บทที่6 ‘อุบัติเหตุกลางโซฟา’
ฉันอยากจะกรี๊ดให้แก้วหูนายกองทัพบ้าเนี้ยแตกไปเลย ไอ้คนบ้าดึงตัวฉันให้ล้มมาทับบนหน้าอกแข็งๆ ของตัวเอง แล้วยังมีหน้ามาพูดลอยหน้าลอยตายียวนกับฉันอีก
ต้องโดนสักหน่อยละตาบ้าเนี้ย!
ปึก!!
อั่ก! แค่ก ๆ
หึ เป็นไงละทุบให้อกแตกตายไปเลย จุกหน้าแดงเป็นยมบาลเลยอะดิ กล้าดีมากอดตัวฉันดีนัก
“แค่ก ๆ เธอ!!! ทุบมาได้ไงว่ะ!” เขาย่นหัวคิ้วเข้าหากันพร้อมกระชากเสียงอย่างไม่ชอบใจ
“แล้วกล้าดียังไงมากอดฉัน ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ฉันจ้องหน้าเขาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว บอกแล้วไงว่าอย่าทำให้ฉันโมโห เป็นไงละจุกอะดิ
หมับ!
“ไม่ปล่อย ฉันจะกอดเมียตัวเองไม่ได้หรือไง” เขาพูดพร้อมกับกระชับกอดฉันให้แน่นกว่าเดิม จนฉันรู้สึกอึดอัดไปหมด แล้วที่ฉันเกลียดมากที่สุดตอนนี้คือคำว่าเมียที่ออกจากปากเขาเมื่อกี้! เจอกันไม่กี่ครั้งเรียกเมียได้เต็มปากเลยนะ
ฟู่ว~
“ไม่ปล่อยใช่ไหม?” ฉันหลับตาพ่นลมหายใจออกมาถามด้วยเสียงต่ำอย่างสุดจะทนกับความดื้อด้านของเขา
“ไม่ปล่อยจะกอดเธออยู่แบบนี้แหละโทษฐานที่ทำฉันเจ็บตัว” ยังมีหน้ามาโทษคนอื่นอีกแล้วใครสั่งให้มายั่วโมโหฉันก่อน โดนแค่นั้นมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ
“ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ฉันข่มเสียงต่ำ ก่อนจะ...
หยิกและบีบ!!!
อ๊าก!!! >< “เจ็บๆ โอ้ย... คุณนาย... เจ็บ ยัยบ้าเอ้ยฉันเจ็บ!”
เขาจับมือฉันพยายามจะดึงมือฉันออกจากหัวนมตัวเองด้วยใบหน้าที่บูดเบี้ยว ใช่ ฉันกำลังหยิกหัวนมของตาบ้านี้อยู่ หึ แต่โทษทียิ่งดึงมือฉันออกฉันก็ยิ่งทวีคูณความเจ็บปวดไปให้อีก
“โอ๊ย...เธอ!! ปล่อยสิวะมันเจ็บนะเว้ย!”
ฉันไม่ปล่อย! ฉันจะหยิกจะดึงหัวนมให้ขาดไปเลย ไม่สนใจเสียงร้องครวญครางเจ็บปวดนั้นหรอกมาท้าฉันเอง!
“ถ้าฉันทำบ้างก็อย่าโกรธละกันยัยตัวแสบ” เขาหยุดร้องโวยวายแล้วพูดกับฉันหน้าเข้ม จนฉันนึกเอาเองว่าตาบ้านี้จะวิปริตหยิกหัวนมฉันกลับเหรอ
แต่เปล่าเขาปล่อยมือจากมือฉันแล้วมาจับใบหน้าฉันแทน ก่อนจะ..
พรึบ!
!!!!!
จ๊วบ!
!!! ><
“อื้อ~” ไอ้บ้าเอ้ยปากฉัน
ตุบๆๆ
ฉันพยายามผละออกจากเขา ทั้งทุบตีทั้งดิ้น แต่ไอ้คนที่กำลังจูบปากฉันเหมือนสูบวิญญาณตอนนี้ก็ไม่ยอมปล่อยสักที เขาทั้งจูบทั้งดูดดึงเหมือนต้องการระบายความแค้นเมื่อกี้กับปากฉันให้หลาบจำ จนฉันรู้สึกแสบปากไปหมด
พลั่ก!
