บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ของบรรณาการ

เหตุการณ์ก่อนหน้านี้

"เสี่ยจะเอายังไงดีครับ ถ้าไม่มีของไปคืนมัน มันเอาเราตายแน่" ไม่มีคำพูดปลุกใจจากคนรอบกายที่สามารถทำให้เสี่ยธวัตรรู้สึกดีขึ้นมาได้

"อย่าเร่งกูได้ไหมวะ กูกำลังหาทางออกอยู่เนี่ย!" เสี่ยธวัตรตะเบ็งเสียงใส่ลูกน้อง หลายวันมานี้เขาจดจ่ออยู่กับการหาของและเงินไปคืนอีริคตามสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่กลางปีแทบเป็นบ้า คำพูดของอีริคตามหลอกหลอนทั้งยามนอนและยามตื่น

'ถ้าไม่มีของและเงินมาคืนฉันตามกำหนด เตรียมโบกมือลาโลกใบนี้ได้เลย'

คำพูดเหล่านี้เหมือนแผ่นเสียงที่ถูกเล่นวนอยู่ซ้ำ ๆ

"งั้นเสี่ยลองหาของเล่นไปหลอกล่อมันดีไหมครับ เอาไปต่อรองมันก็ได้" ลูกน้องหนุ่มยื่นข้อเสนอให้เจ้านาย "เด็กในสต็อกเราเยอะแยะ ให้มันไปสักคนคงไม่เป็นไร"

"ให้มันตามมาฆ่ากูเร็วกว่าเดิมเหรอ มึงก็รู้ว่ามันไม่ชอบคนบิดพลิ้ว เกิดเอาของไปล่อมันสุ่มสี่สุ่มห้า มีหวังกระสุนได้เจาะกะโหลกกูแน่"

ลูกน้องหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง

"แล้วเสี่ยจะเอายังไง อีกไม่กี่วันแล้วนะครับ"

"โว๊ย! หรือว่ากูจะลองส่งของบรรณาการไปให้มันดูวะ เอาให้มันเล่นขำ ๆ ฆ่าเวลา" รอยยิ้มมีแผนการร้ายกาจผุดขึ้นบนใบหน้าเสี่ยธวัตร คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาไม่ยอมเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับอีริคหรอก สู้ดีส่งลูกน้องไปและหาของเล่นให้อีริคเล่นไปพลาง ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ "มึง!"

"คะ ครับนาย"

"ไปเอาเด็กสักคนในโกดังเรา เลือกคนที่มันหน้าตาดี ๆ หน่อย แล้วเอาไปส่งให้ไอ้เหี้ยนั่น ให้เคี้ยวเล่นเพลิน ๆ น่าจะถูกปากคนอย่างมัน"

"ผมบอกนายแล้ว"

"รีบไป!"

"ครับ"

15:00 วันเดียวกัน

รถซูเปอร์คาร์สองที่นั่งสีแดงตีไฟเลี้ยวเข้ามาจอดลานหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ไม่นานเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่งก็เปิดประตูก้าวลงมาจากรถ ใบหน้าคมเข้มรับกับโครงคิ้วที่ได้อิทธิพลจากพ่อที่เป็นคนอิตาลีโดยกำเนิด นัยน์ตาสีดำขลับได้รับอิทธิพลจากแม่ที่เป็นคนไทยเชื้อสายไทยแท้ อีริคจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของท่านทั้งสอง

ร่างสูงเดินอาด ๆ เข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าเครียดขรึม คว้าไม้ตีกอล์ฟที่อยู่ในถุงเดินไปยังหลังบ้าน

"มันอยู่ไหน" เขาตะโกนถามลูกน้องเสียงเข้ม กรามแกร่งขบเข้าหากันจนสันกรามขึ้นเด่นชัด

"ในห้องทรมานครับนาย"

"..." อีริคเดินตรงไปที่ห้องทรมานพร้อมใช้เท้าถีบประตูเปิดออก เนคไทสีดำถูกคลายออกตามด้วยเสื้อสูทที่เขาถอดโยนไปให้ลูกน้อง นัยน์ตาสีดำขลับจ้องไปที่ร่างของชายหนุ่มผู้ถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ "ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าให้โอกาสแค่ครั้งเดียว"

"คะ คุณอีริคฟังผมก่อนนะครับ"

"ในเมื่อจะตายอยู่แล้ว คำพูดไร้ค่าพวกนั้นก็คงไม่จำเป็น"

"ดะ เดี๋ยวครับ"

"นายครับ เสี่ยธวัตรส่งไอ้นี่มา ให้มันนำของบรรณาการมาให้นายครับ"

"ของไร้ค่าจากคนเจ้าเล่ห์อย่างไอ้ธวัตร ฉันไม่ต้องการ" อีริคง้างไม้ตีกอล์ฟขึ้นแล้วฟาดไปที่สีข้างชายหนุ่มอย่างแรง และฟาดซ้ำ ๆ จนอีกฝ่ายคอตก เสียงร้องโอดโอยดังแหบพร่า "จัดการมัน แล้วไปลากคอไอ้ธวัตรมาให้ฉัน"

"นายครับ ของที่เสี่ยธวัตรส่งมาให้...อยู่ในห้อง"

"..." อีริคปรายตามองลูกน้องที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่ด้วยความหงุดหงิด

พรึบ!

