#บทที่ 4ฝันตื่นหนึ่ง
คำนึงนิจพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งของเธอเพื่อหนีจากฝันร้ายแต่หลังจากพยายามมาหลายครั้งจนเหมือนเวลาผ่านมานานชั่วกัปชั่วกัลป์ คำนึงนิจฝันว่าตัวเองถูกยิงตายขณะทำภารกิจช่วยเหลือตัวประกันแต่พอรู้สึกตัวว่าร่างกายปวดระบมไปหมดก็คิดว่าที่แท้เมื่อกี้เธอฝันไปนั่นเอง แต่พอเธอพยายามจะลืมตาก็ยังไม่สามารถลืมตาตื่นได้สักทีแม้แต่แขนขาก็ยกไม่ขึ้นหัวก็ปวดตุบๆ
หรือนี่คืออาการที่เขาเรียกว่า ถูกผีอำ แต่คำนึงนิจสอบผ่านหน่วยรบพิเศษมาได้ย่อมไม่เชื่อเรื่องผีสาง
เธอพยายามส่งเสียงร้องดังๆออกมาแต่ในความเป็นจริงนั้นร่างหญิงสาวผอมบางซีดเซียวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงส่งเสียงอึกอักอยู่ในลำคอเท่านั้น คำนึงนิจพยายามดิ้นรนตื่นจากความฝันอีกครั้งเธอถีบตัวขึ้นจากที่นอนร่างของหญิงสาวกลิ้งตกจากเตียงทันที
"โอ้ย!"
คำนึงนิจลืมตาตื่นขึ้นมาได้สำเร็จในที่สุดเธอเจ็บไหล่ด้านที่ลงกระแทกพื้น พอลืมตาได้สำเร็จสิ่งแรกที่เห็นหลังคาห้องมืดทึบ กลิ่นอับชื้นผสมกลิ่นเผาฟืนชวนให้อึดอัดเมื่อกี้นี้เธอคงตกลงมาจากเตียงที่มีช่องสุมไฟด้านล่างสูงเกือบเมตรนี้สินะ
กวาดตามองไปรอบๆผนังห้องสีเหลืองกระดำกระด่าง ผนังดินเหนียว เอ๊ะ เธอยังอยู่ในหมู่บ้านชาวม้งติดชายแดนพม่าเหรอเพราะบ้านของชาวม้งบางครอบครัวก็ใช้ดินเหนียวก่อทำผนังบ้าน
ก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่าตัวเองกำลังอุ้มเด็กฝาแฝดวิ่งหนีกลุ่มคนร้ายอยู่นี่นาแล้วเธอก็โดน… ยิง เอ ถ้าเธอโดนยิงก็ไม่น่าจะลุกขึ้นมาได้นี่หรือจริงๆแล้วเธอแค่ฝันไป
คำนึงนิจยกมือลูบตามหน้าอกและลำตัวของตัวเอง อืม ไม่ยักเจ็บตรงไหนแฮะหรือเธอจะแค่ฝันไป คำนึงนิจมองไปรอบๆห้องมืดทึบนี่อีกครั้ง
ที่นี่มันคือที่ไหน ถ้าเธออยากรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็คงต้องลุกออกไปข้างนอกถามคนอื่นดูแต่พอคำนึงนิจขยับตัวก็หน้ามืดวิงเวียนจนทิ้งตัวลงพื้นตามเดิม ใช้แขนยันพื้นประคองตัวเอาไว้ ยกมือขึ้นมาจะลูบหน้านวดขมับให้คลายอาการหน้ามืดก็มองเห็นนิ้วเรียวกับข้อมือผอมซีดจนแทบเห็นกระดูก
"หะ"
นี่มันมือใครทำไมผอมแห้งจนน่ากลัวแบบนี้
ไม่ทันจะได้คิดอะไรประตูห้องก็ถูกผลักเปิดเข้ามา เด็กสาวรูปร่างผอมถือชามเก่าใบหนึ่งเดินเข้ามาก่อนพูดอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเธอนั่งอยู่กับพื้น
