PART 2 ผู้หญิงชั้นต่ำ
เพลี๊ย!!
ใบหน้าของฟ้าใสหันไปตามแรงตบของมารีญา ไม่นานรอยแดงจากกระปะทะเริ่มปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบาง
ฟ้าใสได้แต่ยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเองที่เริ่มแสบซ่าน ทว่าความเจ็บแสบบนใบหน้าไม่ได้ครึ่งกับความเจ็บที่หัวใจเลยสักนิด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟ้าใสต้องรองรับอารมณ์ของมารีญาและกลุ่มเพื่อนของเธอ
"ตบมันอีก แค่นี้มันไม่สำนึกหรอก!"
" ใช่ๆ ตบให้มันหน้าแหกไม่กล้าไปอ่อยพี่ริวเลย"
มันช่างเป็นเรื่องที่น่าหดหู่เสียจริง เมื่อไม่มีใครเอ่ยห้ามเลยสักคน มีแต่คนยุยงให้มารีญาจัดการกับฟ้าใส โดนที่เธอไม่ได้มีความผิดอะไร
ส่วนมารีญาที่ได้ยินว่ายัยผู้หญิงชั้นต่ำไปอ่อยว่าที่คู่หมั้นของตัวเอง ก็รู้สึกคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง
"ครั้งก่อนฉันคงใจดีกับแกมากไปใช่มั้ย ถึงไม่เลิกยุ่งกับผู้ชายของฉัน"
มารีญาเค้นเสียงถามด้วยท่าทางโกรธจัด มือของเธอบีบที่ปลายคางของฟ้าใสอย่างแรงจนฟ้าใสเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด และหลับตาลงยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ที่เธอไม่ตอบโต้เพราะมันเปล่าประโยชน์ ยิ่งเธอพูดหรือแก้ตัวมากเท่าไหร่ มันก็มีแต่ผลเสีย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงตอนนี้ ฟ้าใสรู้ดีว่ามารีญาเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ฟังเหตุผล และเธอรักว่าที่คู่หมั้นของเธอมาก ใครที่เข้าใกล้ผู้ชายของเธอ ต้องเจอดีทุกคน
ตัวฟ้าใสเองก็พยายามเลี่ยงที่จะเจอกับริวมาตลอด แต่บางโอกาสมันก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะริวเป็นเพื่อนสนิทของจีน่าพี่รหัสของฟ้าใส
" ดูมันสิ อีชั้นต่ำมันกำลังท้าทายเธอด้วยสายตา มันไม่เกรงกลัวเธอเลยสักนิด"
" สงสัยมันอยากได้ชุดใหม่ เอาสีมาราดมันเลย"
O.O! ได้ยินเช่นนั้นฟ้าใสก็เบิกตากว้างพร้อมกับส่ายหน้ารัวๆด้วยท่าทางหวาดกลัว เพราะเธอไม่มีเงินที่จะซื้อชุดใหม่แล้ว เมื่อสองวันก่อนเธอก็พึ่งจะควักเงินเก็บอันน้อยนิดมาซื้อชุดใหม่ หลังจากที่โดนมารีญาราดสีใส่ตัว แน่นอนว่ามันเป็นสีพิเศษที่ไม่สามารถซักล้างออกได้
"ราดมันเลย สั่งสอนให้มันหลาบจำ" เอญ่ารีบส่งถังสีให้มารีญาทันที
"ฉะ..ฉันขอโทษ อย่าทำแบบนี้เลยนะ " ฟ้าใสเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนผิดก็ตาม
" หึ! กลัวเหรอ " มารีญาเหยียดยิ้มร้ายพร้อมกับก้าวเดินมาตรงหน้าฟ้าใส ส่วนฟ้าใสก็ค่อยๆก้าวถอยหลังด้วยท่าทางหวาดกลัว แต่พวกเพื่อนๆก็ช่วยจับล็อคเธอไว้อยู่ดี แล้วก็มีบางคนที่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปลงโซเชี่ยลอย่างสนุกสนาน
"อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคุณริวแล้วจริงๆ" ฟ้าใสบอกไปตามตรง เธอตัดสินใจลาออกงานที่บ้านของริวเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง
"ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนแกก็พูดแบบนี้ ...
...แล้วฉันก็จำได้ว่าฉันบอกให้แกบล็อกเบอร์โทรพี่ริวแต่แกก็ไม่ทำ!!" มารีญาตะคอกเสียงดัง
"อย่าไปพูดกับมันให้เปลืองน้ำลาย จัดการมันเลย!"
"คนอย่างมันไม่รู้จักเจียมตัว เห็นพี่ริวเขาคุยด้วยก็เลยคิดจะจับพี่ริว มันคงอยากตกถึงข้าวสารแน่ๆ"
"แต่เอ๊ะ! หรือว่าจริงๆแล้ว มันคิดจะเทียบชั้นกันเธอ"
"ฝันไปเถอะ! คนอย่างแกไม่มีทางเทียบชั้นกับฉันได้หรอก ยัยผู้หญิงชั้นต่ำ!"
พรึบบบบ!
ร่างของฟ้าใสถูกผลักลงที่พื้นห้องอย่างน่าเวทนา ก่อนที่มารีญาจะสาดสีใส่ร่างของเธอจนเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งตัว เว้นแต่ใบหน้าที่เธอใช้กระเป๋าขึ้นมาปิดไว้ทัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเปื้อนอยู่ดี
ส่วนมารีญาก็ยืนมองผลงานตัวเองอย่างพอใจ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆที่หัวเราะชอบใจ และถ่ายทอดสดผ่านโซเชี่ยลเอายอดวิวกันสนุกสนาน
"ถ้าฉันเห็นแกไปยุ่งเกี่ยวกับพี่ริวอีกหล่ะก็...แกโดนมากกว่านี้แน่!"
มารีญากระชากกระเป๋ารายงานอีกใบของฟ้าใสโยนลงไปที่พื้นด้วยท่าทางสะใจก่อนที่จะเดินไปนั่งที่ประจำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อึก!
ฟ้าใสได้แต่มองคนตรงหน้าด้วยท่าทางเจ็บใจ โดยที่เธอไม่สามารถตอบโต้ได้ สิ่งที่เธอทำได้คือเปิดกระเป๋าที่เปรอะเปื้อนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดทำความสะอาดตรงที่พอจะทำได้ จากนั้นก็ก้าวเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมหยาดน้ำตาและหัวใจที่เจ็บแค้น
ขณะที่ฟ้าใสกำลังจะเดินออกจากห้อง กลุ่มของหนุ่มฮอตก็เดินเข้ามาพอดี และคนที่ขวางหน้าประตูจนเธอต้องหยุดชะงักแล้วก้มหน้าด้วยท่าทางตื่นกลัวคือ มาติน ผู้ชายที่มีอำนาจพอๆกับมารีญา มาตินเป็นแฝดพี่ของมารีญาที่มีนิสัยไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย เขามันตัวอันตรายที่เธอไม่ควรเข้าใกล้
" เฮ้ย! ไปตกถังสีที่ไหนมาวะ!"
เสียงของเจย์ซีชายหนุ่มอีกคนถามด้วยท่าทางแปลกใจ แต่คนโดนถามกลับเอาแต่ก้มหน้าไม่สบตาใคร
" เละขนาดนี้ อย่าบอกนะว่ารายงานของฉันก็เละด้วย"
เจย์ซีถามเมื่อเห็นกระเป๋าที่ใส่รายงานของฟ้าใสเปื้อนสี
"ดะ...เดี๋ยวเราทำให้ใหม่ " ฟ้าใสตอบไปเสียงสั่น
"แต่มันส่งพรุ่งนี้นะเว้ย"
" เราจะทำให้คืนนี้ ขอทางหน่อย "
ฟ้าใสตอบไปทันที ก่อนจะพยายามเดินเลี่ยงออกมา แต่ทว่ามาตินกลับเดินมาขวางหน้าเธอไว้อีกครั้ง และไม่ว่าเธอจะก้าวไปทางไหน เขาก็ก้าวมาขวางไว้
ฟ้าใสเงยหน้าสบตามาตินที่ไม่ยอมเปิดทางให้เธอด้วยสายตาอ้อนวอน ดวงตาของเธอเริ่มพล่ามัวเพราะหยดน้ำตาที่เอ่อล้น แต่มันไม่ได้ทำให้ชายหรตรงหน้ารู้สึกสงสารแม้แต่น้อย
" ติน! "
เสียงของเอญ่าทำให้มาตินละสายตาจากหญิงสาวตรงหน้า และทำให้ฟ้าใสได้โอกาสเดินเลี่ยงออกไปทันที