BAD MAFIA 2
01.00 น.
“เผลอหลับอีกแล้วสินะฉัน” ร่างบางในชุดเดรสเกาะอกสะลึมสะลืมอตื่นขึ้นมาหลังจากที่เผลอหลับไปบนโซฟาใหญ่ในห้องทำงานอย่างเหนื่อยล้า
...เธอปรายตามองลงไปด้านล่างของผับที่ในตอนนี้ลูกค้าเริ่มทยอยออกจากร้าน แต่ก็ยังมีลูกค้าบางส่วนที่นั่งดื่มอยู่ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อมองหามิลานที่บอกว่าจะลงไปฟังเพลงซึ่งตอนนี้แม้แต่เงาของมิลานเธอก็ไม่เห็น
“ยัยน้องตัวแสบ!” เสียงพึมพำออกมาหลังจากที่เธอนึกได้ว่ามิลานคงหนีกลับไปช่วงที่เธอหลับแน่ๆ ก่อนที่จะกวาดมองไปรอบๆ ผับของตัวเองและพบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่
“ชอบฉันรึไง มองไม่หยุดเลย” ปากเล็กพึมพำอีกครั้งเมื่อดวงตากลมของเธอปะทะเข้ากับดวงตาดุของผู้ชายคนเดิมที่ในตอนนี้ก็ยังจ้องมองเธอไม่ห่าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนหญิงสาวก็คงจะหว่านเสน่ห์ยั่วผู้ชายทุกคนที่เข้ามาใกล้ แต่เพราะในตอนนี้เธอหมดอารมณ์กับการเล่นสนุกไปวันๆแล้ว
กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง~ โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังไปทั่วห้อง หญิงสาวจึงลุกจากโซฟาเพื่อเดินไปรับมัน
“ฮัลโหล”
(เอริณ แกอยู่ไหน?)
“อยู่ที่ผับมีอะไร”
(รถฉันยางแตก...โดนตะปูเรือใบ)
“ฮะ! แล้วแกอยู่ไหน” หญิงสาวพูดออกไปด้วยความตกใจทันทีที่ได้ยินมีนาพูดออกมาแบบนั้น
(อยู่ท้ายซอย7 ตรงหอข้าวฟ่าง)
“อือ เดี๋ยวฉันรีบไป ระวังตัวด้วย” พูดจบร่างบางคว้ากระเป๋าสะพายใบหรูพร้อมกุญแจรถเดินออกจากห้องทำงานตัวเองอย่างรีบร้อน
“กลับแล้วเหรอเจ๊?” ลีรุ่นน้องที่มหาลัยและผู้จัดการผับของเธอเอ่ยถามขึ้น
“อือ ฝากจัดการร้านที” ร่างบางไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากผับและตรงไปที่รถซูเปอร์คาร์ราคากว่ายี่สิบล้านของตัวเองทันที
บรื้นนนน~ ขาเรียวขับรถมาจนถึงซอย7 เป็นที่ที่มีรถคันหรูของมีนาจอดตระหง่านอยู่แต่ไร้ซึ่งเจ้าของมัน
“ยัยมีน” หญิงสาวเดินลงมาจากรถก่อนจะตะโกนเรียกมีนา ไม่ว่าเปล่าพลางส่องเข้าไปในรถหรูแต่ก็ไม่เห็นเพื่อนตัวเองอยู่ในนั้น เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหามีนาทันที
“ทำไมไม่รับสายนะ” ร่างบางพึมพำออกมาเสียงเรียบก่อนที่โทรศัพท์ของเธอจะมีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้ามา
-MEENA-
MEENA : ฉันนั่งแท็กซี่กลับแล้ว
MEENA : แกกลับไปเลย
: เออ โอเค
“เฮ้อออ...” ร่างบางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหลังจากที่เธอกังวลอยู่นานว่าเพื่อนตัวเองจะเกิดอันตรายอะไรรึเปล่า เธอเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าใบหรูก่อนจะเดินถอยหลังหวังจะหันหลังกลับมาที่รถตัวเอง
