PART 6 ร้ายกาจ
" วางไว้ตรงนี้ก็ได้จ๊ะ ขอบใจนะลูก ไปหาที่นั่งเถอะ" อาจารย์วัยกลางคนบอกนักศึกษาสาวด้วยท่าทางใจดี
ฟ้าใสวางกระเป๋าสัมภาระของอาจารย์ไว้บนโต๊ะก่อนที่เธอจะเดินไปยังที่ประจำของเธอ ระหว่างทางที่ก้าวเดินไป ก็มีเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นมาให้ได้ยินตลอด
"มันไปเอาชุดใครมาใส่"
"มันมีเงินซื้อชุดใหม่ด้วยเหรอ"
ฟ้าใสแกล้งไม่ได้ยินคำนินทาของเพื่อนรอบข้างและไม่กล้าแม้แต่จะมองไปยังกลุ่มของมารีญา เธอรีบเดินตรงไปยังที่ว่างที่อยู่มุมสุดของห้อง
แต่ยังไม่ทันที่ฟ้าใสจะเดินไปถึง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งย้ายไปนั่งที่ที่เธอหมายปองอย่างหน้าตาเฉย ทั้งๆที่ตัวเองก็มีที่นั่งอยู่แล้ว
ตึก! ฟ้าใสหยุดชะงักไปทันทีเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นคือหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของมาติน และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะแกล้งเธอ
"เห้ย! รู้ตัวมั๊ยว่าใส่แบบนี้โคตรน่าเอาเลย"
ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยท่าทางหื่นแล้วมองร่างสวยตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปายเท้า ก่อนจะพูดต่อด้วยประโยคสุดหื่น
"เห็นแล้วคxxแข็งเลยหว่ะ!"
"เรียนเสร็จไปปาร์ตี้กับเราป่ะ? สัญญาว่าจะปี้ให้ครางทั้งคืน"
"กูขอแจม!"
"กูเอาด้วยคน ขอประตูหลังก็ได้ ฮ่าๆ"
ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ ต่างจากคนที่โดนแซวได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร
"พวกมึงเห่าอะไรนักหนา ไม่เคยเย็xหรือไง"
เจย์ซีพูดขึ้นมาเมื่อเพื่อนเริ่มเสียงดังไม่เกรงใจอาจารย์ที่กำลังจะเริ่มสอน
" จะยืนอีกนานมั๊ย"
มาตินถามเสียงเรียบ ทว่าสายตาของเขาที่มองเธอกลับร้ายกาจยิ่งกว่าเพื่อนของเขาซะอีก แต่ฟ้าใสก็ได้แต่เก็บความกลัวเอาไว้ข้างในแล้วเอ่ยถามออกไป
"เราขอนั่งได้มั๊ย"
ฟ้าใสเอ่ยขออนุญาตแล้วมองไปยังที่ว่างที่เดียวที่มาตินใช้เป็นที่พักแขน แล้วยังนั่งในท่าสบายราวกับไม่ได้อยู่ในห้องเรียน
"กล้านั่งมั๊ยหล่ะ?"
อึก! ฟ้าใสถึงกลับกลืนน้ำลายเหนียวลงคอเมื่อรู้สึกได้ถึงอันตรายกำลังจะมาเยือน
ฟ้าใสพยายามมองหาที่ว่างที่อื่น แต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะมาตินสามารถทำให้ที่ว่างทุกที่ เป็นที่ไม่ว่างได้
"มีอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่นั่ง"
เสียงของอาจารย์ดังขึ้นมา ทำให้ฟ้าใสตัดสินใจได้ ว่าเธอควรจะนั่ง เพราะเธอเลือกไม่ได้
"เปล่าค่ะ"
ฟ้าใสรีบก้มหัวขอโทษอาจารย์แล้วก้าวไปนั่งข้างๆผู้ชายอันตราย
พรึบ!
ทันทีที่ฟ้าใสนั่งลง แขนแกร่งที่เคยพาดอยู่เก้าอี้ก็เลื่อนมาโอบไหล่เธอ แล้วยังใช้นิ้วเขี่ยปอยผมของเธอเล่นโดยไม่สนใจสายตาของใคร แม้กระทั่งเอญ่าคู่นอนของเขาที่มองอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องด้วยท่าทางโกรธจัด
...