"พูดให้จบ" ฝ่ามือหนาบีบลำคอลูกน้องหนุ่มจนเส้นเลือดบนหลังมือปูดนูนขึ้นมา ลูกน้องจวนจะขาดใจตายเขาค่อยปล่อยให้มันได้หายใจต่อ ร่างกำยำของลูกน้องล้มลงกับพื้น

"ดะ เด็กผู้หญิงครับนาย"

"เอามันไปฆ่าทิ้ง" คำสั่งถูกถ่ายทอดไปยังลูกน้อง ก่อนที่ร่างกำยำจะเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นสอง ความหงุดหงิดใจยังไม่จางหาย เขาจึงระบายมันกับเอกสารกองโตบนโต๊ะทำงาน กระจ่ายเกลื่อนพื้นห้อง "อยากท้าทายอำนาจฉันมากใช่ไหม...แล้วจะได้เห็นดีกันธวัตร"

ในห้องพัก...

หญิงสาวร่างเล็ก เสื้อผ้าเก่าขาดรุ่งริ่งในสภาพอิดโรยนอนหอบหายใจโรยรินอยู่บนพื้น เมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอถูกลูกน้องเสี่ยธวัตรจับตัวมาที่นี่ ร่างกายยังถูกพันธนาการด้วยเชือก และผ้าผูกปิดตา

ไม่นานเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ด้วยถูกจับอยู่ในความมืดมานานสายตาจึงยากที่จะโฟกัสและไม่อาจตอบรับแสงสว่างวาบได้ในทันที

"ลุก ไอ้ธวัตรส่งเธอมายังไง เราก็จะส่งเธอกลับไปแบบที่มันส่งมา แต่ต้องไปแค่ร่างกาย..."

คนโปรดเม้มปากแน่น ค่อย ๆ ลืมตามองคนตรงหน้า แต่กว่าสายตาจะจับโฟกัสได้ก็ถูกหิ้วปีกออกไปจากห้องแล้ว

"ขะ ขอร้องนะคะ โปรดยังไม่อยากตาย" เธออ้อนวอนขอชีวิตจากชายหนุ่ม "จะให้โปรดทำอะไรก็ได้ ขอร้องนะคะ อย่าฆ่าโปรดเลย" ชีวิตที่เหลืออยู่นับว่าทุกข์ทรมานอยู่แล้ว เธอยอมรับในโชคชะตาแสนรันทดตัวเอง แต่ยังไม่อยากตายตอนนี้

คำวิงวอนขอชีวิตของของบรรณาการชิ้นนี้ไม่เป็นที่สนใจของใครทั้งนั้น พวกเขาเพียงทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างเคร่งครัด และมองเธอเป็นเพียงของบรรณาการไร้ค่าชิ้นหนึ่ง มีผู้หญิงมากหน้าหลายตา ทั้งคนรวยและคนไม่รวยอยากเข้าหาอีริค ทว่าจุดจบพวกหล่อนมักไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

กึก!

ปืนสีดำทมิฬถูกชักออกมาขึ้นลำกล้อง เล็งไปที่ร่างเล็กนอนฟุบอยู่กับพื้น

"ขะ ขอร้องนะคะ" คนโปรดยกมือไหว้ชายหนุ่ม ใบหน้าสวยแดงซ่านจากการร้องไห้ น้ำตาแห่งความกลัวเริ่มเอ่อไหลออกจากดวงตาแดงก่ำ

ทว่าเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้น เขากดรับสายเพราะเป็นเบอร์ของอีริค

"ครับนาย"

"ยะ อย่าทำอะไรโปรดเลยนะคะ ไว้ชีวิตโปรดเถอะนะคะ จะให้โปรดทำอะไรก็ยอม"

เสียงหญิงสาววิงวอนขอชีวิตเล็ดลอดเข้าไปในสาย อีริคนั่งและฟังอยู่ครู่หนึ่ง

"หุบปาก!" ปลายกระบอกปืนกดลงบนศีรษะคนโปรด เธอไม่กล้าขยับและปิดปากเงียบ "ขออภัยครับนาย ผมจะรีบจัดการเธอตอนนี้"

(เดี๋ยวก่อน)

"ครับ"

(หึ ฉันชอบเวลาที่คนร้องขอชีวิต)

"ครับ?"