ปึก! เธอถอยหลังชนกับหน้าอกแกร่งของใครสักคน เจ้าของร่างสมส่วนรีบหันไปดูทันทีว่าเป็นใคร
“คุณ...” เอริณพึมพำออกมาหลังจากเห็นว่าคนที่เธอชนนั้นคือลูกค้าที่ใส่สูทสีเทาที่จ้องมองเธอนั่นแหละ
“...” เขาไม่ตอบอะไรพลางมองหน้าหญิงสาวนิ่ง
“ขอตัวก่อนนะคะ” เอริณเอ่ยอย่างมีมารยาทก่อนจะเดินสวนอีกคนหนึ่งไปที่รถตัวเอง เธอขึ้นมานั่งบนรถก่อนจะขับออกมาตามทางอย่างรวดเร็ว แต่รู้สึกได้ถึงว่ามีคนขับรถตามเธอมาตลอดทาง รถคันใหญ่สีดำขลับราคาแพง เธอมองผ่านกระจกหลังเล็กน้อย ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่ามีรถบิ๊กไบก์คันใหญ่ขับประกบข้างรถเธอด้วยความรวดเร็ว
“!!!!” เธอหันไปมองก่อนจะหักหลบอย่างแรงด้วยความตกใจเพราะคนที่อยู่บนรถบิ๊กไบค์กำลังหันกระบอกปืนมาทางเธอ
ปัง! เสียงรถชนเข้ากับแผงกั้นจนร่างเธอกระแทกเข้ากับพวงมาลัยอย่างแรง
“อึก...” เอริณร้องออกมาด้วยความจุกบริเวณหน้าอก เสียงรถบิ๊กไบก์ขับเข้ามาขนาบข้างอีกครั้ง เธอกรีดร้องอย่างสุดเสียงด้วยความกลัวเมื่อเห็นกระบอกปืนเล็งมาบริเวณกระจกรถของเธอ
“กรี๊ดดดดด!”
ปัง! ปัง! โคร้ม! เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เสียงบางอย่างกระแทกกับพื้นอย่างแรง ร่างบางหลับตาปิดหูตัวเองด้วยความกลัว ก่อนจะมีเสียงเคาะกระจกดังขึ้น
“ฮึกกก...” เอริณลืมตามองผ่านม่านน้ำตาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จนกระทั่งเห็นว่าเป็นร่างสูงเจ้าของสูทสีเทาที่ยืนถือปืนอยู่ข้างๆรถ เขาทำมือให้ร่างบางลงมาจากรถ หญิงสาวเปิดประตูรถช้า ๆ ด้วยความกลัวมืออันสั่นเทาค่อย ๆ ดันตัวเองลุกจากเบาะหนังราคาแพง
พรึ่บ! ขาอ่อนยวบของหญิงสาวทำให้เธอเซจนเกือบจะล้มลงที่พื้นแต่โชคดีที่ท่อนแขนหนาของผู้ชายคนนั้นรับร่างเธอไว้ได้ทัน
“...” เอริณพลางจับแขนนั้นไว้เพื่อยึดร่างกายให้ยืนได้ปกติ เธอเลื่อนสายตามองร่างไร้สติของคนที่ขับรถบิ๊กไบก์นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น...เธอสัมผัสได้ว่าร่างนั้นไร้ลมหายใจไปเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เขาหยิบกุญแจรถกับกระเป๋าของหญิงสาวแล้วพยุงเธอมาที่รถของตัวเอง
“ขึ้นไป...” หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถหรูของอีกคนหนึ่งอย่างว่าง่าย แต่ก็แอบแปลกใจไม่น้อยที่อีกคนตามเธอมาถึงที่นี่รวมไปถึงการพกปืนของเขาด้วย...ก็ถ้าหากเป็นมาเฟียอย่างพ่อเธอการพกปืนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร