EP.10 ความรู้สึกที่เพิ่งเคยเป็น
@บ้านสมุทร
TIME 06.00
แสงไฟในห้องนอนถูกเปิดขึ้นแต่เช้า โน้ตบุ๊ก และ....ฉันต้องการรหัส wifi
ฉันแอบด้อม ๆ มอง ๆ ออกไปนอกห้อง วันนี้ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยตั้งแต่ยังไม่หกโมงเช้าดี หลังจากใช้เวลาโดดเรียนไปหลายวัน ฟังคำพูดของ พี่สมุทร คุณเจ้าของร้านเหล้า แล้วรู้สึกต้องลุกขึ้นมาตั้งใจเรียนใหม่
รายงาน การบ้าน การสอบ อันที่จริงมันรอให้เรากลับไปหาอีกเยอะเลย...เฮ้อ!
ฉันส่งข้อความไปบอกพ่อแม่ว่าจะเปลี่ยนหอ พวกท่านก็ไม่ได้มีเวลาสนใจ แค่โอนเงินมาให้เพิ่มเติม แต่อย่างว่า เพราะธุรกิจที่บ้านก็ยุ่งมาก เลยไม่ได้มีเวลาจะมาสนใจปัญหาของเด็กไร้สาระ
ฉันเดินลงไปชั้นล่าง ไปหาว่าโมเดมไวไฟอยู่ที่ไหน เผื่อเขาจะมีการแปะรหัสไว้
“ทำอะไร!!”
“ลุงคะ!!!”
“ทำอะไรอยู่”
“หนูอยากได้รหัสไวไฟค่ะ”
“จะทำอะไรแต่เช้า”
“การบ้านค่ะ แล้วพวกคุณลุง...
โอ้ สุดยอด ออกกำลังกายกันเหรอคะ”
“ใช่ เธอก็มาฝึกมั้ย ร่างกายดูไม่ค่อยแข็งแรงนะ”
“อ่อ...ได้ค่ะ งั้นหนูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
เป้าหมายฉันเปลี่ยนเลย ทุกคนกำลังออกกำลังกายกันอย่างจริงจัง ฉันเคยอยากทำหลายครั้งแล้วล่ะ แต่ไม่มีเพื่อนออกกำลังมันก็ไม่เลยไม่สำเร็จสักครั้ง
-----
“เอส เอส วัน ทู ทรี”
ตอนนี้สนามหน้าบ้านเหมือนลานฝึกทหาร ทำไมคนที่บ้านเขามีแต่ผู้ชายแบบนี้นะ
“เจ้าหนู ยกแขนให้มันตรงหน่อย”
“อะค่า”
“พูดเสียงให้มันกระชับชัดเจน อย่าให้มันยานคาง หน่อมแน้มนัก”
“อะค่ะ”
“ดีมาก ยกให้สุดแขน ขาเหยียดตรง ทุกคนเสียงดังขึ้นอีก”
“โอสท์!!!”
“เจ้าหนู!!!!”
“ค่าา”
“เสียงดัง ๆ”
“ค่ะ!”
ฉัน...ที่เหมือนจะถูกฝึกจริงจังไปด้วย รู้สึกดีมากเลย มีคนมุ่งมั่นมารวมตัวกันออกกำลังกาย พวกเขาต้องเป็นพวกทหาร หน่วยรักษาความปลอดภัย หรืออาจจะเป็น...บอดีการ์ด
“โอ๊ะ!”
“อะไร เจ้าหนู อย่าเสียสมาธิ กำหมัดแล้วส่งพุ่งตรงไปด้านหน้า”
“เพี๊ยะ”
“โอ๊ย”
คุณลุงเอาไม้ตีมือฉันง่า....
“ไม่ต้องกำแน่น ไม่ได้ฟังเหรอเจ้าหนู กำหลวม ๆ แล้วต่อยไปในอากาศ แบบนี้”
ขวับ ขวับ !!!
คุณลุงโชว์ชกลม หมัดหนึ่งสองในอากาศ
“โอยยย หนูไม่ไหวแล้วค่ะ”
“หัวหน้าครับ ปล่อยน้องไปเถอะครับ
น้องไม่ใช่บอดีการ์ดอย่างพวกเรานะ”
พวกเขาเป็น บอดีการ์ดจริงด้วย!!!
“ก็ได้...ไปพักได้”
“ฮื้ออ”
“พูดให้มันดี ๆ”
“ขอบคุณค่ะคุณลุงหัวหน้า”
โอ้โห...วันนี้ฉันเป็นทหารผ่านศึกรึเปล่า...
แต่ก็รู้สึกดีนะ ถึงจะเหนื่อยมาก ๆ
ถ้าทำแบบนี้ทุกวัน ฉันต้องการเป็นคนแข็งแกร่งจนไม่มีใครกล้ามายุ่งแน่ ๆ
เราต้องพยายามจำท่าเอาไว้ไปทำเอง...