(พาเธอมาหาฉัน)

"ครับ" วางสายจากเจ้านาย เขาก็ชักปืนกลับ "ถือว่าชะตาเธอยังไม่ขาดวันนี้" ใบหน้าคมเข้มพยักให้ลูกน้องพาเธอไป "ให้แม่บ้านจัดการด้วย"

"ครับลูกพี่"

หลายนาทีต่อมา

มีแม่บ้านสองคนถือชุดเข้ามาในห้อง จากนั้นพวกหล่อนก็เริ่มถอดเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งบนตัวคนโปรดออก จับเธอเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดสะอ้าดตามคำสั่ง

"ทะ ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ" คนโปรดพร่ำถามแม่บ้านที่กำลังจับเธอแต่งตัวเหมือนตุ๊กตา ทว่าทั้งสองคนกลับปิดปากเงียบ ทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เธอถามไปเมื่อครู่ และเมื่อแต่งตัวเสร็จก็เดินออกไปจากห้องโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ

เดิมทีเธอเป็นเด็กรับใช้ของเสี่ยธวัตร ทุก ๆ สองเดือนเสี่ยธวัตรจะพาเด็กกำพร้าเข้ามาในบ้านและใช้งานเยี่ยงทาส และให้ข้าวให้น้ำเหมือนสุนัขรับใช้ที่ได้รางวัลในการทำงานดีจากเจ้านาย เธอคือหนึ่งในนั้น จำได้ลาง ๆ ว่าถูกคนชุดดำพาเข้ามาในคฤหาสน์เสี่ยธวัตรตอนที่เธออายุ 12 ปี จากบ้านเด็กกำพร้าแถวชานเมือง

ตลอดเวลาที่อยู่ในนั้น ช่วงเวลาสองถึงสามเดือนเพื่อนของเธอมักถูกพาออกไปจากคฤหาสน์และไม่ได้กลับเข้ามาอีก ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง จนสุดท้ายคนคนนั้นคือเธอ ที่ถูกพาออกมาจากสถานที่ทรมานนั้น รู้แค่ว่าเสี่ยบ้าอำนาจนั่นมอบเธอให้กับเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ เพื่อเป็นของบรรณาการในการลดหย่อนหนี้ที่ติดไว้

ครู่หนึ่งเสียงประตูเปิดก็ดังขึ้น คนโปรดนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่ข้างเตียงนอน ร่างกายเธอสั่นเทิ้มด้วยความกลัว กระทั่งร่างสูงใหญ่หยุดอยู่ตรงหน้า

"ทะ ท่านอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ ไว้ชีวิตหนูเถอะนะคะ"

"หึ!"

เสียงแค่นหัวเราะในลำคอดังขึ้น บรรยากาศภายในห้องอบอวลด้วยรังสีอำมหิตจากคนเบื้องหน้า

"ฉันชอบนะ" เสียงทุ้มต่ำแสนเย็นชาเอ่ยขึ้น ก่อนที่คนตรงหน้าจะย่อตัวลง ยื่นมือมาเชยคางมนเธอขึ้นเล็กน้อย "เวลาที่คนใกล้ตายแล้วร้องขอชีวิต มันดูน่าสมเพชดี"

"..."! คนโปรดช้อนตามองชายหนุ่ม แววตาเธอสั่นระริกด้วยความกลัว

"ชื่ออะไร"

"คะ คนโปรดค่ะ"

"หึ"

"ยะ อย่าทำอะไรคนโปรดเลยนะคะ ให้คนโปรดทำอะไรก็ได้ แต่อย่าฆ่าคนโปรดเลยนะ" หญิงสาวกอดแขนชายหนุ่มไว้ พวงแก้มแดงซ่านแนบลงกับหลังมืออีริคซึ่งเธอไม่รู้เลยว่ากำลังวิงวอนขอความเห็นในจากมัจจุราช

อีริคยกยิ้มยากจะคาดเดา มองใบหน้าและแววตาที่เคลือบด้วยความกลัวด้วยสายตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกหรือความปรานี

"ทำไม..." ฝ่ามือหนาลูบไล้พวงแก้มหญิงสาวอย่างแผ่วเบาจนคนโปรดเคลิ้มและกล้ามองสบตากับเขา ทว่าจู่ ๆ ฝ่ามือหนากลับกำรอบลำคอระหง ออกแรงบีบจนเธอหน้าแดง เริ่มหายใจไม่ออก "ฉันต้องทำตามที่เธอขอด้วย"

"คะ คนโปรดยอมแล้ว ยะ อย่า...ทำอะไรหนูเลยนะคะ" น้ำตาร่วงแหมะลงบนหลังมืออีริค "คะ คนโปรดจะรับใช้คุณท่าน จะรับใช้ด้วยชีวิต"

"หึหึ" อีริคคลายฝ่ามือออกจากคอระหง "ก็อยู่เป็นนี่" เขายืนขึ้นแล้วปรายตามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียดหยาม คนโปรดรีบกอดขาเขาไว้แน่น เพราะเป็นทางเดียวที่เธอจะรอด "แต่ของไร้ค่าแบบนี้ ฉันไม่ต้องการ"

"ให้คนโปรดทำอะไรก็ได้ แต่อย่าส่งคนโปรดกลับไปที่นั่นนะคะ"

"เธอควรจะรู้ไว้อย่างนะสาวน้อย" อีริคยกยิ้ม "ฉันกับไอ้เวรนั่นไม่เหมือนกัน"

"..."!

"ของเล่นชั่วคราวไร้ค่าอย่างเธอ" ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าหวาน "อย่าริอ่านมาต่อกรกับฉัน"

"..."!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel