บทที่5 BAD HUSBAND
@คอนโดรามสูร
พรึบ!!
รามสูรผลักตัวฉันให้นั่งลงที่โซฟาหลังจากนั้นมันก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน และออกมาอีกทีด้วยสภาพที่เหลือแต่กางเกงยีนสีดำตัวเดียวเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องแข็งแรงเป็นลอนคลื่น เดินผ่านหน้าฉันไปทางห้องครัว แล้วออกมาอีกทีพร้อมกับกระป๋องเบียร์ในมือ ก่อนจะหยุดเท้าเอวสีหน้าดุอยู่ตรงปลายเท้าของฉัน
“...”
ฉันได้แต่ก้มหน้าเงียบก่นด่าในใจ ว่าเป็นอะไรถึงต้องมายืนโชว์ซิกแพคต่อหน้าฉันตอนนี้ คนยิ่งใจไม่ดีอยู่... ก็ฉันกลัวว่ามันจะลงโทษฉันแบบเมื่อคืนอีกนะสิ รอยเก่ายังไม่หายเลยนะ
“เล่ามา” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้นเสียงเข้ม
“เล่าอะไร”
“อย่ามาปากดีเจ้า ทีเมื่อกี้ยังร้องไห้ตัวสั่นอยู่เลย เล่ามา!” เห็นไหมมันดุฉันแล้วอ่า
“ราม~” ฉันเงยหน้าพร้อมทำสีหน้าออดอ้อนกะพริบตาปริบ ๆ ใส่มัน
แต่...
“เร็วๆ อย่าให้กูโมโห”
เฮ้อ ฉันถอนหายใจออกมาทันทีหลังจากที่เห็นสีหน้าแววตาเกรี้ยวกราดของมัน ก่อนจะยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ผับเมื่อกี้อย่างยอมจำนน
“ฉันกำลังเต้นอยู่ที่ฟลอร์ตอนที่ดีเจเปิดเพลงพร้อมกับยัยเฌอและยัยเบ แต่อยู่ ๆ...ก็มีกลุ่มผู้ชายสี่ห้าคนเข้ามาเบียดพวกเรา แต่พวกมันอีกสองคนเลือกที่จะเบียดฉันมากกว่ายัยพวกนั้น และมันก็ลวนลามฉันอะ”
“ลวนลามยังไง”
“ก็มันเอามือมาลูบต้นขาฉันแล้วจับก้นฉัน”
“แล้วยังไงต่อ” ในขณะที่ฉันกำลังก้มหน้าเล่าเรื่องที่ผับให้รามสูรฟังฉันแอบสังเกตเห็นมือมันบีบกระป๋องเบียร์จนแบนหมดเลย ฉันกลัวมันจริงๆ น่ะ ยิ่งมันโมโหแบบคืนนี้อะ ฉันยิ่งไม่กล้าเล่าต่อเลยอะ
“กูถามว่าแล้วไงต่อเจ้า”
“ราม เจ้าขอโทษต่อไปเจ้าจะไม่ไปเต้นกลางฟลอร์อีกแล้ว”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเจ้า มึงยังเล่าไม่จบ”
ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับสายตาดุๆ ของรามสูรที่กำลังจ้องมองที่ฉันอยู่อย่างอ้อนๆ แต่รามสูรก็ไม่มีท่าทีว่าจะอ่อนลงกับสายตาของฉันเลย เขาดุยังไงเขาก็ยังดุอยู่อย่างนั้น ฉันจึงจำเป็นต้องเล่าต่อ...
“ก็พอมันลวนลามเจ้า เจ้าก็หันไปตบหน้ามันอะ แล้วมันก็โมโหที่โดนตบ มันเลยจับตัวเจ้าแล้วพยายามจะซุกไซร้และลวนลามอีกครั้ง แต่พอดีกับที่พายุเดินเข้ามาดึงตัวผู้ชายคนนั้นออกก่อน พอผู้ชายคนนั้นเห็นพายุเขาก็หันไปหาเรื่องพายุแทนจนต่อยกันและพยายามจะดึงตัวเจ้าไปกับมันแต่พายุไม่ยอมมันเลยเรียกพวกมารุม จนตะลุมบอนกันอะ และไซเรนก็เข้ามาพอดีทุกคนจึงหยุดพายุเลยดึงเจ้าไปอยู่ข้างเขาแทน”
“ไอ้เวรนั่นมันเป็นฮีโร่ช่วยเธอว่างั้น”
“แต่พายุช่วยเจ้าจริง ๆ น่ะราม”
“หุบปากไปเลยเจ้า และนับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปถ้าอยากไปผับฉันต้องรู้ก่อน และต้องบอกฉันว่าอยู่ส่วนไหนของผับ แล้วถ้าเธอดื้อไปเที่ยวผับอื่นโดยที่ฉันไม่รู้ เจอดีแน่จันทร์เจ้า”
“แล้วไอ้เวรพายุอย่าให้ฉันรู้หรือเห็นว่าเธออยู่กับมัน ไม่งั้นมันได้เจ็บตัวแน่ส่วนเธอจะได้นอนติดเตียงเป็นอาทิตย์เจ้า”
พูดจบรามสูรก็หันหลังเตรียมจะเดินเข้าห้องนอนทันที แต่ฉันรีบลุกขึ้นไปกอดข้างหลังมันก่อน
หมับ!
