บทที่4 ‘นางฟ้าโชว์รูม’
1 ชั่วโมงผ่านไป....
“โฮ่ ปีนี้มีโชว์รูมเปิดวันเดียวกันถึงสองที่อะ งานใหญ่ด้วยนะมึง มึงได้รับงานจากพี่คิมมี่ปะแม่” ลูน่าเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มันทำตาลุกวาวมาทางฉัน
“ไม่อะ ช่วงนี้กูไม่อยากรับงาน เบื่อ”
ฉันตอบลูน่าในขณะที่ในปากกำลังเขี้ยวขนมที่สั่งมากินเล่นไปด้วย มันกำลังอ่านฟิดข่าวที่มีโชว์รูมรถแพงๆกำลังจะจัดขึ้นประมาณสัปดาห์หน้ามั้ง ก็อย่างที่รู้ว่าฉันทำอาชีพพริตตี้เป็นงานอดิเรกก็เลยพอรู้เรื่องพวกนี้บ้าง แถมตอนนี้ฉันยังเป็นตัวเต็งที่ถูกจองตัวให้ไปร่วมงานด้วย แต่ส่วนใหญ่ฉันก็มักจะให้พี่คิมมี่ปฏิเสธเพราะฉันเบื่อพวกผู้ชายที่มันชอบส่งสายตาลวนลามมาให้ มันน่ารำคาญ และถ้าเกิดไอ้บริษัทพวกนี้ติดต่อมา ฉันก็จะปฏิเสธเหมือนเดิม
“จ้า แม่สวยมาก เบอร์หนึ่งในดงพริตตี้ ค่าตัวสูงปรี๊ดอีกนิดจะแตะขอบฟ้าแล้วจ๊ะ” ลูน่ามันว่ากระแนะกระแหนใส่ฉัน ก็ช่วยไม่ได้คนมันสวยมีสง่าราศีอะ ก็ต้องเล่นตัวหน่อยปะ
อีกด้าน...
[ kongthap part ]
@บริษัท KT group
ณ. ห้องประชุมบริษัท
“ตอนนี้ถ้าเราต้องการทำกำไรให้สูงขึ้นกว่าไตรมาสที่แล้วมีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจครับผมว่ามันสามารถทำการตลาดให้เราได้ดีด้วย”
ผมนั่งฟังลูกน้องในบริษัทฝ่ายการตลาดเสนอเรื่องเกี่ยวกับการทำโปรเจ็คใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมไม่ค่อยตื่นเต้นกับการประชุมเท่าไหร่ออกจากเบื่อหน่ายด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นการประชุมเรื่องเดิม ๆ เวลาที่มีการจัดโชว์รูมระดับประเทศขึ้น ซึ่งบริษัทผมเป็นบริษัทเครือใหญ่ที่ลูกค้าหลายรายตั้งตารอนางฟ้าที่จะออกมาพร้อมกับรถรุ่นใหม่ทุกปี แต่ปีนี้มันมีคู่แข่งที่เปิดโชว์รูมวันเดียวกันกับของผม ซึ่งมันเป็นบริษัทคู่แข่งที่พยายามจะตีตลาดขึ้นนำบริษัทผมอยู่ตลอด มันเลยต้องพยายามหาลูกเล่นใหม่ๆเสมอ
ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเบื่อหน่ายที่สุดจนอยากลุกขึ้นออกจากห้องประชุมแล้วปล่อยไอ้แทนลูกน้องผมนั่งประชุมแทน
“เสนอมาเลยครับเดี๋ยวท่านประทานจะพิจารณาไปพลางๆ” ไอ้แทนลูกน้องผมที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นคนพูด ไอ้นี่มันเป็นลูกน้องมือขวาคนสนิทของผมเรียกว่าเป็นทุกอย่างให้ผมเลยก็ได้ มันจะคอยดูแลและถามทุกครั้งที่เข้าประชุม ส่วนผมแค่ดูและฟังไปเฉยๆแต่ถ้าตรงไหนที่มันไม่โอเคผมก็จะขัดขึ้นทันที
“การจ้างคนดังที่เป็นกระแสในตอนนี้ครับ เธอเป็นพริตตี้ระดับแนวหน้าของประเทศมีแต่คนรุมแย่งจ้างงานเยอะมากรวมทั้งบริษัทของคู่แข่งเราด้วย แต่ค่าตัว...”