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงที่ฟ้าใสพยายามตั้งสติและรวบรวมสมาธิให้โฟกัสในสิ่งที่อาจารย์กำลังสอนมากกว่าสนใจการกระทำของคนข้างๆ
หึ! ใบหน้าหล่อยกยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ พอใจที่ได้แกล้งคนข้างๆ
ตอนนี้เขาเริ่มจะเข้าใจว่าทำไมพวกผู้หญิงถึงชอบแกล้งเธอนัก เพราะมันสนุกอย่างนี้นี่เอง ยิ่งเห็นตอนที่เธอทำหน้าตื่นกลัวก็ยิ่งรู้สึกสนุก
ฟอด!
O.O! ตากลมโตเบิกกว้าง พร้อมเสียงหัวใจที่เต้นระรัว เมื่อชายหนุ่มเกี่ยวเส้นผมของเธอไปสูดดมอยู่ข้างๆใบหูของเธอ ทำเอาคนที่ไม่เคยใช้ชิดผู้ชายอย่างเธอขนลุกไปทั้งตัว
และที่สำคัญ...ตอนนี้ร่างกายของเธอกับเขาก็ใกล้ชิดกันจนแทบจะเป็นร่างเดียวกันอยู่แล้ว
ส่วนคนที่เห็นการแกล้งคนอื่นเป็นเรื่องตลกก็ยังคงเดินหน้าแกล้งเธอต่อไป ครั้งนี้เขาตั้งใจกดจมูกลงที่เรือนผมของเธอ อยากจะรู้ว่าเธอจะยังนิ่งได้อีกมั๊ย
"ผมหอม..ใช้แชมพูอะไรเหรอ"
"อะ..เอ่อ..นายช่วยเอาแขนออกไปได้มั้ย"
ฟ้าใสตัดสินใจบอกออกไปก่อนที่เขาจะทำอะไรไปมากกว่านี้ แต่เธอก็เลือกที่จะไม่บอกไปตรงๆ ว่าเอาตัวออกไปไกลๆได้มั้ย เธออึดอัดจะตายอยู่แล้ว ถ้าขืนบอกไปอย่างนั้น เธอคงโดนไล่ออกจากมหาลัยแน่ๆ
"เธอมีปัญหาอะไรกับแขนฉันงั้นเหรอ?"
มาตินยังคงทำหน้ายียวนและยังคลอเคลียเส้นผมตรงสลวยอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ตัวว่าเขากำลังเสพติดกลิ่นของเธอไปทีละนิด
"ปะ..เปล่า ฉันแค่คิดว่านายอาจจะเรียนไม่รู้เรื่อง"
เป็นการแก้ตัวที่ไม่เนียนเอาซะเลย โดยเฉพาะกับคนเจ้าเล่ห์อย่างมาติน ยิ่งตบตาเขาไม่ได้เลย
"ติวให้ฉันสิ! ถ้ากลัวว่าฉันจะเรียนไม่รู้เรื่องจริงๆ"
ฟ้าใสได้แต่มองใบหน้าหล่อที่อยู่ห่างกันเพียงแค่คืบเดียวด้วยท่าทางตื่น เขาคงไม่คิดจะทำจริงๆหรอกใช่มั้ย..ที่จะให้เธอไปติวให้
แล้วที่สำคัญ..คนอย่างเขา คงไม่ได้ต้องการแค่ติวหนังสือแน่ๆ
"ก็แค่ไปติว ทำไมต้องทำหน้าตาตื่นขนาดนั้น
หรือว่าจริงๆแล้ว เธอเป็นคนที่ชอบพูดโกหก"
"ปะ..เปล่านะ ฉันไม่ได้โกหก"
ใช่! เธอกำลังโกหก แต่เป็นการโกหกเพื่อเอาตัวลอดก็เท่านั้น ประโยคหลัง..ฟ้าใสได้แต่เอ่ยในใจ
"งั้นก็แสดงว่าเธอกำลังคิดอะไร นอกเหนือจากการติวหนังสือ"
0.0 ฟ้าใสได้แต่มองใบหน้าหล่อด้วยความตกตลึงเพราะเธอกำลังคิดอะไรมากกว่าการติวจริงๆ
" บอกตามตรงนะ ฉันเองก็อยากทำมากกว่าติวหนังสือ"
มาตินกระซิบข้างหูของฟ้าใสด้วยน้ำเสียงหื่น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการอะไร
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ฟังคำตอบจากเธอ มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็มีสายเข้ามาพอดี ทำให้ฟ้าใสรู้สึกโล่งอกขึ้นมา และภาวนาในหมดเวลาเร็วๆ