BAD TRY 4
เมื่อรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ราคาแพงจอดสนิท เจ้าของขาเรียวยาวก้าวลงมายืนเต็มความสูงข้างๆ รถด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ก่อนจะย่างกรายเข้ามายังร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมือง มันเป็นสถานที่นัดพบของเธอในวันนี้
“สวัสดีค่ะ คุณกรกช” คริสตัลก้าวทักทายคนโตกว่าเพียงไม่กี่ปีด้วยท่าทีนอบน้อม ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่เธอไม่ต้องการเจอหน้ามากที่สุด แต่หญิงสาวก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับน้องคริส นั่งก่อนสิครับ” คำพูดสนิทสนมชวนอาเจียนและสายตากระลิ้มกระเหลี่ยของผู้กำกับหนุ่ม ทำคริสตัลเผลอชักสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ปรับกลับมาเป็นปกติในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
“ฉันไม่ได้มาช้าไปใช่ไหมคะ”
“ไม่เลยครับ พี่เป็นฝ่ายมาก่อนเวลาเอง” พูดจบชายหนุ่มก็หยัดตัวลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินเข้ามาประชิดร่างแบบบาง ก่อนจะทำทีว่าเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง แต่คริสตัลก็ผละตัวออกห่างพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณนะคะ แต่อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ฉันค่อนข้างเกรงใจ” สำหรับเธอมันไม่ใช่การต้อนรับ แต่มันเป็นการคุกคามทางร่างกายเสียมากกว่า
“อย่าเกรงใจเลยครับ คนกันเองทั้งนั้น” คำพูดดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไรจากคริสตัล
หญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับอีกฝ่าย ในขณะที่พนักงานกำลังรินไวน์ใส่แก้วให้กับทั้งเขาและเธอ
“วันนี้ฉันขอเป็นน้ำเปล่าแทนแล้วกันค่ะ”
“ปกติน้องคริสชอบดื่มไวน์ยี่ห้อนี้ไม่ใช่เหรอครับ พี่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้”
“วันนี้ฉันขับรถมาเอง ไม่สะดวกดื่มเท่าไรค่ะ”
“พี่ไปส่งได้นะครับ ไม่ต้องกังวล”
“อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันมีประชุมแต่เช้าด้วยน่ะค่ะ การดื่มช่วงเวลานี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไร” คริสตัลพยายามหาเหตุผลมาโต้แย้งกับกรกช เมื่อเขาพยายามคะยั้นคะยอให้เธอดื่มแอลกอฮอล์ทั้งที่เธอไม่ต้องการ ถึงแม้ว่ามันจะเสียมารยาท แต่ถ้าเป็นกรกชเธอต้องทำ
“งั้นก็ได้ครับ เอาตามที่น้องคริสว่าเลยครับ”
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ…” คริสตัลเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วเริ่มเปิดประเด็นที่อีกฝ่ายต้องการคุยให้จบโดยเร็วที่สุด
“…ทางคุณกรกชมีเรื่องของซิลเวียร์จะคุยกับฉันใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ เพราะช่วงนี้ซิลเวียร์มีปัญหาในการมาทำงานและการเข้าฉากกับนักแสดงท่านอื่นมากๆ พี่เลยอยากจะคุยกับน้องคริสสักหน่อย”
“เรื่องของซิลเวียร์ ทางผู้จัดการของน้องแจ้งมาบ้างแล้วค่ะ แต่เพราะช่วงนี้เขามีปัญหาส่วนตัวมากขึ้นเลยส่งผลกับปัญหานี้ แต่ฉันก็เข้าใจค่ะ ว่ามันไม่สามารถใช้เหตุผลนี้ได้ ทุกคนต้องการทำงานกับมืออาชีพอยู่แล้ว”
“พี่เข้าใจน้องคริสนะครับ พี่เลยอยากจะมาคุยปัญหาตรงนี้ที่พี่คิดว่าจะช่วยได้” คริสตัลมองมือของกรกชที่ยื่นมาสัมผัสมือเธอด้วยแววตารังเกียจ แต่ก็ต้องนับเลขในใจไม่ให้หงุดหงิดจนเสียงานเสียการในตอนนี้
“ยังไงเหรอคะ”
“พี่ว่าน้องคริสรู้ว่าพี่หมายถึงอะไร” แววตาของกรกชเปล่งประกายชัดเจนจนคริสตัลรู้สึกขนลุกและขยะแขยงกับมัน แต่เธอก็ยังต้องรักษาภาพพจน์รองประธานบริษัทเอาไว้
“คริสจะลองคิดดูก่อนแล้วกันค่ะ แต่ถ้าคุณกรกชช่วยคริสก่อน มันอาจจะทำให้คริสยอมตกลงก็ได้นะคะ” เธอไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบตกลงไปในครั้งเดียว เพราะคิดว่าขณะนี้เธอยังทนกับท่าทางคุกคามของเขาได้ มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเสียหายมากเท่าไร
“สำหรับน้องคริส ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ”
“ขอบคุณนะคะ” ริมฝีปากบางส่งยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า โดยที่มีอีกสายตาหนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาราบเรียบ และหันกลับไปสนใจคนตรงหน้าของเขาแทน เมื่อได้ยินเสียงของเธอเรียกชื่อเขา
“พี่แดร็กคะ”
“ว่าไง”
“หม่อนต้องขอโทษพี่แดร็กแทนยัยเพย์ด้วยนะคะที่ต้องเสียเวลาเอาของมาให้หม่อน”
“ไม่เป็นไร”
“พี่แดร็กสบายดีใช่ไหมคะ” แดร็กนิ่งไปครู่ใหญ่เมื่อได้ยินคำถามของผู้หญิงที่เขายังไม่สามารถลืมได้สักที แม้เวลาจะผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ตาม
“อืม สบายดี…” ใบหม่อนพยายามไม่แสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมาตรงๆ ที่เธอเป็นต้นเหตุให้แดร็กเปลี่ยนไปขนาดนี้
“…แล้วเราสบายดีใช่ไหม ไอ้คูปมันดูแลเราดีหรือเปล่า”
“ค่ะ” แดร็กพยักหน้าน้อยๆ เข้าใจคำตอบสั้นๆ ที่อีกฝ่ายตอบกลับมา มันเป็นความยินดีที่เสียใจอยู่ภายในหัวใจของเขา เพียงแค่เขาเห็นใบหม่อนมีความสุขก็พอแล้ว
“งั้นเดี๋ยวพี่ขอกลับก่อน จะให้ไปส่งหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่คูปกำลังมา”
“อืม” มือขวาหนุ่มครางตอบในลำคอเบาๆ แล้วหยิบถุงกระดาษข้างตัวที่นายหญิงของเขาฝากเอามาให้วางลงบนโต๊ะ ก่อนจะหยัดตัวลุกจากเก้าอี้หมายจะเดินออกมาข้างนอก แต่ทว่าสายตาของเขาดันเหลือบไปเห็นคริสตัลกำลังหันมาจ้องมองเขา ทำให้ทั้งคู่ได้สบสายตากันตรงๆ อีกครั้ง หลังจากไม่ได้เจอกันนานเกือบหนึ่งอาทิตย์