"อ๊ะ พี่สะใภ้ พี่ลงจากเตียงเองทำไมคะ พี่มานั่งตรงนี้ก่อนค่ะตอนเช้ามืดฉันเข้ามาดูพี่กับหลานๆแล้วรอบหนึ่งเห็นว่าพี่ยังไม่ตื่นฉันเลยเข้าครัวไปต้มโจ๊กกับน้ำขิงมาให้พี่กินค่ะ" คำนึงนิจมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างมึนงงของจริง
อะไรนะ เด็กคนนี้เรียกใครว่าพี่สะใภ้ แล้วไอ้การแต่งตัวของเด็กสาวตรงหน้านี้ทำไมมันดูประหลาด ถึงหมู่บ้านม้งจะอยู่ติดพรมแดนแต่ก็ไม่ได้ล้าหลังขนาดนี้
เธอยังเคยเห็นเด็กหนุ่มสาวในหมู่บ้านใส่กางเกงยีนเสื้อยืดกันแต่ชุดที่เด็กสาวคนนี้ใส่เป็นเสื้อคอจีนแขนยาวสีน้ำเงินกับกางเกงขายาวสีเดียวกัน มองจากร่องรอยที่ผ่านการซักหลายครั้งจนเก่าซีดตามเนื้อตัวก็ไม่สวมเครื่องประดับแบบที่ชาวม้งนิยมสวมกัน
"เธอเป็นใคร ที่นี่คือที่ไหนแล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเหรอ?"
เด็กสาวทำหน้าตกใจเหมือนโดนผีหลอกยกหลังมือมาทาบหน้าผากของคำนึงนิจ "พี่สะใภ้คะ! ไข้สูงจนเพ้อแล้วแน่เลย ฉันหยางหงไงคะน้องสามีของพี่ไงพี่เป็นไข้มาหลายวันเพราะบ้านเราไม่มีเงินพาพี่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลอาการพี่ถึงได้แย่ลงแบบนี้
พี่สะใภ้กินโจ๊กก่อนนะคะเดี๋ยวฉันจะออกไปเอาน้ำข้าวมาให้เสี่ยวจินเสี่ยวเป่ากินก่อน พี่เป็นไข้หลายวันเด็กๆก็ไม่มีน้ำนมกินหลายวันก็พลอยมีอาการซึมๆคงเพราะไม่ได้กินนมแม่"
เด็กสาวพูดรัวเร็วสีหน้าเคร่งเครียดยกชามตักโจ๊กเป่าป้อนพี่สะใภ้ คำนึงนิจอ้าปากกินโจ๊กโดยอัตโนมัติถึงเธอจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงเรียกตัวเองว่าพี่สะใภ้ก็เถอะ
"พี่สะใภ้เพิ่งคลอดลูกแท้ๆแต่กลับไม่ได้อาหารบำรุงดีๆ เงินที่พี่ใหญ่ส่งมาลุงรองก็อ้างว่าใช้ซื้อยาบำรุงให้ปู่ย่าหมดแล้ว แค่คลอดลูกแฝดร่างกายพี่ก็แทบไม่รอดแล้ว"
หยางหงยังคงบ่นพึมพำอย่างอัดอั้น เธอสงสารพี่สะใภ้ของตัวเองจริงๆมีไข้สูงจนถึงกับหลงลืมจำเธอไม่ได้
"หือ ใครคลอดลูกแฝดนะ" คำนึงนิจงงไปหมดแล้วเด็กคนนี้กำลังพูดถึงใครกัน
"โฮๆๆ พี่สะใภ้พี่ป่วยหนักจนลืมว่าตัวเองเพิ่งคลอดลูกเหรอคะ นั่นไงคะ เสี่ยวจินเสี่ยวเปาลูกฝาแฝดของพี่ ฮือ ฮือ อาการพี่แย่ลงขนาดนี้ฉันต้องไปบอกแม่แล้ว"
เด็กสาวมองหน้าคำนึงนิจก่อนจะส่งเสียงร้องโฮดังลั่นชี้มือไปที่เตียงเตาด้านข้าง พี่สะใภ้ของเธออาการหนักมากจริงๆแม้แต่ลูกตัวเองก็จำไม่ได้