“ช่วยขึ้นภาพให้หน่อยครับ ผมจะตัดสินใจเอง ค่าตัวเท่าไหร่ผมพร้อมจ่าย แต่ขอเป็นมืออาชีพก็พอ” ผมสั่งออกไปเสียงเรียบ จริง ๆ แล้วการจัดโชว์รูมมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีพริตตี้อยู่แล้ว เอาคนไหนมาก็ได้ขอแค่สวยก็พอ แต่ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะมั่นใจกับ พริตตี้คนนี้เหลือเกินผมเลยอยากเห็นรูปสักหน่อยอีกอย่างท่าทางค่าตัวน่าจะแพงใช้ได้ลูกน้องมันถึงทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนั้น...
ฟึบ!
!!!
เชี้ย! นั้นมัน...
ทันทีที่ผมเห็นรูปผู้หญิงคนนี้ขึ้นปุ๊บจากที่ผมนั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉยมาตลอดการประชุม ผมก็รีบขยับตัวเพ่งเล็งไปที่โปรเจกต์เตอร์ทันที พร้อมพิจารณารูปภาพอย่างจริงจัง คือผมไม่แน่ใจว่าใช่ยัยนั้นที่เจอกันที่ร้านกาแฟเมื่อกี้หรือเปล่า เพราะรูปภาพของเธอที่แสดงบนหน้าจอตอนนี้มันไม่ค่อยชัด
“ขอรูปที่เห็นใบหน้าชัดกว่านี้หน่อย” ผมสั่งทั้ง ๆ ที่สายตายังโฟกัสที่รูปเดิมไม่เปลี่ยน จนกระทั่งรูปใหม่ขึ้น...
ชัด...ชัดเจนเลยนี่มันยัยนั้นที่อ่อยผมเมื่อหลายคืนก่อน แล้วก็เจอกันที่ร้านกาแฟเมื่อไม่กี่นาทีนี้ด้วย นี่เธอเป็นพริตตี้เหรอว่ะ แต่ทำไมผมไม่เคยเห็นและรู้จักเธอมาก่อนทั้ง ๆ ที่อยู่ในวงการนี้แท้ๆ อีกอย่างผมเองก็ชอบควงเด็กในวงการนี้เล่นอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เคยรู้จักหรือได้เห็นหน้าเธอมาก่อน หรือผมเข้าไม่ถึงโซเชียลว่ะ
“เธอชื่ออะไร” ผมถามถึงชื่อของคนในจอเพราะผมเองก็ยังไม่ได้รู้จักชื่อเธอ วันก่อนตอนเธอตื่นมาก็ไม่ได้ถามว่าเป็นใครชื่ออะไรเพราะมัวแต่ยืนเถียงกันอยู่ เมื่อกี้ตอนเจอกันก็ลืมถามชื่ออีกเพราะมัวแต่แกล้งขอให้เธอจ่ายเงินค่ากาแฟให้ แต่ที่ผมรู้แน่ ๆ คือเธอยังเรียนอยู่ เพราะเมื่อกี้เธออยู่ในชุดนักศึกษาเอ็กซ์แตกนั้นไง ก็อยากจะถามอยู่เหมือนกันว่ามาเรียนหรือมาหาผัวเพิ่มกันแน่ แต่งตัวได้น่าตีมาก
“ชื่อน้องคุณนายครับ อายุ22ปี”
ผมขมวดคิ้วขึ้นทันทีที่ลูกน้องเอ่ยชื่อแปลกประหลาดที่ไม่มีใครตั้งแบบนั้นขึ้นมา คือผมกำลังสับสนว่านั้นชื่อหรือฉายากันแน่ ตั้งแต่ผมเกิดมาไม่เคยได้ยินใครชื่อคุณนายเลยสักคน มีแต่คนใช้ที่บ้านแม่ผมที่เรียกชื่อนี้อยู่ ซึ่งใช้เรียกกับแม่ผม
“ถ้าเราสามารถจ้างน้องเขามาเป็นนางฟ้าให้เรา ผมคาดว่าการตลาดของเราพุ่งแน่นอนครับ แต่...”
“แต่อะไร” ผมเหลือบไปถามลูกน้องคนที่พูดอยู่ เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่จ้องรูปยัยเด็กคุณนายนี้อยู่
“น้องเขารับงานยากมากครับ ปีหนึ่งรับแค่งานสองงานหรือแทบจะไม่รับเลยก็มีครับ ที่สำคัญตอนนี้เหมือนบริษัทคู่แข่งของเราก็ต้องการตัวน้องเหมือนกันครับ ถ้าทางนั้นได้ไปเกรงว่างานฝั่งเราจะจืดไปเลยครับ ดีไม่ดีหุ้นอาจจะตกด้วยครับ”
“....”
