BAD MAFIA 4
@มหาวิทยาลัยฮิลล์
“ยัยริณ”
“เสื้อใคร?” เอริณหันมองก่อนจะถามทางด้านหลังที่มีเจ้าของเสียงหวานอย่างมีนายืนอยู่
“เหอะ!” มีนาเค้นเสียงในลำคออย่างหงุดหงิดแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนไป
“เมื่อวานแกไปทางซอยนั้นทำไม?”
“ก็มันเป็นทางลัดไปคอนโดฉัน” มีนาพูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามหญิงสาว
“แต่ทางนั้นมันเปลี่ยว...”
“...แล้วตะปูพวกนั้น แกว่ามันบังเอิญเกินไปปะ?” จากที่เธอคิด ๆ ดูแล้วมันน่าจะเกี่ยวกับสิ่งแปลก ๆ ที่เกิดรอบตัวเธอแน่ๆ ถ้าไม่ใช่ฝีมือพวกเมื่อคืนก็ต้องเป็นพวกผับเปิดใหม่
“มันไม่ได้บังเอิญ ตะปูพวกนั้นเป็นฝีมือของไอ้เวรฮะ...” มีนาพูดสบถออกมาอย่างหงุดหงิดแต่ก็ต้องกลืนคำพูดหยาบคายนั้นก่อนจะเปลี่ยนคำพูดที่พ่นออกมาใหม่
“...นายฮันเตอร์!”
“เมื่อคืนฉันก็โดนนะ แต่มันน่าจะร้ายแรงกว่าแกหลายเท่าอะ”
“ทำไม? เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?” มีนาโพล่งถามออกมาทันที
“มีมือปืนตามฆ่าฉัน”
“ฮะ!! ตามฆ่าแกเลยเหรอ!!” มีนาป้องปากด้วยความตกใจที่ได้ยินเพื่อนพูดออกมาแบบนั้น
“เบา ๆ ยัยมีน!”
“มันเกินไปแล้วนะ นี่มันเล่นแรงเกินไป”
“แต่ฉันคิดว่าน่าจะไม่ใช่ฝีมือของฮันเตอร์...ฉันว่าน่าจะเป็นศัตรูของพ่อฉัน” ถึงแม้ว่าพ่อเธอจะมีอำนาจมากแค่ไหนนั่นก็หมายความว่าศัตรูก็ต้องเยอะตามอำนาจที่มีด้วย
“งั้นแกก็ต้องบอกลุงแอล”
“แกก็รู้ว่าพ่อฉันเป็นยังไง...” เอริณส่ายหัวปฏิเสธทันทีที่มีนาพูดแบบนั้น พ่อเธอคงไม่ยอมให้เธอไปไหนมาไหนเองตามใจชอบอีกแน่นอน
“แต่มันเป็นความเป็นความตายของแกนะริณ”
“ถ้ามันมีอีกค่อยบอกแล้วกัน ครั้งนี้ปล่อยไปก่อน” หญิงบอกปัดไปเพราะเธอเองก็ไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ แค่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็เยอะจนปวดหัวไปหมดแล้ว
“แกกลัวความตายบ้างไหมวะ?”
“กลัวสิยะ” หญิงสาวพลางคิดใครไม่กลัวความตายกันบ้าง แต่เธอคลุกคลีอยู่กับนักฆ่าของพ่อตั้งแต่เด็ก เธอมักจะได้ฝึกยิงปืนอยู่บ่อยครั้ง เลยทำให้จิตอาจจะแข็งกว่าคนปกติ ถ้าเมื่อคืนเป็นคนที่โดนแบบนั้นคือมีนาหรือมิลานอาจจะสติแตกเลยก็ได้
“เราควรหาหุ้นส่วนลงทุนผับเพิ่มดีปะ หาพวกผู้ชาย”
“ถ้าถามว่าดีไหม...ก็ดี แต่แกคิดว่าใครจะกล้ามาในเมื่อฉันเป็นลูกมาเฟียยังโดนขนาดนี้เลย”
“ก็หามาเฟียมาเป็นหุ้นส่วนดิ”
“แกคิดว่ามาเฟียมันหากันได้ง่าย ๆ รึไง” เอริณขมวดคิ้วถามเพื่อนสาวที่ชอบพูดอะไรแบบนี้ออกมา
“ไม่ลองไม่รู้นะ” หญิงสาวยักไหล่เป็นการตกลงสิ่งที่เพื่อนคิดจะทำ มันไม่เสียหายอะไร
“แล้วเมื่อวานแกรอดจากมือปืนได้ยังไง?”
