BAD MAFIA 6
“เป็นไรของแก หน้าเป็นตูดมาเชียว” มีนาเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความสงสัย ก่อนเธอจะเลื่อนสายตาไปที่มือเอริณที่กำลังถือถุงกระดาษใบสวย
“อะไรอะ”
“เสื้อสูท” เอริณพูดพลางนั่งลงบนโซฟาหรูอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด รู้สึกหงุดหงิดที่อยู่ในสถานการณ์นั้นทำไมเธอถึงไม่กล้าขัดขืนผู้ชายคนนั้นเลย...เพราะเขาเป็นมาเฟียงั้นเหรอ
“สูทใคร?”
“ฮาเดส”
“ฮะ?” มีนาโพล่งออกมาด้วยความงุนงงว่าทำไมสูทของผู้ชายคนนั้นถึงมาอยู่ที่เพื่อนของเธอ
“ตามนั้น” เธอพยักหน้าพลางหันหน้าไปส่งซิกให้กับลูกน้องเพื่อชงเครื่องดื่มมาให้เธอดับความหงุดหงิดในใจ
“แล้วยังไงต่อ?”
“ก็เปล่า” ร่างเล็กยักไหล่มนเชิงบอกไม่มีอะไร แต่ที่จริงแล้วเมื่อกี้มันคือการคุกคามทางเพศเธอชัดๆ
“แล้วแกเอามาด้วย?”
“อือ ฉันจะเอามาคืนเขา”
“เอามาคืน? หมายความว่าไง?” เพราะคำพูดของหญิงสาวมันบ่งบอกว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ที่นี่
“วีไอพีแปด” สิ้นเสียงของเอริณ ใบหน้าสวยของมีนาก็หันไปอย่างอัตโนมัติ จนสายตาเธอได้ปะทะกับร่างสูงสมส่วนของผู้ชายคนหนึ่ง ใบหน้าคมคายมองมาทางที่พวกเธอนั่งอยู่ด้วยความนิ่งเรียบอย่างไร้ความรู้สึก
“เขามาเอาเสื้อ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน” เอริณว่าพลางหยิบแก้วเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย
“น้องเปิดผับแต่พี่มาเที่ยวผับคนอื่นเนี่ยนะ...”
“...ไม่เมกเซนส์สักนิด” มีนาพูดอย่างสงสัยเพราะแค่สูทตัวเดียวมาเฟียอย่างเขาคงไม่มานั่งเอาคืนหรือเสียดายมัน
“หรือว่านายฮันเตอร์ให้พี่มาจัดการพวกเรา?” มีนาทำหน้าครุ่นคิดเหลือบมองมาเฟียหนุ่มที่อยู่ในชุดสีดำน่าเกรงขามนั่น
“อาจจะเป็นไปได้...แต่ถึงกับใช้มาเฟียเลยเหรอ” เอริณเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วย แต่การที่ต่อสู้กับผู้หญิงสามคนแล้วใช้อะไรที่มันเห็นแก่ตัวแบบนี้ก็ไม่ไหวมั้ง
“ริณ แกอย่าลืมสิ พ่อแกเป็นมาเฟียนะ”
“เอาเถอะ แล้วนายฮันเตอร์มันเล่นแรง ๆ อะไรกับแกอีกรึเปล่า?”
“ทุบกระจก วางตะปู...”
“...ถ้าแรงกว่านี้ก็ต้องระเบิดรถฉันแล้ว” มีนาพูดอย่างอารมณ์เสียเพราะรถเธอพังไปสองคันแล้ว ถึงมันจะไม่ได้พังจนใช้ไม่ได้แต่กว่าจะซ่อมเสร็จก็นานมาก
“แกมีเบอร์ฟาริสใช่ไหม ที่ฉันให้ไว้คราวก่อน”
“อือ ฉันเมมไว้อยู่”
“ถ้ามันแรงจนไม่ไหว โทรหาฟาริสเขาจะช่วยแก” เอริณเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่ามีนานั้นไม่เคยกลัวใคร แต่เธอก็อยากให้มีคนคอยช่วยเพื่อนอยู่ดี
“ทำไมแกไม่ใช้ลูกน้องพ่อแกให้เป็นประโยชน์วะริณ”
“ใช้ลูกน้องพ่อ พ่อฉันก็ต้องรู้สิ” ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นและกำลังจะเกิด เธอไม่อยากให้แอลตันพ่อของเธอรับรู้เลยสักนิดเดียว
“เขามองแกไม่ละสายตาเลยยัยริณ”
“งั้นเดี๋ยวฉันมา” พูดจบหญิงสาวก็หยัดตัวลุกขึ้นจากโซฟาเดินอ้อมมาอีกทางเพื่อมาที่โต๊ะวีไอพีแปด เธอไม่ลืมที่จะหยิบถุงกระดาษที่บรรจุสูทราคาแพงไว้ในนั้นมาด้วย
“เข้าไม่ได้ครับ” เสียงลูกน้องชายมาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นแขนมากันหญิงสาวไว้ไม่ให้เดินเข้าไปหาเจ้านายตัวเองไว้
“...” เอริณปรายตามองลูกน้องมาเฟียอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะเลื่อนสายตาจ้องที่ดวงตาสีดำเข้มนั่นอย่างมีความหมาย
“ถอย” เอริณเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะมองหน้ามาเฟียหนุ่มอีกครั้ง
“ให้เข้ามา” สิ้นเสียงของฮาเดสท่อนแขนแกร่งก็ลดระดับลงก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปด้านใน จัดการวางถุงกระดาษไว้บนโต๊ะกระจกหรูของผับ
“สูทของคุณ”
“...” มาเฟียหนุ่มปรายตามองมันเล็กน้อยก่อนจะช้อนสายตามองคนที่กำลังยืนค้ำหัวเขาอย่างถือวิสาสะ ไม่เคยมีใครกล้าที่จะยืนทำท่าทีจองหองแบบเธอมาก่อน
“คุณมาที่นี่ทำไมคะ?” เอริณเอ่ยถามอย่างตรงประเด็น เธอแค่ต้องการอยากรู้ว่าเขามาทำไม
“ไม่มีใครเคยสั่งสอนเหรอว่ายืนค้ำหัวคนที่โตกว่าไม่มีมารยาท” มาเฟียหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ
“...” เอริณยังคงยืนนิ่งมองหน้าอีกคนกลับไป
“ดูเหมือนเจ้าของผับนี้ จะไม่ต้อนรับลูกค้า” แววตานิ่งเรียบเริ่มเปล่งประกายความน่าเกรงขามออกมาทีละนิด
“ค่ะ ฉันไม่ต้อนรับ...”
“...ขอตัวนะคะ” พูดจบเอริณก็เดินออกมาจากตรงนั้น มันอาจจะดูไร้มารยาทแต่ถ้าเทียบกับที่เขาคุกคามเธอ มันก็สาสมแล้วไม่ใช่เหรอ
“...” มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มออกมาให้กับความอวดดีของเจ้าของร่างบางนั่น เธอคงไม่รู้เลยสินะว่าคนที่ทำท่าทีแบบนั้นกับเขามันมีจุดจบยังไง
“นายครับ นั่นมันฟาริสมือซ้ายของคุณแอลตันนี่ครับ” มาเฟียหนุ่มละสายตาจากร่างบางที่เพิ่งเดินออกไปก่อนจะหันมองตามที่ลูกน้องบอก
"หึ" มาเฟียหนุ่มเค้นเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“มึงไปจัดการมัน ทำยังไงก็ได้ให้มันไปให้พ้นจากที่นี่” มาเฟียหนุ่มรู้ว่าเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้เอริณต้องมีคนมาคอยคุ้มกัน
“ครับนาย”
“ลูกมาเฟียงั้นเหรอ” เขาพึมพำออกมาพลางเลียริมฝีปากตัวเองเบา ๆ อย่างต้องการหญิงสาวในชุดเดรสสีเงินนั่น
...เขามาที่นี่นั้นก็เป็นเพราะน้องชายตัวเองส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลจริง ๆ ที่เขามานั้นก็เป็นเพราะเอริณ
“เรียบร้อยครับนาย”
“อืม อย่าให้มันมาวุ่นวายได้” มาเฟียหนุ่มจ้องไปยังร่างบางที่นั่งอยู่อีกฝั่งของผับก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจในรูปร่างนั้น
ผ่านไปสักพัก...
...มาเฟียหนุ่มหยัดตัวลุกเดินตามหญิงสาวเจ้าของรูปร่างหุ่นดีนั้นออกมาจากผับ เขาไม่ได้ผลีผลามทำอะไรอุกอาจแต่เขากลับขับรถตามรถหรูของเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง...
เอี๊ยดดดดด! รถคันหรูสีดำขลับได้ขับปาดหน้ารถบีเอ็มดับเบิลยูไอแปดของเอริณจนหญิงสาวเบรกจนล้อฟรี
“อึก...” ครั้งที่สองในหนึ่งอาทิตย์ที่หญิงสาวจุกจากการเบรกรถอย่างแรงจนตัวดีดเข้ากับเข็มขัดนิรภัย
“ขับรถยังไงของมันวะ!” หญิงสาวสบถออกมาอย่างหยาบคายเมื่อรถคันหน้ายังคงจอดนิ่งไม่ลงมาขอโทษสิ่งที่ทำลงไป
พรึ่บ! หญิงสาวเปิดประตูลงจากรถหรูของตัวเองก่อนจะก้าวขาเรียวเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างรถคู่กรณี
ก๊อกๆๆๆๆ เธอยกมือขึ้นเคาะกระจกฝั่งคนขับเพื่อให้คนในรถลงมา แต่กลับเป็นกระจกฟิล์มสีดำสนิทค่อยๆเลื่อนลงมาแทน ภายในรถมืดมากจนทำให้เอริณไม่เห็นว่าคนในรถเป็นใคร แต่ถึงอย่างนั้นเสียงของหญิงสาวก็โพล่งออกไปด้วยความโมโหก่อนแล้ว
“ขับรถแบบนี้ ซื้อใบขับขี่มารึเปล่าคะ!” ทันทีที่เสียงหญิงสาวเงียบลงประตูของเบาะหลังก็ถูกเปิดออก คนที่ลงมาจากรถนั้นทำให้หญิงสาวชะงักไป
“คุณ...” ขาเรียวเดินถอยหลัง เธอออกห่างเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มลงมาจากรถ เอริณไม่รอช้าเธอรีบหันหลังก้าวขายาว ๆ กลับมาที่รถตัวเอง
หมับ! แขนเรียวถูกกระชากไว้ก่อนที่เขาจะลากเธอมาที่รถคันหรูของเธอเอง
พรึ่บ! ปัง! เขาเปิดประตูฝั่งคนขับก่อนจะหย่อนสะโพกเข้าไปนั่งอย่างถือวิสาสะแล้วจัดการดึงร่างเล็กเข้ามานั่งบนตักเขาก่อนจะปิดประตูลง
“ทำอะไรของคุณ!!” เอริณดีดดิ้นอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกอะไรกับมัน เขาแค่รู้สึกรำคาญเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“...” ฮาเดสเข้าเกียร์ก่อนจะเหยียบคันเร่งอย่างแรงจนร่างบางของเอริณโน้มไปด้านหน้าจนแทบจะรวมร่างกับเขา
“ลงไปจากรถฉัน!”
“อย่าทำให้ฉันหงุดหงิด” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเพราะเสียงของเธอทำให้เขารู้สึกรำคาญ
“ก็ลงไปจากรถฉันสิ!!” หญิงสาวยังคงตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห
จ๊วบบบบบ~ เอี๊ยดดดดด! มือหนาคว้าเข้าที่ท้ายทอยเอริณอย่างแรงก่อนจะกระชากหญิงสาวเข้ามาจูบอย่างดุดัน เท้าหนาเหยียบเบรคอย่างแรงจนทำให้ร่างบางเกือบจะพุ่งออกไปด้านนอก ถ้าไม่มีมือหนากอดเอวเธอไว้อยู่เธอคงได้ออกไปนอนนอกรถแล้ว
“อื้อ!” ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยความเป็นส่วนตัวโดยริมฝีปากหนาของมาเฟียหนุ่ม เขาพยายามสอดลิ้นเข้าไปด้านในโพรงปากของเธอ
กึก! ฟันขบของเอริณกัดที่ลิ้นสากนั้นอย่างแรง แต่ก็ไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มเจ็บมากสักเท่าไหร่ ทันทีที่ถอนจูบออกมาเฟียหนุ่มเปล่งเสียงเยือกเย็นออกมาทันที
“คนที่ทำร้ายร่างกายฉันจุดจบมันเป็นยังไงรู้ไหม?”
“...” เอริณนิ่งพลางเอาหลังมือเช็ดน้ำลายอีกคนออกจากปากตัวเอง
“ชอบรุนแรงนักใช่ไหม”
“ลงไปจากรถฉัน!” ปากบวมเจ่อเปล่งเสียงออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
“กล้าตะคอกใส่ฉันงั้นเหรอ” มาเฟียหนุ่มรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ก่อนจะซุกใบหน้าลงซอกคอของเอริณ มือหนาเริ่มรูดซิปเธอจากด้านหลังจนเดรสสายเดี่ยวลงมาอยู่บริเวณข้อพับของเธอ
“กรี๊ดดด!”