หุ้นตกเลยเหรอว่ะ
-หลายนาทีต่อมาหลังจากประชุมเสร็จ-
“...”
ผมก็นั่งดูแฟ้มประวัติข้อมูลการติดต่อต่าง ๆของเธอที่ลูกน้องเอามาให้ดูอย่างถี่ถ้วนหลังจากประชุมเสร็จ ซึ่งสรุปได้สั้นๆก็คือ เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ เพราะอิทธิพลใบหน้าของเธอโคตรสะกดใจเลย ทุกท่วงท่าที่เธอถ่ายรูปออกมามันน่าดึงดูดให้มองไปหมด เหมือนที่คืนนั้นที่ผมถูกดึงดูดให้ละจากใบหน้าและทุกส่วนในร่างกายเธอไม่ได้เลย
ติ๊ด.
“คุณเดียร์ช่วยเรียกแทนไทเข้ามาพบผมหน่อย” ผมกดโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานต่อสายหาเลขาด้านหน้าห้องทำงานหลังจากที่ปิดแฟ้มประวัติของคุณนาย
“ได้ค่ะคุณกองทัพ”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“นายเรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมมองหน้าลูกน้องคนสนิทด้วยสีหน้าเรียบนิ่งหลังจากที่มันเดินมาหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานผม...
ตุบ!! ผมโยนแฟ้มประวัติคุณนายที่ผมอ่านจบแล้วให้มันไป
“ไปจ้างผู้หญิงคนนี้มาเป็นพริตตี้ตามที่ในประชุมโหวต ทำยังไงก็ได้ให้เธอยอมมาทำงานกับเรา อย่าให้เธอหลุดไปเซ็นรับงานกับบริษัทคู่แข่งเราเด็ดขาด!”
“แล้วถ้าเธอปฏิเสธละครับนาย” ไอ้แทนถามผมสีหน้าเครียด
“มึงก็จะโดนตัดเงินเดือนไงแทน เมื่อกี้มึงได้ยินที่ฝ่ายการตลาดพูดไหม หุ้นตกเลยนะสัส” หึ ผมละอยากขำฉิบหาย ไม่อยากจะคิดว่าความสวยของเธอมันจะมีอิทธิพลกับหุ้นบริษัทผมขนาดนั้น ให้ตายเถอะพับผ่า!
“ได้ครับผมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ”
ไอ้แทนรีบก้มหัวให้ผมก่อนจะหยิบแฟ้มบนโต๊ะติดมือไปด้วย ซึ่งหลังจากที่มันเดินออกจากห้องทำงานผมไปแล้ว ผมก็นั่งทำงานอย่างอื่นต่อทันทีแต่ทำงานได้สักพักในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนมีบางอย่างมากวนใจผมตลอดเวลา ผมเลยนั่งนิ่งพิงเก้าอี้ไปเฉยๆ แต่สายตาผมดันเหลือบไปเห็นรูปยัยคุณนายตกอยู่บนโต๊ะทำงานพอดี จึงหยิบขึ้นมาดู
“หึ เสน่ห์แรงมากเลยเหรอว่ะ ถึงสามารถทำให้หุ้นบริษัทฉันตกได้” ผมบ่นพึมพำคนเดียวกับรูปภาพในมืออย่างขุ่นเคืองก่อนจะเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานเก็บรูปของเธอไว้ แล้วเตรียมนั่งทำงานต่อ...
Line:
องศา:: เฮียคืนนี้ที่ผับเฮียไซเหมือนเดิมป่าวหรืออยากได้แบบแจ่มๆ ถ้าอยากได้แจ่มๆ แนะนำมาmove Club เด็ก ๆ เด็ดๆ ทั้งนั้น ?
(ผมเหลือบไปอ่านข้อความขององศาที่ส่งมาในไลน์อย่างเบื่อหน่าย ไอ้นี่ก็ขยันหาเด็กมาให้ผมจริง ๆ เลย ตั้งแต่ที่ผมรู้เรื่องว่ามันแอบซุกเด็กไว้ที่ห้อง แม่งก็ดูจะใจดีกับผมขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกเพราะมันกลัวผมเอาไปฟ้องแม่มันไง)
กองทัพ:: กูไม่เอา แต่คืนนี้ดึกๆ หน่อยกูออกไปดื่ม
องศา:: โอเค งั้นเจอกันที่ผับ
กองทัพ:: อืม
ผมตอบองศาเสร็จก็วางโทรศัพท์ลงไว้ที่เดิม ก่อนจะนั่งอ่านเอกสารที่เลขาเอามาวางไว้บนโต๊ะตั้งแต่เช้าด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
[ Khun nai part ]
หลายชั่วโมงต่อมา...