“มีคนมาช่วยฉัน...”
“...เป็นลูกค้าผับเราเมื่อวาน เขาพกปืนด้วย” หญิงสาวบอกพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนภาพมือปืนคนนั้นที่นอนรอความตายอยู่บนพื้นด้วยฝีมือของคนที่มาช่วยเหลือเธอ มันดูโหดเหี้ยมจนหญิงสาวต้องสะบัดหัวไล่ภาพนั้นออกไป
“แล้วไงต่อ?”
“มือปืนตายคาที่” เธอไม่รู้ว่าตายรึเปล่า แต่คงไม่น่ารอด
“ถามจริง?”
“ตอบจริง” เอริณย้ำเพื่อให้ความกระจ่างกับเพื่อน
“โชคดีที่แกไม่เป็นอะไร” มีนาลูบอกตัวเองอย่างโล่งอกเพราะถ้าหากว่าเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของเธอเป็นอะไรไปเธอคงเป็นบ้าแน่นอน
“แล้วแกถามรึเปล่าว่าเขาชื่ออะไร”
“คนที่ตายเหรอ?”
“คนที่ช่วยแกดิ คนตายมันจะตื่นมาบอกแกรึไง!”
“หึ...” หญิงสาวเค้นเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะบอกนึกชื่อที่ผู้ชายเมื่อคืนบอกเธอ
“เขาบอกว่าชื่อฮา...ฮาอะไรวะ” เอริณพึมพำออกมาก่อนจะนึกชื่อเขาคนนั้นขึ้นมาได้
“อ๋อ ชื่อ...ฮาเดส”
“เดี๋ยวนะ!” มีนาโพล่งออกมาทันทีที่ได้ยินชื่อบุคคลที่สาม
“จะตะโกนทำไม” เอริณมองหน้าเพื่อนตัวเองที่เล่นใหญ่เกินเบอร์มาก ไม่รู้จะตกใจอะไรขนาดนั้นถึงชื่อผู้ชายคนนั้นจะดูแปลก...แต่ก็เท่อยู่นะ
“แกจำชื่อนี้ไม่ได้จริง ๆ เหรอ” มีนาพูดพลางเขยิบมานั่งข้างเพื่อนสนิท
“ชื่อนี้มันทำไม?”
“ยัยริณ...” มีนาถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะเอ่ยเรียกเพื่อนอย่างอ่อนใจที่เพื่อนเธอไม่รู้อะไรเลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
“ท่าทีแบบนั้นหมายความว่าไง?”
“ฉันมีเพื่อนความจำเสื่อมรึไง...”
“ฮาเดส...เป็นพี่ชายของฮันเตอร์...”
“...แล้วที่สำคัญเขาเป็น มาเฟีย”
หลายชั่วโมงผ่านไป...
“อีกแค่ไม่ถึงสามเดือนจะเรียนจบละ รู้สึกดีชะมัด” เสียงมีนาบ่นอิดออดพลางก้าวขาเรียวเดินตามเอริณมาที่รถคันหรูของเธอ
“แล้วแกเดินตามฉันมาทำไม ไม่ได้ขับรถมา?”
“ขับมา”
“แล้วไม่ไปรถตัวเอง?”
“ฉันไม่ได้ขับรถตัวเองมา”
“รถใคร?” เอริณถามด้วยความสงสัย
“รถใครช่างมันเหอะ แกปลดล็อกรถก่อน ฉันร้อน” มือเรียวเปิดประตูขึ้นไปนั่งทันทีที่เพื่อนสาวปลดล็อกรถ ทั้งคู่ขับรถออกมาจากมหาวิทยาลัยได้สักพักก็มาถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
พรืดดดดด! มีนาเลื่อนกระจกรถลงก่อนจะหยิบบางอย่างในกระเป๋าออกมาแล้วโยนมันลงไปในแม่น้ำทันที
“อะไรอะ?”
“ขยะ”
“แกนี่มัน”
ติ๊งงงงง ติ๊งงงง~ เสียงแจ้งเตือนข้อความจากโทรศัพท์ของเอริณ ทำให้หญิงละสายตาจากถนนเพียงนิดเดียวแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู...
: เอาเสื้อสูทมาให้ฉันคืนนี้ที่xxx