BAD RETURN 4
“กูสองคนกลับก่อนแล้วกัน” วาคีนพูดก่อนจะหยัดตัวลุกจากโซฟาไม่ลืมที่จะดึงเรเวนให้เดินออกมาพร้อมกับตัวเองเพื่อให้เพื่อนทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกัน
พรึ่บ! และทันทีที่ทั้งสองคนเดินออกไปควีนก็ตัดสินใจลุกจากโซฟาเพื่อกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง แต่ก็ถูกโนอาห์คว้าข้อมือแล้วกระชากให้นั่งลงที่เดิม
“มีสิทธิ์อะไรมาแตะเนื้อต้องตัวฉัน” ควีนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ สะบัดมือของชายหนุ่มออกแขนตัวเองอย่างแรงแต่ก็ยอมนั่งลงที่เดิม
“แล้วทำไมถึงคิดว่าฉันจะทำไม่ได้ล่ะ” มาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วถามก่อนจะคว้าแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นมาแกว่งเล่นอย่างกวนประสาท
“เหอะ! ฉันไม่อยากเสวนากับแฟนเก่าอย่างนายหรอกนะ”
“แต่ก็เป็นแฟนเก่าที่เคยเกือบเป็นผัวเธอ”
“เกือบไม่ได้แปลว่าเป็นผัวนะ หรือนายไม่รู้จักคำว่าเกือบ?” ร่างบางเลิกคิ้วถามพลางยกขาเรียวไขว่ห้างจนเดรสสีแดงเพลิงร่นขึ้นมาจนเกือบจะเห็นของสงวน
“ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี ไม่อยากรื้อฟื้นความหลังกับคนเกือบๆ อย่างฉันบ้างเหรอ” มาเฟียหนุ่มเขยิบเข้าไปประชิดร่างเล็กอย่างรวดเร็วจนควีนตกใจผงะถอยห่างชายหนุ่มไปเล็กน้อย เมื่อตั้งสติได้เธอก็เอื้อมมือขยุ้มคอเสื้อด้านหลังของโนอาห์อย่างแรง
“คิดถึงฉันมากเหรอ ถ้าคิดถึงก็ลองพูดกับฉันดีๆ สิ เผื่อฉันจะเห็นใจแล้วเล่นสนุกกับนายอีกสักรอบ” ริมฝีปากบางเลื่อนเข้าไปพึมพำด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันประชิดใบหูของมาเฟียหนุ่มก่อนจะขบเม้มมันเบาๆ
“คิดว่าฉันจะยอมเธอเหมือนที่ผ่านมาเหรอ อย่าลืมสิเธอไม่ได้มีสถานะเป็นแฟนฉันแล้วนะ” มือหนาตวัดโอบเอวเล็กก่อนจะรั้งเข้าหาตัวอย่างแรงจนร่างกายของเขากับหญิงสาวแทบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
“แล้วคิดว่าฉันเป็นควีนคนเดิมเหรอ”
“แล้วมีส่วนไหนที่ไม่เหมือนเดิมบ้าง” ริมฝีปากหนากระตุกร้ายกาจแล้วกระชากหญิงสาวขึ้นมานั่งคร่อมบนหน้าตักตัวเอง ส่งผลให้เดรสสีแดงเพลิงร่นขึ้นไปอยู่บนสะโพกมน เผยให้เห็นแพนตี้สีดำลายลูกไม้ตัวจิ๋ว แต่หญิงสาวก็ไร้ซึ่งความเขินอาย
“อย่างแรกเลยคือสถานะของเราที่เปลี่ยนจากแฟนเป็นอดีตแฟน แล้วก็กำลังจะกลายเป็นศัตรู” คำพูดของหญิงสาวไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้เขาเลยสักนิดเดียว เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าควีนจะทำอะไรกับเขา ถ้าหากว่าเป็นศัตรูกันขึ้นมาจริงๆ
“น่าสนุกดีนะ” มือหนาเกี่ยวปลายผมสีดำขลับของควีนขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่ว่ากี่ครั้งเขาก็ยังคงชื่นชอบมันอยู่เสมอ
“ฉันไม่มีเวลามาเล่นสนุกกับนายบ่อยนักหรอกนะ...”