แฮ่ก ๆ
“เป็นไง เอาอีกไหมจะได้จูบจนวิญญาณหลุดไปเลย แสบนักนะที่หยิกหัวนมฉันจนแสบขนาดนี้”
เขาว่าเสียงดุพร้อมกับสายตาคมกริบที่จ้องฉันเขม็ง ใช่ เขากำลังทำหน้าดุในขณะที่ฉันได้แต่ใช้หลังมือเช็ดปากตัวเองอยู่เนืองๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่ชอบใจ
ก็แอบชะงักอยู่แหละที่โดนเขาดุเมื่อกี้ แต่จู่ ๆ สักพักเขาก็อ่อนลง ฉันเลยรีบลุกออกจากตัวเขามานั่งนิ่งอยู่ตรงขอบโซฟาแทน เขาจึงลุกขึ้นมานั่งข้างฉันอีกที
“เป็นอะไร แค่ดุนิดเดียวเอง หงอยเลยหรือวะ” เขาลอบมองฉันจากด้านล่าง ฉันจึงหลุบตามองเขาไปแวบหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น
“เปล่า อยากอยู่ก็อยู่ไปเลย ฉันไปละ” ฉันหลบตาเขาพร้อมลุกขึ้นรีบเดินเข้าห้องตัวเองทันที ทิ้งให้เขานั่งอยู่ที่โซฟาคนเดียว
ปึง!
เฮ้อ~ ทำไมหัวใจฉันเต้นเร็วแบบนี้เนี่ย แค่หมอนั้นจูบและทำเหมือน... เหมือนอะไรดี เขาเรียกว่าอะไร เขาเรียกว่าแคร์ความรู้สึกเหรอถึงต้องอ่อนลงให้แบบนั้น หรือมันเป็นสไตล์ของพวกเจ้าชู้
ไม่ๆ เขาแค่... เขาแค่อะไรวะ โอ๊ยยัยนายเธอจะมานั่งคิดทำไมเนี่ย เขาจะทำอะไรก็แล้วแต่เขาสิ
ใช่ ฉันต้องมาสก์หน้า ฉันต้องพักผ่อนคืนนี้ฉันมีนัดกับเพื่อน ส่วนหมอนั่นก็แล้วแต่เถอะจะอยู่ก็อยู่ไปเลย
21.00 PM
หลังจากที่ฉันนอนพักผ่อนเต็มอิ่มและมาสก์หน้าบำรุงเต็มที่ ฉันก็ตื่นไปอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อเตรียมออกไปตี้กับยัยลูน่าและโมชิตามที่นัดกันไว้
และนี่คือชุดที่ฉันใส่คืนนี้...
ฉันชอบใส่สีดำเวลาไปผับให้บุคลิกดูเป็นผู้หญิงร้ายๆ เหวี่ยงๆดี อีกอย่างผู้ชายจะได้ไม่กล้าเข้าหาฉันด้วย เชิดใส่อย่างเดียวเดี๋ยวก็หน้าจ๋อยเดินกลับโต๊ะไปเอง
Rrrr
ครืด ครืด~
(Lunazz)
“ว่าไง” ฉันกรอกเสียงลงไปพร้อมกับเช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้าในกระจกอีกครั้งไปพลางๆ
[เสร็จแล้วนะแม่ อ้อไม่ต้องมารับนะเดี๋ยวคืนนี้ไปกับอีชิ มันบอกว่าเดี๋ยวมันขับรถไปเอง มันสงสารมึงที่ต้องขับรถมาส่งพวกกูดึกๆ อะ]
“อืม แล้วแต่กูได้หมด นี่กูเสร็จแล้วกำลังจะออก”
[โอเค เจอกัน]
ฉันกดวางสายลูน่าหลังจากที่คุยเสร็จก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถกับกระเป๋ามาถือไว้ จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูห้องนอน แต่พอฉันเปิดประตูห้องปุ๊บเสียงทีวีก็ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทฉันทันที
???
ฉันจำได้ว่าไม่ได้เปิดทีวี...
แล้วใครเปิด?
“เธอจะไปไหน?”
เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังฉันจากฝั่งห้องนอนอีกห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนรับแขก ฉันจึงหันไปตามเสียงทันทีก่อนจะเจอเจ้าตัวที่ออกมาในสภาพที่ดูออกเลยว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังเดินติดกระดุมเสื้อมาทางฉัน นี่ตาบ้านี้มันอยู่นานจนป่านนี้เลยเหรอ ไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องตัวเองเลยหรือไง
“ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน แต่นายอะ ทำไมไม่กลับบ้านกลับช่องตัวเองหะ” ฉันว่าอย่างฉุนเฉียว แต่ดูหมอนี้มันไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ยืนติดกระดุมเสื้ออยู่นั่นแหละ
“ก็เธอบอกเองว่าจะอยู่ก็อยู่ไป ฉันก็อยู่ของฉันไปไง ไม่ได้รบกวนเธอเลยสักนิดเดียว เสียงทีวีก็เปิดเบาๆ” เขาเอ่ยขยายความกระจ่างให้ฉันอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงใสซื่อ จนฉันต้องลอบถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งคือไม่รู้ว่าสมควรต้องอธิบายยังไงดี และรู้สึกอยากตีปากตัวเองก็วันนี้แหละที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่คิดว่าตาบ้านี้มันจะซื่อบื้ออยู่จนถึงป่านนี้จริง ๆ ไง
“ช่างมันเถอะ ออกไปได้แล้วฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว” ฉันว่าอย่างยอมจำนนพร้อมกับไล่เขาออกไป คือต้องยอมแล้วอะ เหนื่อยใจ
“แล้วเธอจะไปไหน แล้วใส่เสื้อผ้าเปิดไหล่ขนาดนั้น สั้นก็สั้นไม่หนาวหรือไง” ถ้อยคำนี้แฝงไว้ด้วยน้ำเสียงหึงหวงแปลกๆ นะว่าไหม ฉันไม่ได้ใสซื่อจนดูไม่ออกนะ ว่าหมอนี้กำลังไม่พอใจกับเสื้อผ้าของฉัน
“ทำไมเหรอ...เป็นห่วงหรือเป็นหวง เคลียร์มาสิ” ฉันกอดอกขยับเข้าใกล้เขาพร้อมยิ้มกริ่มที่มุมปากอย่างร้ายๆ แต่รู้อะไรไหมคนร่างสูงตรงหน้าฉันกลับมีสีหน้าเลิ่กลั่กสะงั้น
“มันสั้นเกินไป และโชว์ไหล่โชว์เนินอกเยอะไป มันอันตราย” คุณพระ! นี่ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหมที่ได้ยินหมอนี้พูดแบบนี้ ซึ่งมันส่วนทางกับบุคลิกแบดบอยของเขาไปหลายโยชน์เลยนะ
เป็นคนดีในคราบซานตานเหรอ? เอียงคอสงสัย
“แล้วตกลงจะไปไหน” เขาถามฉันอีกครั้ง
“ไปผับ”
“ที่ไหน”
“ดราก้อน”
“อืม ฉันก็จะไปเหมือนกัน นัดกับเพื่อนไว้”
“จะไปส่ง?” ฉันเอียงคอถาม แค่สงสัยก็เขาพูดเหมือนจะให้ไปด้วยกัน
“ก็ไม่ต้องเปลืองน้ำมันรถไหมว่ะเธอ” ฉันพยักหน้าเข้าใจทันทีที่ได้คำตอบ ก็คืออยากไปส่งนั่นแหละ
“ก็ได้ ไปสิ ฉันนัดเพื่อนไว้สามทุ่ม นี่จะเลทแล้ว” ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะบอกเขา แต่เขากลับไม่ยอมขยับตัวมัวแต่จ้องร่างกายฉันอยู่นั่นแหละ
“ฉันว่าเธอไปเปลี่ยนชุดดีกว่า”
“นาย นี่มันร่างกายฉัน ฉันเป็นเจ้าของฉันจะใส่อะไรก็ได้ปะ”
“แต่ฉันก็เป็นเจ้าของ ฉัน...เออ! ช่างมันเถอะดูแลตัวเองให้ดีก็พอ” น้ำเสียงของเขาคล้ายมีความหงุดหงิดเจืออยู่ แถมพูดจบก็เดินผ่านหน้าฉันไปเลย ทำเอาฉันงง เป็นอะไรทำเหมือนหึงหวงไปได้
@Dragon Club
“ฉันอยู่ชั้นสองถ้ามีอะไรก็โทรไปได้เลย เบอร์ฉันก็เคยให้ไปแล้ว นามบัตรวันก่อนอะเซฟใส่เครื่องด้วย”
“เป็นพ่อฉันหรือไง สั่งอยู่ได้” ฉันหันไปแหวเสียงฉุนใส่เขา ก็ตั้งแต่มาถึงผับเนี่ยหมอนี้ยังไม่ยอมเปิดประตูรถให้ฉันลงเลย มัวแต่สั่งๆ เป็นพ่อฉันอยู่นั้นแหละ คืองง แฟนก็ไม่ใช่ แต่ทำตัวเกินเบอร์มาก
“เป็นผัวคนแรก ชัดไหม อย่าแรดให้มากถ้าไม่อยากมีผัวคนที่สอง”
ไอ้บ้านี่! นั้นปากเหรอหะ!
“ทำไม ถ้ามีแล้วนายจะทำไม”
“ก็กระทืบมันไง”
เออ! จบแยก! ฉันไม่คุยกับหมอนี้แล้ว ปวดหัว