บทที่ 8 ป่วยจริง
สองวันต่อมา
อีริคเดินอาด ๆ เข้ามาในห้องทำงาน หลังจากเขาไม่ได้เข้าร่วมประชุมเมื่อสองวันก่อน พาเวลโค้งคำนับเล็กน้อยแล้ววางแฟ้มงานลงบนโต๊ะทำงานเจ้านาย
"ใจคอนายจะให้ฉันทำงานทันทีที่มาถึงเลยเหรอ"
"ขออภัยครับนาย แต่นี่เป็นแบบสรุปการประชุมที่ผ่านมาครับ"
อีริคปรายตามองเพียงนิด
"เอาไปไกล ๆ มือกู" เขาเขี่ยแฟ้มงานจนหล่นลงพื้น ขณะเดียวกันประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างไร้มารยาท ทั้งพาเวลและอีริคต่างหันมอง
"โอ๊ะโอ๋...มาขัดจังหวะหรือเปล่าเนี่ย"
"จุ้นจ้านอะไรอีกล่ะ นี่สนามม้าฉันก็ให้เข้าออกตามสบาย แล้วนี่จะมาป่วนออฟฟิศฉันอีกเหรอ"
"เปล่า เห็นพี่เป็นคนยังไงวะ"
"คนวุ่นวายคนหนึ่ง"
"น้อย ๆ หน่อยเหอะ"
"แล้วมาทำไม" อีริคกดเสียงต่ำถามซินซิน เธอยกยิ้มมุมปากยากที่จะคาดเดา
"เย็นนี้พ่อนัดกินข้าวกับเพื่อน แล้วฉันต้องไปด้วยน่ะ"
"เลยจะให้ฉันไปเป็นเพื่อน?"
"ฉลาดมากน้องชาย"
"ไม่" อีริคปฏิเสธ
"ไม่อะไรกัน ไปเหอะนะ ไปนะน้องชายพี่"
"อย่ามาทำให้รำคาญ" อีริคปัดมือซินซินออกจากแขน "เพื่อนเธอก็มี ชวนมันไปดิ"
"ไม่เอา เดี๋ยวพ่อดุเอา"
"นี่..." อีริคชี้หน้าซินซิน "กับกูไม่เกรงใจ แต่กับไอ้เพื่อนคนนั้นกลับเกรงใจนะ"
"ก็กูเกรงใจ" ซินซินเบ้ปากใส่ "ไปไม่ไป" เธอกอดอกถาม
"อืม"
"เก่งมากน้องพี่"
อีริคปรายตามองซินซิน ก่อนจะทำท่ายิงปืนใส่ขมับพี่สาว
"นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงลงไปนอนคุยกับรากมะม่วงแล้ว"
"หึ!" ซินซินแค่นหัวเราะในลำคออย่างนึกขำ "ก็คงตายกันไปข้างหนึ่ง"
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก จากนั้นจึงนั่งทำงานต่อโดยที่ซินซินก็นั่งอยู่ในห้องกับเขา แต่เธอไม่ได้รบกวนหรือสร้างความรำคาญใด ๆ ให้เขา
16:00
พาเวลทำความเคารพเจ้านายแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานในทันที การกระทำผิดสังเกตของลูกน้องหนุ่มสร้างความสงสัยให้ซินซินเป็นอย่างมาก แต่เธอนั้นไม่ได้เอ่ยถามอีริคเพื่อคลายความสงสัยให้ตัวเอง เลือกที่จะจับตามองปฏิกิริยาของน้องชายไปเรื่อย ๆ แทน
"ต้องไปเปลี่ยนชุดไหม" อีริคเงยหน้าขึ้นมาถามซินซิน เผื่อเธอรอให้เขาทำงานเสร็จก่อนแล้วค่อยไปเปลี่ยนชุด ทว่าทำแบบนั้นคงเสียเวลาเปล่า
"ไม่ ไปชุดนี้"
"อืม ดีแล้ว" พอได้คำตอบจากเธอแล้ว เขาจึงทำงานต่ออีกนิดหน่อย พอเสร็จก็ลุกขึ้นไปหาพี่สาวแล้วยื่นมือไปหาเธอ "อะไรกัน ฝ่าดงกระสุนมานับครั้งไม่ถ้วน กะอีแค่พ่อชวนไปกินข้าวเย็นนี้แท้ ๆ กลับกลัวจนแสดงออกชัดเจนแบบนี้เหรอ" รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าคมเข้ม
"แกก็รู้ว่าพ่อไม่ชอบขี้หน้าฉัน"
"แล้วยังไงวะ นี่ลูกนะ"
"..."!
"เลือกเอา จะไปหรือจะอยู่ที่นี่"
"อย่ากดดันได้ไหม"
"ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องทำ มันเป็นเรื่องที่เธอต้องตัดสินใจต่างหาก แต่ก็ช่วยคิดให้เร็วหน่อย ฉันไม่ชอบรอใคร" อีริคหันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้งหนึ่ง เขาเคาะนิ้วกับโต๊ะจนเกิดเสียงดัง เป็นการกดดันซินซินทางอ้อมด้วย
"อืม ไปกันเถอะ" เธอลุกขึ้นแล้วหันไปมองอีริค
"ก็แค่นี้" ชายหนุ่มเลิกคิ้วให้ จากนั้นจึงเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหาพี่สาว เขายกฝ่ามือขึ้นไปขยี้ผมซินซินเบา ๆ "โตเป็นควายแล้ว ทำไมต้องกลัวอะไรที่ไม่ควรกลัววะ"
"ใครจะไปเหมือนแกวะ ขนาดพ่อแม่ยังไม่ค่อยจะสนใจ"
"ฉันเก่งแล้วไง พ่อแม่ก็เลยไม่ห่วง"
"เหอะ!"
จากนั้นทั้งสองคนก็ไปยังที่นัดหมาย ซึ่งเป็นโรงแรมดังแห่งหนึ่งที่พ่อของซินซินจองห้องอาหารเอาไว้ พอมาถึงเธอก็พาอีริคเข้าไปนั่งในโต๊ะอาหาร ซึ่งบรรยากาศในโต๊ะอึมครึมด้วยความกดดันมาก
"อีริคเป็นยังไงบ้างล่ะ ลุงไม่ค่อยเห็นหน้าเราเลย"
"สบายดีครับ" เขาตอบกลับสั้น ๆ
"อืม...ซินซินคงมีเพื่อนสนิทไม่เยอะ ถึงได้พาเรามาด้วย"
"เปล่าหรอกครับ ผมแค่มานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนซิน เพราะบรรยากาศในโต๊ะอาหารมัน..." เขาหยุดพูดเพราะถูกพี่สาวหยิกหน้าขาเป็นการห้ามปราม "เชิญคุณลุงคุยงานต่อเถอะครับ"
อีริคกำหมัดแน่น เขาไม่เคยต้องมานั่งปั้นหน้า ฉีกยิ้มให้ใครแบบนี้มาก่อน และบรรยากาศในโต๊ะอาหารก็แสนจะน่าเบื่อ แต่ก็เข้าใจซินซินว่าเธอต้องการเพื่อนเพื่อแบ่งเบาความน่าอึดอัดใจนี้
ครืด~ ครืด~
อีริคล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขามองชื่อที่โชว์หราอยู่หน้าจอ ก่อนจะกดรับสาย
"ว่าไง"
(นายครับ เอ่อ...ผมว่าคนโปรดกำลังป่วยนะครับ)
"สำออย" อีริคพูดประโยคนั้นในโต๊ะอาหาร ทำให้ทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียว "ไม่มีอะไรครับ ผมขออนุญาตออกไปคุยโทรศัพท์" เขาเดินออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
(ผมว่าไม่ได้สำออยนะครับนาย เธอน่าจะป่วยจริง เอายังไงดีครับ)
"แกล้งป่วยเพราะอยากให้ฉันไปหาหรือเปล่า"
ด้านพาเวลยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างเตียงนอน สายตาเขาจ้องไปที่ร่างเล็ก ซึ่งเธอนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเล็ก เนื้อตัวสั่นเทิ้ม ริมฝีปากแห้งเกรอะกรังและซีดเซียวมาก
"ผมว่าไม่น่าจะแกล้งป่วยนะครับ ปากซีด ตัวสั่นและมีไข้สูงมาก"
(เอายาให้มันกินสิ แค่นี้ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องวะ)
"ขออภัยที่รบกวนเวลานายครับ" เขารู้ว่าอีริคกำลังหงุดหงิด
(นายรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันอารมณ์เสีย)
"คะ ครับนาย" พาเวลวางสายจากเจ้านาย เขาก็ให้ลูกน้องไปเรียกแม่บ้านให้นำยาลดไข้และมาเช็ดตัวให้คนโปรด "เฮ้อ หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่า" เขาไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงอยู่ แต่ที่ผ่านมาคนโปรดพยายามเรียกร้องความสนใจจากอีริคมาโดยตลอด และเธอก็ไม่เหมือนผู้หญิงที่เคยเข้าหาอีริค คนพวกนั้นมักหนีตายหลังจากถูกอีริคข่มขู่และทรมานเจียนตาย แต่คนโปรดกลับวิ่งเข้าหาทั้งที่รู้ว่าอีริคอันตรายแค่ไหน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
คนโปรดปรือตาขึ้นมองเพดานห้องสีขาวโพลนที่คุ้นตา ไม่รู้ว่าเธอหลับไปนานแค่ไหน แต่รู้สึกได้ว่ามีคนยุ่มย่ามกับร่ายกาย พอก้มมองก็เห็นว่ามีเสื้อผ้าชุดใหม่อยู่บนร่างกายแล้ว คงจะเป็นแม่บ้านที่เข้ามาพลัดเปลี่ยนให้
"อาการเป็นยังไง" เสียงของแม่บ้านร่างท้วมที่เคยเจอหน้ากันแล้วสามครั้งเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนโปรดได้สติแล้ว
"ฉันรู้สึกมึนหัวค่ะ" พอขยับตัวจะลุกขึ้น ถึงได้รู้ว่ามือเธอเสียบสายน้ำเกลืออยู่ "สายน้ำเกลือเหรอ"
"อืม คุณพาเวลให้หมอมาตรวจเธอที่ห้อง แล้วให้น้ำเกลือกับยาลดไข้ไปแล้ว"
"ค่ะ"
"จู่ ๆ ทำไมถึงป่วยล่ะ"
"...สงสัยโปรดออกไปนั่งตากหมอกข้างนอกมั้งคะ"
"เธอไม่ได้ป่วยเพราะเรียกร้องความสนใจจากนายใช่ไหม ถ้าคิดแบบนั้น เธอคิดผิดนะ"
"โปรดเปล่า....คิด"
"อาจจะตายเปล่าก็ได้ นายเขาไม่มาสนใจเธอหรอก"
"..." กัดปากเบา ๆ
"และที่เธอรอดตายมาได้เพราะคุณพาเวลพาหมอมารักษา ไข้ขึ้นสูงและตัวร้อนมาก หากเขาไม่มาเห็นเธอ เธอคิดว่าตัวเองจะเป็นยังไง"
"ถ้าจะตายจริง ๆ หนูก็ไม่เสียดายอะไรค่ะ เพราะชีวิตหนูก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอยู่แล้ว"
"เฮ้อ...พูดกับคนรั้นอย่างเธอ ฉันเหนื่อย" แม่บ้านส่ายหน้า จากนั้นจึงนำกะละมังใส่น้ำที่นำมาเช็ดตัวคนโปรดออกไปข้างนอก
หญิงสาวเอนตัวนอนลงอีกครั้ง แล้วถอนหายใจออกพรืดหนึ่ง "ไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สนใจ...ใครมันจะเอาชีวิตตัวเองไปแลกกับความเย็นชาของคุณอีริคกัน" เธอพึมพำกับตัวเอง ทว่าเสียงพูดนั้นกลับทำให้คนที่กำลังดูกล้องผ่านโทรศัพท์มือถือขมวดคิ้วแน่น
"หึ! มารยาจริง ๆ"