BAD RETURN 5
เช้าวันต่อมา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~
“ใคร” เสียงแหลมตะโกนถามคนด้านนอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาติดผนังแล้วก็ต้องหัวเสียกว่าเดิมเพราะมันไม่ใช่เวลาที่เธอจะต้องตื่น
“ผมเองครับนายหญิง”
“เข้ามา” เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงทุ้มของเจสันมือขวาคนสนิทของตัวเองก็เอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหยัดตัวลุกจากเตียง พลางก้าวขาเดินไปหยิบชุดคลุมมาสวมทับ
“...” เป็นจังหวะเดียวกับที่เจสันเปิดประตูเข้ามาพอดี เขาเผลอมองเรือนร่างอรชรที่มีเพียงบราเซียร์และแพนตี้ตัวจิ๋วของผู้เป็นเจ้านายเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าหนี
“มีอะไรก็พูดมา รู้ใช่ไหมถ้ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญนายจะโดนอะไร” หญิงสาวหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเขื่อง ยกขาวางบนโต๊ะกระจกก่อนจะเงยหน้าวางศีรษะลงบนพนักโซฟาแล้วหลับตาลงรอฟังข่าวที่มือขวาตัวเองกำลังจะบอก
“เคลวินตายแล้วครับ” มาเฟียสาวลืมตาทันทีที่ได้ยินว่าอดีตคู่ขาคนสนิทตัวเองได้เสียชีวิตลงเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่ามันไม่ใช่ฝีมือของเธอแน่ๆ และเธอก็ไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือของใคร
“อุบัติเหตุ?” หญิงสาวเลิกคิ้วถามก่อนจะหยัดตัวลุกจากโซฟาเดินเข้าไปในห้องครัว หยิบไวน์จากตู้ออกมากระดกดื่มแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาหกโมงเช้าก็ตาม
“ไม่ใช่ครับ”
“ใคร” เจสันไม่ได้ตอบเป็นคำพูด แต่เขาเลือกที่จะส่งแท็บเล็ตในมือให้กับเจ้านายสาว
“นายหญิงลองดูเองดีกว่าครับ” ควีนรับมาอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เธอก้มมองภาพบนหน้าจอที่ปรากฏรอยกรีดเป็นตัวอักษรบนหน้าผากของศพไร้ชีวิตอย่างเคลวินเพียงแค่เสี้ยวเดียวเธอก็รู้ทันทีว่าใครเป็นคนฆ่าอดีตคู่ขาของเธอ
“คิดจะเล่นกับฉันอย่างนี้ใช่ไหม...” ควีนกำหมัดแน่นด้วยความฉุนเฉียวคนที่ทำแบบนี้เป็นอย่างมาก ก่อนจะหันไปสั่งมือขวาเสียงราบเรียบ
“...เตรียมรถอีกหนึ่งชั่วโมงฉันจะออกไปข้างนอก”
รถยนต์คันหรูเคลื่อนเข้ามาจอดบริเวณหน้าบริษัทนำเข้าส่งออกอะไหล่รถยนต์รายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ ขาเรียวก้าวลงยืนนอกรถจนเต็มความก่อนจะก้าวเดินเข้ามาด้านในท่ามกลางสายตานับสิบคู่ของเหล่าพนักงานชายหญิงที่จ้องมองมายังเธอ
มาเฟียสาวเหลือบตามองดวงตาคู่หนึ่งที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตรด้วยสายตาเย็นชา แล้วจึงเปลี่ยนทิศทางการเดินเพื่อเดินไปหาเจ้าของสายตาคู่นั้น
“ที่นี่ไม่สอนพนักงานเรื่องมารยาทเหรอ” คนโดนถามทำหน้างุนงง เธอรู้สึกเสียงสันหลังเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าสะสวยของควีน
“...”
“ฉันกำลังคุยกับเธออยู่...” มือเล็กเอื้อมไปจับป้ายพนักงานของหญิงสาว ก่อนจะปรายตามองเล็กน้อยแล้วจึงแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ
“...เป็นหัวหน้าคนทั้งที่แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีมารยาท เจ้าของบริษัทนี้คงตาต่ำ ไม่สิ...เจ้าของก็ต่ำพอๆ กัน” ควีนสะบัดป้ายพนักงานออกจากมืออย่างแรงก่อนจะหันมองมือขวาคนสนิทตัวเองเล็กน้อย เจสันพยักหน้ารับรู้บางอย่างที่ผู้เป็นเจ้านายกำลังจะสื่อแล้วจึงผายมือให้เธอเดินไปพร้อมกับลูกน้องอีกคนหนึ่งก่อน ส่วนเขาก็จะทำงานของตัวเอง
มาเฟียสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่ เธอกำลังจะเอื้อมมือเปิดประตูแต่ก็ต้องหงุดหงิดเมื่อถูกเลขาหน้าห้องร้องห้ามขึ้นเสียก่อน
“ถ้าไม่ได้นัดไว้ พบเจ้านายไม่ได้นะคะ”
“งั้นเหรอ...”
“...แล้วฉันต้องทำยังไงถึงจะได้พบเจ้านายของเธอล่ะ” หญิงสาวปล่อยมือออกจากลูกบิดประตู ก่อนจะหันมายืนประจันหน้ากับผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ตอนนี้เจ้านายยังไม่เข้าบริษัทค่ะ”
“งั้นก็ดี เขาจะได้เซอร์ไพรส์ที่เห็นฉัน” สิ้นเสียงควีนก็จัดการเปิดประตูห้องทำงานของคนที่เธอต้องการจะพบเข้าไปทันที
“เข้าไม่ได้นะคะ!!!” เสียงตะโกนห้ามของเลขาสาวโพล่งขึ้น แต่ก็ถูกลูกน้องของมาเฟียสาวกั้นไว้ไม่ให้เข้าไปยุ่งกับผู้เป็นเจ้านายของตัวเอง
“เสียงน่ารำคาญชะมัด” ร่างบางสบถออกมาหลังจากที่ประตูห้องทำงานถูกปิดลง ขายาวก้าวเดินสำรวจจนทั่วห้องสี่เหลี่ยมจนทั่วทุกมุมไม่เว้นแม้แต่ห้องพักส่วนตัวของเขาด้วย
ผ่านไปสักพัก...