“ราม~ แต่พายุเขาช่วยเจ้าไว้น่ะ”
“ฉันรู้ว่าเธอรู้ว่าฉันไม่ชอบพูดซ้ำจันทร์เจ้า”
“งื้อ~ ราม~”
“ปล่อย กูจะไปอาบน้ำ”
“ราม~”
พรึบ!!
รามสูรมันดึงมือฉันออกจากตัวมันอย่างไม่แยแสแถมรุนแรงด้วย ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ฉันจึงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างหงอยๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิมพร้อมกับทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่โดนลวนลามจนพายุที่ไม่รู้มาจากไหนเข้ามาช่วยและรามสูรที่เดินมาเห็นฉันอยู่ในเหตุการณ์พร้อมกับพายุพอดี
แต่ฉันแค่แอบสงสัยว่าทำไมดูเหมือนรามสูรมันจะไม่ชอบพายุเอามาก ๆ ตอนที่มันดึงตัวฉันออกจากพายุดูมันจะโมโหมาก ๆ แถมตอนนั้นมันเกือบจะหลุดปากบอกว่าฉันเป็นเมียมันออกไปอีกด้วย แต่สมัยก่อนพวกมันก็ไม่ใช่ศัตรูกันนี่ออกจะไม่ยุ่งกันเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมมาตอนนี้ดูเหมือนคนที่มีปัญหากันมานานเลยอะ
โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวอะไปอาบน้ำนอนดีกว่า....
แอ๊ด~
ฉันค่อยๆ แง้มประตูห้องนอนเพื่อแอบดูว่ารามสูรทำอะไรอยู่จะได้เดินเข้าไปแบบเงียบๆ เพราะกลัวมันยังโมโหฉันอยู่แล้วเหวี่ยงฉันอีกรอบ แต่แปลกห้องกลับเงียบสนิท มีเพียงแค่เสียงทีวีเท่านั้นที่ดังอยู่ ฉันเลยเลิกสนใจแล้วค่อยๆ ย่องเข้าไปอย่างช้า ๆ และเงียบที่สุด ...
“จะย่องอีกนานไหม รีบๆ ไปอาบน้ำมานอนได้แล้ว”
ฉันแทบจะหยุดกลั้นลมหายใจของตัวเองทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มๆ ติดหงุดหงิดของรามสูร จึงค่อยๆ หันไปมองตามเสียงช้า ๆ ก่อนจะเห็นว่ามันกำลังนอนดูทีวีอยู่บนเตียงและกำลังมองฉันอยู่ก่อนแล้วด้วย ฉันจึงรีบวิ่งไปทางห้องน้ำอย่างไว...
20นาทีต่อมา...
Rrrr
ครืด~ ครืด~
‘เค’
“มีอะไร”
[พรุ่งนี้มีเด็กใหม่เข้ามา นายจะมาดูของเองไหมครับ] เสียงเปิดลำโพง
“อืม”
ติ๊ด.
ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ กำลังจะเดินไปที่เตียงนอนแต่ได้ยินเสียงเหมือนรามสูรกำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ จึงหยุดเดินเพราะไม่กล้าขึ้นไปบนเตียงตอนที่มันคุยโทรศัพท์เดี๋ยวมันหาว่าฉันอยากรู้เรื่องมันอีก...
“จะยืนเซ่ออยู่ตรงนานอีกนานไหมรีบขึ้นมานอนได้แล้วจันทร์เจ้า”
จันทร์เจ้าเรียกฉันว่าจันทร์เจ้าแบบนี้นี่มันยังไม่หายโมโหอีกเหรอเนี่ย ฮึ่ย ไอ้บ้ารามรู้ไหมว่าฉันกลัวมันจะตายอยู่แล้วเนี่ย
หลังจากที่ฉันยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปหามันที่เตียง มันจึงหันมาเลิกคิ้วหน้าเข้มที่เห็นฉันไม่ยอมเดินไปที่เตียงสักที
“รึต้องให้กูไปอุ้มจากตรงนั้นมาที่เตียง”
ฮึ้ย ไอ้ผัวบ้านี่ ฉันทำหน้าฮึดฮัดใส่มัน ก่อนจะก้าวขาเดินไปขึ้นเตียงและจัดการดึงผ้าห่มมาคลุมโปงตามด้วยหันหลังให้มัน ไม่นานเสียงทีวีที่ดังก่อนหน้านี้ก็เงียบลงพร้อมกับรามสูรมันขยับมาใกล้ฉันแล้วดึงตัวฉันเข้าไปกอดอย่างเช่นทุกคืนจนเผลอหลับไปในที่สุด...
ถึงจะโกรธฉันมากแค่ไหนแต่มันก็กอดฉันเวลานอนตลอด