"พี่มีไข้หนักหลายวันเลยให้นมเด็กๆไม่ได้ แม่เลยให้ฉันต้มน้ำข้าวให้หลานดื่มแทนน้ำนมแม่มาหลายวันแล้ว เมื่อวานฉันจับตัวดูเหมือนเสี่ยวจินเสี่ยวเป่าจะตัวอุ่นๆฉันก็ได้แต่เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ตามมีตามเกิด
พี่ก็ไข้สูงจนเพ้อไม่ได้สติเหมือนกันฉันได้แต่ต้มยาหม้อให้พี่กินเท่านั้นเพราะอารองไม่ยอมให้เงินฉันไปซื้อยาเม็ดของโรงพยาบาล" พูดไปหยางหงก็ยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตาป้อย
คำนึงนิจหันไปมองบนเตียงตามมือเด็กสาวเธอเห็นเด็กทารกสองคนถูกห่อผ้าเอาไว้มิดจนเห็นแค่ใบหน้าสีแดงยับย่นโผล่ออกมา มีเด็กทารกอยู่ในห้องกับเธอมาตลอดเหรอ ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรตั้งแต่ฟื้นมาเลยล่ะเธอไม่ได้ยินเสียงขยับตัวไม่ได้ยินเสียงหายใจ คำนึงนิจลุกเดินไปก้มหน้าดูเด็กทารกฝาแฝดที่นอนหลับตานิ่งบนเตียง
'นี่มันเรื่องอะไรกันแน่! คำนึงนิจเธอจะมีลูกได้ยังไง แถมยังเป็นลูกแฝดอีกมันจะเป็นไปได้ยังไง นี่ต้องเป็นภาวะฝันซ้อนฝันที่คนชอบพูดถึงกันแน่ๆฝันว่าตัวเองตื่นแล้วแต่ความจริงยังนอนหลับอยู่'
'ใช่แล้วทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน เด็กสาวชื่อหยางหงก็คือความฝัน ลูกฝาแฝดชื่อเสี่ยวจินเสี่ยวเป่าก็เป็นความฝันเหมือนกัน'
อยู่ๆเด็กทารกฝาแฝดที่นอนนิ่งเหมือนไม่หายใจแล้วก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกัน ตากลมแป๋วเหมือนเม็ดลำไยสองคู่จ้องเธอเป็นตาเดียวก่อนปากเล็กๆสีแดงจะอ้าออกและ
"แง! แง แง้!"
คำนึงนิจที่กำลังก้มมองเด็กในตอนแรกตกใจเสียงร้องผงะตัวออก ดวงตาสองคู่ของเด็กฝาแฝดคล้ายกับกำลังต่อว่าเธอ เพราะลุกยืนกะทันหันจึงเสียหลักก่อนอาการหน้ามืดจะเข้าจู่โจมอีกครั้ง เธอทิ้งตัวลงกับพื้นเต็มแรงเสียงหัวกระแทกพื้นห้องดังปัก
'บ้าเอ้ย! หนูนิดนะหนูนิดก่อนหน้าก็เพิ่งตกเตียงหัวไหล่กระแทก ตอนนี้ก็มาล้มหัวกระแทกพื้นอีกอะไรมันจะซวยขนาดนี้' คำนึงนิจก่นด่าความซวยของตัวเอง
"พี่เซียวนั่ว! พี่สะใภ้ อาเหม่ย อาเฉิงเข้ามานี่เร็ว!"
อ้อ เด็กคนนี้เรียกเธอว่าเซียวนั่ว คำนึงนิจคิดก่อนจะวูบหมดสติ เธอตกอยู่ในอาการฝันอีกครั้ง
คราวนี้เธอเห็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอชื่อเซียวนั่ว ชื่อเดียวกับเด็กชื่อหยางหงร้องเรียกเมื่อครู่ คำนึงนิจว่าหลังจากฝันรอบนี้เธอคงจะตื่นขึ้นมาแล้วเจอว่าตัวเองกำลังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจแน่ ถ้าอย่างนั้นเธอต้องรีบฝันรีบตื่น