หญิงสาวหยิบไวน์ในตู้ออกมานั่งดื่มอย่างถือวิสาสะ กว่าครึ่งชั่วโมงที่เธอนั่งดื่มรอเจ้าของห้องก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะมา แต่เมื่อเธอกำลังจะหยัดตัวลุกจากโซฟาเสียงประตูบานหรูก็ดังขึ้น
“คิดถึงฉันมากเลยเหรอถึงรีบมาหาก่อนวันนัดขนาดนี้” น้ำเสียงอารมณ์ของโนอาห์ดังขึ้นทำให้ควีนรีบตวัดสายตาหันไปมองเขาทันที
“ฉันเนี่ยนะจะคิดถึงนาย พูดแบบนั้นมันดูน่าขำนะว่าไหม”
“แล้วลมอะไรถึงหอบเจ้าแม่ควีนมาถึงนี่ได้” มาเฟียหนุ่มก้าวขาเดินเข้าไปประชิดตัวอดีตแฟนสาว ก่อนจะลูบไล้สะโพกมนเบาๆ
“อย่าทำเป็นไม่รู้...นายมายุ่งกับคนของฉันทำไม” มือเล็กตะปบเข้าที่ลำคอของมาเฟียหนุ่มอย่างแรง กัดฟันถามอย่างไม่สบอารมณ์ เธอรู้ว่าเป็นเขาตั้งแต่เห็นรอยแผลที่อยู่บนหน้าผากของเคลวิน น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเวลาโนอาห์ลงมือกำจัดใคร เขาจะฝากอักษรย่อชื่อเล่นของตัวเองไว้บนหน้าผากของคนเหล่านั้นเสมอ
“หึ” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะออกมาจากลำคอเบาๆ แล้วรั้งศีรษะทุยของควีนเข้ามาใกล้ ไม่สนใจความเจ็บจากเล็บคมของเธอที่จิกลงบนท้ายทอยของตัวเองเลยสักนิด
“ฉันถามว่านายมายุ่งกับคนของฉันทำไม!!!” ควีนเริ่มรู้สึกโมโหกับใบหน้ากวนประสาทของอดีตแฟนหนุ่ม ถ้าเป็นคนอื่นที่ฆ่าเคลวินเธอก็คงปล่อยผ่านไป แต่เพราะเป็นโนอาห์เธอจึงอยากเอาเรื่องให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับการตายของเคลวินก็ตาม
“คนที่กล้าฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอย่างเธอ ทำไมถึงหาคำตอบว่าทำไมฉันถึงฆ่ามัน” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามก่อนจะผลักร่างเล็กลงไปที่โซฟาอย่างแรง ส่งผลให้เล็บคมของหญิงสาวข่วนท้ายทอยเขาจนเลือดซึมออกมา
“อยากจะเป็นศัตรูกับฉันมากนักใช่ไหม”
“ฉันแค่ตัดอดีตคู่ขาที่เธอรำคาญนักรำคาญหนาไปให้...ฉันควรจะได้รางวัลอดีตคนเกือบเป็นผัวดีเด่นมากกว่านะ” ริมฝีปากหนายกยิ้มร้ายกาจ ก่อนจะก้าวขาไปยืนกลางหว่างขาเรียว แล้วยกมือกดลำคอเล็กไว้หลวมๆ แต่ควีนก็ยังเชิดหน้าท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว คนอย่างเธอไม่กลัวอะไรแม้แต่ความตาย
“หรือที่นายฆ่าเคลเป็นเพราะนายหึงฉัน” มาเฟียสาวพูดกวนประสาทคนตรงหน้าด้วยการเรียกเคลวินสรรพนามเป็นกันเองและที่เธอจะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิดเพราะโนอาห์ทำแบบนี้มาตลอด เพียงแต่ครั้งนี้มันเกินความจำเป็นเกินไป
“ขอโทษที่ทำให้เธอต้องคิดแบบนั้น เวลาฉันหึงฉันจะทำคนของฉันมากกว่า...แต่ที่ฉันฆ่ามันเป็นเพราะฉันแค่อยากเล่นสนุกกับความตายของใครสักคนเท่านั้นเอง” โนอาห์เอ่ยออกมาผ่านใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ มีเพียงแค่แววตาวาวโรจน์ดุจปีศาจอยู่ในดวงตาคู่นั้น
“พูดเหมือนกับว่าฉันเป็นคนของนายเลยนะ” มือเล็กลูบไล้ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรั้งใบหน้าให้เข้ามาแนบชิดจนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน
“ฉันพูดแบบนั้นเหรอ” ร่างเล็กกดจูบลงที่ริมฝีปากบนของโนอาห์หนักๆ หนึ่งที ก่อนจะใช้เรียวลิ้นเล็กตวัดเลียริมฝีปากหนาเบาๆ ราวกับยั่วยวนอีกฝ่ายให้เคลิ้มไปกับการกระทำของเธอและแน่นอนว่าพอเป็นควีน มาเฟียหนุ่มพอใจกับมันเป็นอย่างมากจนลืมไปว่าเธอคือแม่มดที่พร้อมจะทำให้เขาตายใจอยู่เสมอ
“นายไม่ได้พูด แต่นายกำลังทำแบบนั้นอยู่เลยแหละ”