำลังพูดกับคุณอยู่นะ”
“ฉันขอร้องให้เธอมาพูดกับฉันเหรอ” แดร็กหยัดตัวยืนเต็มความสูง แล้วเปล่งเสียงราบเรียบระคนแข็งกระด้างพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าคนตัวเล็กด้วยความหยาบคาย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น แต่ระยะห่างที่คริสตัลยืนมันใกล้ชิดกับเขามากเสียเหลือเกิน
“…”
“ผู้ชายที่มาด้วยไม่น่าสนใจเหรอ ถึงต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก” ขายาวก้าวเข้าไปประชิดร่างเล็กจนเธอผงะถอยหนีด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าแดร็กจะทำแบบนี้กับเธอ
“คริสกับผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ที่มาวอแวฉันเพราะอยากให้ฉันไปเป็นมือที่สามเหรอ? หรือคนเดียวไม่เร้าใจเธอ” คริสตัลเม้มปากให้กับคำพูดคล้ายดูถูกของแดร็ก ก่อนจะตอบกลับไปเสียงราบเรียบ เพราะคิดว่าแดร็กคงจะแค่ไม่พอใจที่เห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่น
“คริสจะพูดให้คุณเข้าใจ คริสกับผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาเป็นแค่ผู้กำกับที่เด็กในบริษัทของคริสทำงานอยู่ด้วยก็เท่านั้น”
“…” อีกฝ่ายยังคงทำหน้านิ่งราวกับไม่สนใจคำอธิบายของเธอเลย
“มาพูดเรื่องของคุณดีกว่าไหมคะ ผู้หญิงในร้านอาหารคนนั้นหรือเปล่าที่หักอกคุณ”
“มันไม่เกี่ยวกับเธอ” แดร็กเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความไม่พอใจที่คริสตัลพูดถึงใบหม่อนและมายุ่งเรื่องของเขามากเกินไป
“ก็คริสกำลังจีบคุณ มันจะไม่เกี่ยวได้ยังไง!” เพียงแค่เสี้ยววินาทีหลังจากสิ้นเสียงของคริสตัล ร่างของเธอก็ถูกมือขวาหนุ่มผลักชิดกับประตูรถทางฝั่งคนขับอย่างแรงจนเธอเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน”
“คุณกำลังกลัวว่าจะรักฉันเข้าจริงๆ และไม่เก่งเหมือนที่ปากกำลังปฏิเสธอยู่ใช่ไหมล่ะ” ใบหน้าเซ็กซี่เชิดหน้าท้าทายเขาอย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้ว่าหัวไหล่ของเธอจะถูกบีบจนแทบจะแหลกคามือเขาอยู่แล้ว
“ผู้หญิงอย่างธะ…”
“ไม่แน่จริง?”
“ถ้าอยากเป็นตัวแทนของใครมากนักฉันก็จะให้เธอเป็น…อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน” ริมฝีปากหนาเค้นเสียงเย็นยะเยือก พร้อมกับสะบัดมือออกจากร่างกายของคริสตัล ก่อนจะดันเธอออกห่างรถยนต์แล้วเปิดประตูขับมันออกมาจากร้านอาหารทันที
“ฟู่วววววว~” หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ แล้วหลุบตามองหัวไหล่มนที่มีรอยแดงจากการบีบเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความเจ็บให้ความรู้สึกกลับมาเป็นปกติ หลังจากนั้นจึงเดินกลับเข้ามาในร้านอาหารตามเดิม
ดวงตากลมโตเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งอยู่โต๊ะเยื้องออกไปอย่างให้ความสนใจ ใบหน้าของเธอคนนั้นดูน่ารักสดใสแม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังรู้ว่านี่แหละ…สเปคของผู้ชายหลายๆ คน เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจนแล้วคริสตัลจึงเลิกสนใจแล้วก้าวขาเดินมาที่โต๊ะของตัวเองทันที
“ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ พอดีคริสเจอเพื่อนเลยพูดคุยกันนิดหน่อย” หญิงสาวปรับสีหน้าเป็นปกติโดยไม่ต้องการให้กรกชสงสัยว่าที่ลานจอดรถเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ไม่เป็นไรครับ แค่น้องคริสนั่งอยู่ตรงนี้พี่ก็ดีใจแล้วครับ” คริสตัลปั้นหน้ายิ้มรับคำพูดหวานๆ ของผู้กำกับหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนที่เสียงแจ้งเตือนจากข้อความของเธอจะดังขึ้น
ติ๊ง ติ๊ง~
“สักครู่นะคะ” คริสตัลเอ่ยบอกคนตรงหน้าเสียงใส แล้วหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดออกมาจากกระเป๋าสะพายราคาแพง
‘ห้าทุ่มมาหาฉันที่คอนโด xxx’
@เพนต์เฮาส์โชแปง
เอี๊ยดดดดด~ รถยนต์ราคาแพงเคลื่อนเข้ามาจอดภายในเพนต์เฮาส์สุดหรู ก่อนที่เจ้าของขายาวจะก้าวลงมาแล้วเดินตรงเข้ามาด้านใน
“พี่แดร็กเอาของไปให้ยัยหม่อนเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ครับนายหญิง”
“ถ้าลูแปงไม่เป็นไข้งอแงมากขนาดนี้ เพย์ก็คงเอาไปให้ยัยหม่อนเองแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ” เพตราแอบรู้สึกผิดที่เธอต้องทำให้แดร็กไปเจอกับเพื่อนสนิทของเธออีกครั้ง ทั้งที่รู้ว่าเขากำลังรักษาแผลใจอยู่ก็ตาม
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ มันเป็นหน้าที่ผมอยู่แล้ว”
“พี่แปงบอกให้พี่แดร็กขึ้นไปหาที่ห้อง แต่ระวังอย่าเสียงดังนะคะ ลูแปงเพิ่งหลับค่ะ”
“ครับ” มือขวาหนุ่มกล่าวสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วเดินขึ้นมาด้านบนตามที่นายหญิงของเขาบอกเมื่อสักครู่ ชายหนุ่มไม่เคาะประตูขออนุญาตให้เกิดเสียงรบกวนการพักผ่อนของนายน้อย จัดการเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะทันที
“ทำไมมึงไม่เคาะประตู”
“นายน้อยพักผ่อนอยู่ครับ”
“มึงมาก็ดีแล้ว กูมีเรื่องจะคุยมึงหน่อย” แดร็กก้าวขาเดินไปนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามผู้เป็นเจ้านาย แล้วมองหน้าเป็นเชิงถาม
“…”
“มึงอยากไปทำงานที่ฝรั่งเศสก่อนไหม รอให้ความรู้สึกมึงดีขึ้น มึงพร้อมจะเผชิญเรื่องต่างๆ แล้วค่อยกลับมา” แดร็กขมวดคิ้วมองโชแปงอย่างไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าเขาจะอกหักจากใบหม่อนก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้เสียใจฟูมฟายจนดูเหมือนคนหมดอะไรตายอยากขนาดนั้น…และที่สำคัญเขามีเรื่องสนุกบางอย่างต้องทำด้วย
“ผมไม่ได้เป็นอะไร”
“ไอ้แดร็กมึงกับกูทำงานกันมาตั้งหลายปี ทำไมแค่นี้กูถึงดูไม่ออกว่ามึงเสียศูนย์วะ”
“ผมจัดการกับความรู้สึกตัวเองได้ นายไม่ต้องยุ่งเรื่องของผมก็ได้” แดร็กเข้าใจว่าโชแปงกำลังเป็นห่วงเขา แต่มันมากเกินไปจนเขาหงุดหงิด
“งั้นก็แล้วแต่มึงเถอะ แต่มึงควรรู้ว่าผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลกนะ คนที่พร้อมจะเยียวยามึงมันก็มี”
“ถ้ามีคนเดียวในโลกนายหญะ…” ไม่รอให้แดร็กได้พูดจบ โชแปงก็เอ่ยขัดพร้อมกับกุมขมับตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะโบกมือไล่เพราะรู้ว่าแดร็กกำลังจะพูดกวนประสาทอะไรเขา
“กูรู้ว่ามึงจะพูดอะไร ถ้าจะกวนตีนก็รีบออกไปก่อนที่มึงจะได้แดกลูกปืนแทนข้าว”
“ขอตัวครับ” แดร็กกล่าวสั้นๆ แล้วหยัดตัวลุกจากโซฟาตัวเขื่อง ก้มหัวให้กับเจ้านายหนุ่มเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูเดินออกมาจากห้องด้วยความเงียบงัน