ฉันลากร่างขึ้นชั้นบนอย่างหมดแรง ปวดขาไปหมดเลย หรือจะมีซิกแพคเหมือนทุกคนแล้วนะ
“โอ๊ย!!!”
หน้ากระแทกอะไรสักอย่างอย่างจัง
เจ็บชะมัด วันนี้ร่างกายพังแน่
“ใจลอยอะไร”
โอ๊ะ...เสียงนี่ ฉันรีบดันแว่นเข้าที่
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
มือเขากำลังเอื้อมมาจับให้ฉันยืนให้ดี ๆ
แต่ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อย่า ๆ ๆ ๆ อย่าจับตัวหนูค่ะ”
“ทำไม!”
“อย่า ๆ ๆ อย่าจับค่ะ”
เจ้าของร้านกางมือแข็งค้างไว้กลางอากาศ ไม่กล้าแตะต้องอะไร เอาแต่ถามว่าทำไม...แล้วฉันก็รีบวิ่งเข้าห้องตัวเองไปเลย
ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ
“วีรินทร์ เป็นอะไร!”
ทำไมเวลาเขาเรียกชื่อแล้วมัน...ฟังแล้วรู้สึกชื่อเพราะจัง
“ไม่เป็นอะไรค่ะ” ฉันรีบตอบกลับไป
“เปิดประตู ให้ฉันดูหน่อยเธอเป็นอะไร เธอกลัวอะไร!!!”
ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ
แอ๊ด....
ฉันชะโงกมาแต่หัวเพื่อคุยกับพี่เขา
“เธอเป็นอะไร เปิดประตูกว้าง ๆ ซิ ให้ฉันดู”
“หนู...ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ คือ...เมื่อกี้ หนูไปออกกำลังกายกับพวกคุณลุงมา”
“หรือเธอบาดเจ็บ!!!!! มันไม่ใช่การออกกำลัง มันเป็นการฝึกร่างกาย เธอไป...จะบ้าเหรอ เปิดประตูกว้าง ๆ ฉันจะเข้าไปดูให้ บาดเจ็บตรงไหน”
เสียงเขาไม่ได้ดูร้อนใจ แต่ดูเป็นห่วง และเป็นคำสั่งเด็ดขาดด้วยที่ต้องดูให้ได้
“ไม่ใช่ค่ะ แค่...”
“แค่อะไร ปัดโถ่เว้ย!”
พลั่ก!!!
พี่สมุทรผลักประตูดันเข้ามา ปังเดียว
ฉันเซแถด ๆ ๆไปด้านหลังประตู แล้ว....
หมับ!!
ทั้งมือทั้งแขนและทั้งตัวของฉันถูกจับหมุนดึงกลับเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“เกือบล้มแล้ว โทดที” พี่สมุทรพูด
เหมือนกับทุกอย่างคือภาพสโลว์สำหรับเขา ส่วนฉันมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ทำไมเขาเคลื่อนไหวตัวได้ว่องไวขนาดนี้
“ปล่อยหนู!!!”
“เธอเป็นอะไร ฉันไม่ปล่อย จนกว่าเธอจะบอก”
ฉัน....ไม่อยากอยู่ในอ้อมแขนเขาแบบนี้
ใบหน้าคุณเจ้าของร้านก้มมาดูจนแทบชิด
“เธอเป็นอะไร เจ็บตรงไหน” เสียงทุ้มต่ำของผู้ใหญ่
“ไม่ใช่ค่ะ หนูแค่...ปล่อยหนูก่อนนะคะ”
ฟุ่บ!!
ฮื้ออ...หมดกัน...ไม่ให้จับ แต่ดันอุ้มทั้งตัว...
พี่สมุทรจับฉันอุ้มขึ้นแล้วพาไปนั่งที่เตียง พลางจับแขนขาดูไปหมดทุกอย่าง
ฉันไม่เคยถูกใครแตะเนื้อต้องตัวจริงจังแบบนี้...
แล้ว...เขาก็เป็นผู้ชาย (ที่หล่อมาก ๆ ๆ ๆ ด้วย)
“ฮื้อ...”
“ร้องทำไม เจ็บตรงไหน พูดสิ!” เขาสั่ง ถึงจะไม่ใช่เสียงดังให้ชวนสะดุ้ง แต่หัวใจฉันเต้นแรงเลย
ต้องพยายามระงับความตื่นเต้นไว้
“คือ...เอ่อออ....พี่สมุทรคะ”
“ว่าไง”
เขาจับใบหน้าฉันเบา ให้หันมาให้เขาดูชัด ๆ ว่าไม่มีร่องรอยบาดเจ็บตรงไหน
ตอนนี้เห็นหน้าเขาชัดมากเลย
นี่อายุเท่าไรกันเนี่ย...ทำไมเหมือนรุ่นพี่ที่มหาลัยแบบนี้ล่ะ
นี่เขาชนะพี่เบนซ์เดือนคณะเราได้สบาย ๆ เลยนะเนี่ย
“หนู...อายนะคะ เหงื่อเต็มตัวเลย หนูไม่อยากให้จับตัวหนู”
แป่วววววว!!!!!