“บ๊าย ๆ คืนนี้เจอกันแม่นาย” ลูน่ายืนโบกมือลาฉันผ่านหน้าต่างรถหลังจากที่ฉันมาส่งมันหน้าคอนโดเป็นคนสุดท้าย
“เออ อย่าช้านะมึง เดี๋ยวกูเอาไม้เรียวขึ้นไปฟาดถึงห้องนะจ๊ะ” ฉันบอกมัน
“จ้าแม่~ สามทุ่มเป๊ะเจอกันหน้าคอนโด ไม่เลทแน่นอน”
“โอเค พูดจารู้เรื่องค่อยน่ามารับหน่อย” ฉันพูดพร้อมทำท่าประกอบอย่างมีจริตแล้วโบกมือลาให้มันทิ้งท้าย ก่อนจะปิดกระจกรถยนต์แล้วขับรถออกจากคอนโดลูน่าเพื่อกลับคอนโดตัวเองต่อทันที
@คอนโดคุณนาย
Line::
กองทัพ add your ID
กองทัพ:: เธอ
(ฉันเดินพ้นประตูคอนโดได้ไม่นานจู่ ๆ ก็มีคนแอดไลน์มาแล้วส่งข้อความมาหาฉัน แต่ฉันสงสัยกับคำว่าเธอ คือรู้จักฉันเหรอ)
K.N:: ใครอะ?
กองทัพ:: ผัวคนแรกเธอไง
(หึ ตอนนี้มีคนเดียวแหละที่กล้ายอมรับว่าเป็นผัวคนแรกของฉัน แล้วนี้ไปได้ไลน์ฉันมาได้ไงว่ะ)
K.N:: ได้ไลน์ฉันมาได้ไง
กองทัพ:: ความสามารถพิเศษมั้ง
K.N:: กวนตีน
กองทัพ:: หึหึ กวนใจด้วยได้ป่าว
K.N:: รำคาญ ทักมามีไร
กองทัพ:: มีงานให้ทำ มาเป็นพริตตี้ที่งานโชว์รูมให้ฉันหน่อย
K.N:: อ๋อที่พี่คิมโทรมาบอกฉันเมื่อกี้เป็นโชว์รูมนายเองเหรอ เสียใจด้วยนะฉันไม่รับ!
ฉันจัดการตอบข้อความสุดท้ายเสร็จก็โยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนโซฟาหน้าทีวีอย่างไม่ใยดีทันทีหลังจากมาถึงห้องโถงของห้อง ก่อนจะเดินเลี่ยงไปดื่มน้ำที่ห้องครัวปล่อยให้เสียงไลน์ดังรัวๆ ไปอย่างไม่แยแส
หึ ฉันไม่สนหรอกนะ จะรัวไลน์มาจนโทรศัพท์ฉันระเบิดก็แล้วแต่ เพราะฉันขี้เกียจคุย ขี้เกียจตอบ และไม่อยากคุยเรื่องงานด้วย
ก่อนหน้านี้ตอนฉันอยู่บนรถกำลังจะไปส่งพวกลูน่ากลับคอนโด จู่ ๆ พี่คิมมี่ผู้จัดการฉันก็โทรมาบอกว่ามีงานให้ฉันทำเป็นโปรเจ็คใหญ่ค่าตัวสูงมากตั้งแต่ที่ฉันเคยรับมา ก็น่ะเป็นพริตตี้ในงานโชว์รูมระดับท็อปของประเทศ แต่ฉันก็ปฏิเสธไปเพราะไม่มีอารมณ์ไปยืนฉีกยิ้มให้ใคร เบื่อ ฉันก็บอกอยู่ว่าช่วงนี้เบื่องานพริตตี้ รำคาญพวกผู้ชายที่ตามมาตอแยหลังเลิกงานด้วย แต่ไม่ยักจะรู้ว่าเป็นบริษัทของหมอนั้นที่ต้องการจ้างฉัน
หึ ตื้อไปเถอะยังไงฉันก็ไม่รับ
ติ๊งน๋องๆ ~
ใครมาอะ?
ฉันวางแก้วน้ำลงบนเคาน์เตอร์ ก่อนจะชะเง้อหน้าเดินไปเปิดประตูห้อง
พรึบ!
“ทำไมไม่ตอบไลน์ฉัน”
!!!!