“...จะเอาอะไรก็พูดมา” ควีนปัดมือของโนอาห์ออกจากผมตัวเองก่อนจะลุกจากตักแกร่งแล้วจัดเสื้อผ้าให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม มาเฟียหนุ่มพิงพนักโซฟาด้วยท่าทีสบายใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก
“ยังแข่งรถอยู่ไหม”
“มันเกี่ยวอะไรกับนาย”
“อีกสองวันมาเจอที่สนามของฉัน...” ยังไม่ทันที่โนอาห์จะพูดจบเสียงแหลมก็แทรกขึ้นมาทันที
“ทำไมฉันต้องไป?”
“...ถ้ากลัวไม่ต้องมาก็ได้นะ ขี้ขลาดสมเป็นเธอดี” เจ้าของใบหน้าหล่อเยาะเย้ยร่างบางผ่านแววตาและท่าทาง เขายกขาขึ้นมาไขว่ห้างแล้วกระดิกเท้าเบาๆ
“ตายคาสนามอย่ามาโทษฉันแล้วกัน” ควีนทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะตัวเอง รอยยิ้มกวนประสาทบนใบหน้าของโนอาห์สร้างความหงุดหงิดให้เธอเป็นอย่างมาก
“นายหญิงครับ” ควีนชะงักเท้าแล้วจึงค่อยๆ หันมองมือขวาตัวเองด้วยหางตาเพียงนิด ก่อนจะคลี่ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นคู่ขาคนสนิทช่วงที่เธออาศัยอยู่ที่อิตาลียืนอยู่ด้านหลังของเขา
“เคลวิน” เธอเดินเข้าไปสวมกอดเจ้าของชื่อที่เธอเอ่ยเมื่อสักครู่ ซบหน้าลงบนบ่าแกร่งก่อนจะเลื่อนสายตามองเจ้าของดวงตาคมกริบที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายเย้ยหยัน แล้วจึงกลับมาสนใจผู้ชายตรงหน้าตัวเองอีกครั้ง
“ทำไมกลับมาแล้วไม่บอกกันเลย” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวาน แต่ดวงตาของเธอกลับแข็งกร้าวเพราะเธอรู้สึกรำคาญเคลวินที่พยายามตามติดเธอไม่ห่าง ถึงแม้ว่ามาเฟียสาวจะพยายามบอกชายหนุ่มแล้วว่าเธอไม่ต้องการเขาแล้วก็ตาม
“แล้วนายกลับมาที่นี่ทำไม”
“ฉันคิดถึงเธอ”
“หึ” หญิงสาวแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะปรายตามองโนอาห์เป็นระยะและเมื่อไม่เห็นว่าเขานั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว เธอจึงผละร่างกายออกจากผู้ชายตรงหน้าแล้วจ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฉันพูดจริงนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงขอร้องอ้อนวอนอย่างมีความหวัง ทั้งที่เขารู้ดีว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ควีนเบื่อใคร เธอก็จะเลิกเล่นสนุกด้วยทันที
“รู้อะไรไหมเคล...”
“...” น้ำเสียงเยือกเย็นผ่านแววตาราบเรียบของควีนส่งผลให้คนฟังถึงกับขนลุกซู่ ขายาวก้าวถอยหนีอัตโนมัติ
“ฉันเบื่อนายมากจนอยากให้นายหายไปเลยตอนนี้...” มือเล็กลูบไล้ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาจนไปถึงบริเวณท้ายทอย เล็บคมจิกลงบนเนื้ออ่อนอย่างแรงแล้วกระชากเข้าหาตัวเองจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน
“...จะหายไปจากชีวิตฉันหรือจะหายไปจากโลกนี้ก็เลือกเอา”