BAD CATCH 3
@THAILAND, BKK
เจ้าของขาเรียวเดินมาตามทางเพื่อมองหาทางออกที่มีพี่ชายคนเดียวของเธอมารอรับอยู่ อันนาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะจากมันไปนานกว่าสิบปีแล้วก็ตาม
“...” สายตาของหญิงสาวปะทะเข้ากับดวงตาคมที่ส่งสายตานิ่งเรียบกลับมา เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้สึกคุ้นใบหน้าของเจ้าของสายตานั้นอย่างประหลาด เธอรู้สึกคุ้นราวกับเคยเจอเขามาก่อน แต่ทว่าสมองเธอกลับขาวโพลน นึกไม่ออกว่าเธอเคยเจอเขาที่ไหนและเมื่อไหร่
“อันขึ้นรถเร็ว!” เสียงตะโกนดังมากจากรถยนต์คันหรู ทำให้หญิงสาวละสายตาจากใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอบังเอิญเดินชนในตอนที่อยู่สนามบินต้นทาง และไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่สนามบินปลายทางอย่างประเทศไทย
พรึ่บ! หญิงสาวเปิดประตูหลังเอากระเป๋าขึ้นไปวาง ส่วนเธอก็หย่อนตัวนั่งข้างๆ มันอย่างไม่เรื่องมาก
“เหนื่อยไหม” อันวาเอ่ยถามน้องสาวที่นั่งเครื่องบินมาเป็นเวลาหลายสิบชั่วโมง
“นิดหน่อย” หญิงสาวตอบเสียงเรียบก่อนจะหยิบแอร์พอดขึ้นมาฟังอย่างใจเย็น ก่อนสมองของเธอจะสั่งให้หันกลับไปมองชายหนุ่มคนนั้นด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“มีอะไร”
“เปล่า แค่เหมือนเจอคนรู้จัก” หญิงสาวส่ายหัวน้อยๆ แล้วหลับตาลงงีบหลับจากอาการเมื่อยล้า
“เราจะอยู่บ้านกับพี่หรือจะอยู่คอนโด”
“คอนโด” หญิงสาวตอบแบบไม่คิด เพราะเธอต้องใช้สมาธิในการทำงาน ต้องเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากพอสมควร และเธอคิดว่าคอนโดราคาแพงน่าจะตอบโจทย์เธอมากที่สุด
“อยู่ได้ใช่ไหม” อันวาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ถึงแม้ว่าน้องสาวจะโตมากแล้ว แต่การที่กลับมาอยู่ที่ไทยมันก็ยังใหม่สำหรับเธออยู่ดี
“ฉันอายุยี่สิบสามแล้วนะ เรื่องแค่นี้สบายมาก” เธอหวังว่ามันจะสบายอย่างที่คิด เพราะการอยู่คนเดียวสำหรับเธอมันก็ค่อนข้างเป็นปัญหาใหญ่มาก หลับจากเธอสูญเสียพ่อแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ เธอมักจะโหยหาความอบอุ่นอยู่เสมอ แต่มันกลับสวนทางกับการกระทำของตัวเองที่พยายามเก็บตัวไม่พบเจอใคร มันดูย้อนแย้งแต่นั่นแหละความรู้สึกเธอ
ไม่นานนักรถคันหรูของอันวาก็เคลื่อนเข้ามาจอดในลานจอดรถของคอนโดราคาแพงที่เขาซื้อไว้ให้อันนาเพราะรู้อยู่แต่แรกแล้วว่าน้องเธอต้องเลือกแบบนี้
“พวกของที่เราส่งมาจากอเมริกา พี่จัดให้หมดแล้ว เราแค่เข้าไปอยู่อย่างเดียวก็พอ ส่วนเรื่องงานเราก็ทำของเราไปก่อน ค่อยมาคุยเรื่องเปิดบริษัทกันทีหลัง”
“ขอบคุณค่ะ” อันนารับคีย์การ์ดที่พี่ชายส่งให้มาถือก่อนจะเปิดประตูพลางหยิบกระเป๋าเดินทางลงมาจากรถ แล้วเดินเข้าไปในคอนโดตัวเองทันที
หญิงสาวเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมหรูราคากว่าหลายสิบล้านก่อนจะเริ่มเปิดอุปกรณ์อีเล็คทรอนิคส์ของตัวเอง เพื่อเซ็ตอัประบบโดยไม่รอให้หายเหนื่อย
“เฮ้อออ...” อันนาถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากแกะระบบรักษาความปลอดภัยของประตูห้องของเธอและระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดนี้อยู่นานนับสามชั่วโมง พร้อมกับเดินสำรวจรอบๆ ห้อง ดูว่ามีกล้องหรืออะไรซ่อนอยู่หรือไม่ คนที่ทำงานอย่างไม่มีปกติอย่างเธอ ต้องระวังตัวเองเป็นอย่างมาก
(ฮัลโหลลลล)
“ฉันถึงไทยแล้วมีอา”
(ฉันคิดถึงเธอชะมัดเลย)
“คิดถึงก็มาทำงานกับฉัน”
(จริงเหรอ!)
“ไว้บริษัทเป็นรูปเป็นร่าง ฉันยินดีต้อนรับเธอ”
(คิดถึงนะ ยัยน้ำแข็ง)
“อืม แค่นี้ก่อนนะ ฉันจะพักผ่อนแล้วเหนื่อยมาก”
(ดูแลตัวเองด้วย บายยย~) สิ้นเสียงของมีอา มือเรียวก็กดวางสายแล้วหลับตาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงทันที
เช้าวันต่อมา...
ออดดดดดดด! หญิงสาวเจ้าของห้องละสายตาจากจอมอนิเตอร์ตรงหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงกริ่งของห้องตัวเอง ก่อนจะหันกลับมาเปิดกล้องวงจรปิดของคอนโดที่เธอได้ทำการแฮกมันด้วยตัวเองขึ้นมาดู และพบว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คือพี่ชายของเธอ
“มาทำไมแต่เช้า” ทันทีที่ประตูห้องเปิดกว้างด้วยฝีมือเธอ ปากเล็กถามออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ก็เพราะมีเรื่องน่ะสิ!” อันวารีบเดินสวนเข้ามาในห้องแล้วเดินตรงเข้ามาในห้องทำงานของผู้เป็นน้องสาวทันที อันนาขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของพี่ชาย
“มีอะไร” ร่างบางถามอีกครั้งเมื่อพี่ชายเริ่มใช้อุปกรณ์ของเธอโดยไม่ขออนุญาต เธอเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของตัวเอง
“บิทคอยน์...”
“ทำไม?” หญิงสาวถามออกมาทันทีเมื่อได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจ เพราะสิ่งนี้เป็นสกุลเงินดิจิตัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้
“...มีคนแฮกข้อมูลบิทคอยล์ของสำนักใหญ่ไป”
“ว่าไงนะ!” อันนารีบวิ่งไปที่มอนิเตอร์ของตัวเองทันที เธอใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึงนาทีในการเปิดระบบความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์ที่กำลังดูแลอยู่
“ไม่ทันแล้วอัน...ข้อมูลถูกขโมยไปหมดแล้ว”