ใช่ค่ะ มันเรื่องแค่นี้ แต่หนูอายมาก ๆ เลยนะ
สีหน้าเขาตกใจ รีบปล่อยทุกอวัยวะของฉันลงกับที่นอนให้ครบทุกส่วน
ฉันไม่เคยอายใครนะถึงหน้ามันหน้าเยิ้ม เหงื่อออกในวิชาพละ หรือเราจะเลอะเทอะเพราะทำกิจกรรม แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกอาย...ไม่อยากให้เขาเห็นในสภาพนี้
“ก็ไม่พูดแต่แรก นึกว่าบาดเจ็บตรงไหน อย่าไปฝึกซี้ซั้ว ไอ้ฮันก็ฝึกเด็กไปมั่ว ไม่เจ็บตรงไหนก็ดีแล้ว” เขาค่อย ๆ ละตัวเองออกไปให้มีระยะห่างจากฉันให้...ค่อยยังชั่ว...
“ค่ะ”
“แล้วอีกอย่าง...ผู้หญิงมีเหงื่อ ก็ไม่ได้แย่หรอกนะ”
เสียงพูดนั้น ทำให้ฉันอยากเงยหน้าไปมอง
“ไม่แย่เหรอคะ เหม็น น่าเกลียด เหนอะหนะ”
เขาไม่ได้ยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าดุอะไร
แค่มอง....ใช่แค่มอง....แค่นั้นก็ทำให้หัวใจจะหลุดออกมาแล้ว
เขาเดินไปดูโต๊ะทำงานที่ฉันเปิดโน้ตบุ๊กทิ้งไว้ แล้วก็กดอะไรที่หน้าจอให้
“ฉันใส่พาสเวิร์ดไวไฟให้แล้ว”
“โอ๊ะ! รู้ได้ไงว่าหนูอยากได้พาสไวไฟ”
“ก็ไม่ได้ยากอะไร...เธอจะทำการบ้านเหรอ”
“ค่ะ”
“จะทำถึงกี่โมง”
“ก็...ปกติจะ...โอ๊ะ นี่สายขนาดนี้แล้วเหรอ ปกติหนูจะทำการบ้านตอนหกโมงเช้าถึงเก้าโมง แล้วกินข้าว
หลังจากนั้นก็ออกไปทำงานพิเศษถึงบ่ายสามครึ่ง แล้วก็ไปเรียนสี่ครึ่ง เลิกทุ่มครึ่งแล้วไปสอนพิเศษต่ออีกชั่วโมงในบางวัน ประมาณนี้ค่ะ
แต่วันนี้ต้องไปหาหอ เดี๋ยวหนูต้องรีบอาบน้ำ เดี๋ยวเอาการบ้านไปทำที่มหาลัย
เอ่อ....พี่สมุทรคะ ช่วยออกจากห้องไปก่อนได้มั้ยคะ หนูจะอาบน้ำ”
ฉันรีบช่วยเชิญ ช่วยดึง คุณเจ้าของร้านออกจากห้อง ก่อนที่สายไปกว่านี้
“ฉันจะพาไปหาหอเอง”
“ฮะ!!! จริงเหรอคะ”
“ใช่ เธออยากไปอยู่แถวไหนก็หามา เดี๋ยวพาไปดู”
“ขอบคุณนะคะ รบกวนคุณเจ้าของร้านอีกแล้ว”
“เอ่อ...”
“คะ?”
“เธออยู่หอคนเดียวเหรอ”
“ค่ะ”
“พ่อแม่ไปไหน”
“อยู่บ้านค่ะ ทำงาน”
“แล้ว ไม่มีรูมเมตเหรอ”
“ไม่มีหรอกค่ะ ที่ภาคมีแต่คนรวย ๆ ไม่มาหารค่าห้องกันหรอกค่ะ
แล้วถึงพี่จะเป็นคนพาไปหา แต่ฉันไม่มีเวลาหาหลายวันหรอกค่ะ ต้องหาให้จบในวันเดียว
ดังนั้น....ไว้ค่อยคุยกันนะคะ”
ปัง!!!!
ฉันปิดประตูไล่เจ้าของบ้านออกไป
ความรีบ ก็เรื่องหนึ่ง
แต่...เพิ่งเข้าใจความรู้สึกของการอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสอง...ที่ไม่น่ากลัวแต่ชวนให้ใจเต้นแรง
และฉัน...เพิ่งเคยเป็นแบบนี้