BAD MAFIA 5
@I-AM PUB
“เจ๊ริณ"
"ว่าไงลี" หญิงสาวละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้าก่อนจะช้อนสายตามองรุ่นน้อง
"พี่มิลานให้ผมมาตามเจ๊ลงไปด้านล่าง"
"ยัยมิลมีอะไร?" เอริณขมวดคิ้วมองหน้ารุ่นน้องตรงหน้าอย่างตั้งคำถาม
"เธอบอกว่าถ้าเจ๊ถามให้เจ๊มองลงไปดูเอง พี่มิลานนั่งอยู่วีไอพีสี่" ลีชี้ลงไปด้านล่างที่มีกระจกใสกั้นอยู่ เอริณถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะหยัดตัวลุกจากเก้าอี้ทำงานเดินตรงมาหยุดอยู่ที่กระจกใสแล้วปรายตาลงไปด้านล่าง
"ยัยมิลนี่มัน...!" มิลานที่โบกไม้โบกมือเรียกเธออยู่ด้านล่างพร้อมกับบรรดาน้อง ๆ และที่สำคัญมีน้องคนเล็กสุดที่เด็กกว่ามิลานนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย
ตึก ตึก ตึก! หญิงสาวไม่รอช้ารีบลงมาด้านล่างทันทีที่เห็นแบบนั้น เธอเตรียมคำต่อว่าที่ตั้งใจจะพ่นใส่มิลานน้องสาวตัวแสบของเธอ
“ยัยมิล!”
“หยุด! อย่าเพิ่งด่า” มิลานยกมือห้ามทันทีที่ได้ยินเสียงเอริณแวดออกมาด้วยอารมณ์โมโห
“จะไม่ให้ด่าได้ไง แกพาน้องมาทำไม” เอริณชี้นิ้วไปทางดีไซน์น้องสาวคนเล็กที่นั่งอยู่ในโต๊ะ
“ซิสคะ ยัยดีไซน์สิบแปดแล้วนะคะ”
“สิบแปดมาเที่ยวผับได้แล้วเหรอ...แกเป็นหุ้นส่วนไม่รู้รึไง” มิลานพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดที่มิลานชอบทำอะไรไม่ปรึกษาเธอ...
“นี่พี่กลัวผับโดนปิดหรือกลัวลุงเดลดุกันแน่?” มิลานเอียงคอถามเธอด้วยแววตากวนประสาท
“ฉันไม่กลัวหรอกถ้าผับมันจะปิด แต่ที่นี่มันอันตรายพาน้องมาทำไม”
“พี่ริณ...” ดีไซน์ที่เห็นท่าไม่ดีเลยตั้งใจจะเอ่ยห้ามพี่ทั้งสองคนแต่กลายเป็นว่าเอริณกลับหันมาเล่นงานเธอแทน
“เราก็ด้วย...พ่อเราฝากเราไว้กับพี่...” นิ้วเรียวของเอริณชี้ไปที่ดีไซน์ มิลาน และไวน์ที่นั่งอยู่ภายในโต๊ะนี้
“...เพราะฉะนั้นพวกเธอทุกคนต้องฟังพี่” เอริณพูดด้วยเสียงแข็งกร้าวพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงที่ว่างบนโซฟา ทำดีไซน์นิ่งไปเพราะโดนดุ
“นี่พี่หรือแม่” มิลานพูดอย่างลอยหน้าลอยตาหันมองไปอีกทาง
“ยัยมิลแกนี่มัน!!”
“เลิกบ่นก่อนค่ะซิส” มิลานยกมือปิดปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะโบกไม้โบกมือใส่เอริณที่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์
“เอาเถอะ...วันนี้ฝากดูร้านด้วย พี่มีธุระ” เอริณเอ่ยออกมาออกเหนื่อยใจ
“แต่วันนี้เวรพี่?”
"ช่วยหน่อยไม่ได้รึไง...วันที่เป็นเวรแกฉันก็ช่วยเฝ้ามะ"
“อะ ๆ หยุดบ่น” มิลานพยักหน้าตกลงอย่างว่าง่ายเพราะเธอขี้เกียจฟังเอริณที่อายุห่างกับเธอเพียงหนึ่งปีแต่บ่นอย่างกับห่างกันสิบปี
“แล้วพี่มีนาไปไหน?”
“ไม่รู้เหมือนกัน” เอริณส่ายหัวตอบกลับก่อนสายตาเธอจะเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังมองมาทางเธอด้วยแววตานิ่งเรียบ...
“อะ นั่นไงมาละ” นิ้วเรียวของมิลานชี้ไปยังร่างบางหุ่นดีที่กำลังเดินนวยนาดเข้ามาหาพวกเธอ
“วันนี้พี่มีนาแต่งตัวแซ่บจังอะ” คำพูดของดีไซน์ทำให้อีกสองคนเริ่มสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมของมีนาด้วยความสงสัย
“ยัยไซน์!” ทันทีที่มีนาเห็นหน้าน้องสาวก็โพล่งออกมาเสียงดัง
“แกพาน้องมาทำไมยัยมิล” มีนารู้ทันทีว่าที่ดีไซน์มาที่นี่ได้นั่นก็น่าจะเป็นเพราะมิลาน
“เฮ้! อย่าใส่ร้ายกันสิ” มิลานมุ่ยหน้าทันทีที่ทุกคนคิดว่าเธอเป็นคนชวนน้องมาที่นี่
“หรือแกจะบอกว่าไม่ใช่?”
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ!” มิลานกอดอกพลางทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่พี่สาว
“เอ่อ...ไซน์เป็นคนมาเองแต่พอดีเจอพี่มิลก็เลยโดนบังคับให้มานั่งที่นี่” ในที่สุดดีไซน์ที่นั่งเงียบมาสักพักก็พูดความจริงออกมา เพราะว่าเธอนั้นตั้งใจจะมากับเพื่อนแต่ทว่ากลับเจอพี่สาวก่อน
“เห็นไหม! พวกพี่มองฉันในแง่ร้ายตลอด” มิลานพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เธอก็กลัวอันตรายจะเกิดขึ้นกับน้องสาวเหมือนกันเลยบังคับให้มานั่งที่นี่กับเธอ อย่างน้อยน้องสาวก็ยังอยู่ในสายตา
“ไม่ได้โกหกเพื่อช่วยยัยมิลใช่ไหม?” เอริณหันถามไปดีไซน์
“เปล่าค่ะ ไซน์มาเองจริงๆ”
“แล้วไป”
“ชิ!” มิลานพูดจบก็ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างแรงก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากโต๊ะไป
“เดี๋ยวฉันมา” เอริณเอ่ยบอกเพื่อนสนิทก่อนจะเดินออกมาจากผับเพื่อมาที่ลานจอดรถ เธอตั้งใจจะมาเอาสูทสีเทาของผู้ชายคนนั้น
พรึ่บ! ปัง!
“อุ๊ย!” เอริณปิดประตูรถแล้วหันหลังหมายจะกลับเข้าไปในผับก็ต้องตกใจเพราะคนที่ยืนซ้อนเธอจากด้านหลังนั้นคือฮาเดสเจ้าของสูทในมือเธอ
“...” เอริณปรับแววตามองหน้าอีกคนนิ่งก่อนจะยื่นถุงเสื้อสูทที่เธอซักแห้งมาอย่างดีให้กับเจ้าของมัน
“ฉันให้เธอเอาไปคืนที่ไหน” ถึงฮาเดสจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่ก็คนฟังก็รู้สึกหวั่นใจกับน้ำเสียงนั้นอยู่ไม่น้อย
“จะคืนตรงนี้หรือที่คุณนัดมันก็ไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอคะ...” เอริณเชิดหน้าไปอีกทางก่อนจะพูดออกมาตามความคิดตัวเองและพอเธอรู้ว่าฮาเดสเป็นพี่ชายของศัตรูที่จ้องจะเล่นงานผับเธอ เธอก็ยิ่งไม่อยากเสวนาด้วย
“...เพราะยังไงคุณก็ได้มันคืน”
“อวดดี” ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายเอื้อมมือค้ำที่รถหรูของร่างบาง ก่อนจะโน้มลงไปใกล้จนลมหายใจร้อนรดรินบริเวณลำคอขาว
“ฉันพูดความจริงนี่คะ” หญิงสาวตัวแข็งทื่อเพราะการกระทำของอีกคนหนึ่ง
“แล้วที่ฉันช่วยชีวิตเธอจะตอบแทนยังไงดีล่ะ?” ฮาเดสเลื่อนริมฝีปากไล้บริเวณลำคอระหงของเอริณอย่างถือวิสาสะ
“คุณต้องการอะไร?” การกระทำคุกคามทำให้หญิงสาวยกมือดันหน้าอกของร่างสูงให้ห่างออกจากคอตัวเอง
“รู้ไหม...ถ้าฉันพูดออกไปแล้วฉันต้องได้มันนะ” ฮาเดสยกมือสากลูบบริเวณริมฝีปากบางไปมา หญิงสาวจ้องมองการกระทำของอีกคนอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่เธอก็ยังทำใจดีสู้เสือไว้
“งั้นคุณก็ไม่ต้องพูดออกมาหรอกค่ะ...”
“...ฉันจะตอบแทนในแบบของฉันแล้วกันนะคะ” หญิงสาวผลักหน้าอกที่ดันไว้ออกห่างตัวก่อนจะเบี่ยงตัวเดินมาอีกทาง
“ผลตอบแทนต้องเป็นตัวเธอ” คำพูดของฮาเดสทำหญิงสาวเค้นหัวเราะออกมาเบาๆในขณะที่เดินกลับเข้ามาในผับ เธอไม่หันไปตอบอะไรเขา พยายามเมินเฉยคำพูดนั้น
“...”
“ในเมื่อฉันพูดออกไปแล้ว...ฉันต้องได้มัน”