#บทที่ 3สิ้นคำนึง
"ปล่อยฉันนะคะพี่สาว" ร้อยตำรวจตรีฟ้ารดาถูกฝ่ามือแข็งเหมือนคีมบีบแน่นจนเจ็บ
"ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ฉันเป็นลูกคนสุดท้อง เอาเถอะ หุบปากของเธอเงียบๆทำงานของเธอไป แต่อย่าคิดมาขวางทางภารกิจของฉัน" พูดจบเธอก็สะบัดมือตบแก้มอีกฝ่ายเสียงดังเผียะ
ตั้งแต่สมัยก่อนเรื่องตบตีใช้กำลังเธอไม่เคยแพ้ใคร ตอนนี้ยิ่งไม่แพ้แต่เธอไม่คิดใช้กำลังตบตีแย่งผู้ชายแค่คนเดียว แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็อยากจะอ้วกขึ้นมาอีกแล้ว
"ใครอยากจะรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยก็รอ ใครอยากจะไปกับฉันก็ตามมา" พูดแล้วคำนึงนิจก็หันหลังเดินออกไปอีกครั้ง
เด็กฝาแฝดสองคนนี้ก็ช่างรู้ความตั้งแต่เด็กจริงๆ เห็นคำนึงนิจจิกหัวด่าคนก็ชมอย่างสงบเสงี่ยมไม่งอแงเลยสักนิดหรือจะเสพติดเรื่องตื่นเต้นไปแล้ว
"แต่ฉันคงปล่อยพี่สาวไปไม่ได้หรอกนะคะ" คำนึงนิจไม่ทันได้คิดว่าฟ้ารดาหมายความว่าอะไรเธอก็ได้ยินเสียงฟ้ารดาร้องตะเบ็งขึ้นสุดเสียง
"พี่สาว! พาฉันหนีไปด้วยนะ พี่สาวเป็นตำรวจจะทิ้งพวกเราไม่ได้นะคะ!" ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน คำนึงนิจตระหนักได้ทันทีว่าฟ้ารดาต้องการจะทำอะไร เธอมองอดีตเพื่อนร่วมงานอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เสียงยิงปืนดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนถึงบริเวณหน้าตัวบ้าน ส่างปอร้องบอกให้ลูกน้องเปิดประตูบ้านไปเอาเด็กฝาแฝดทายาทเจ้าสัวย้งออกมา
ลูกน้องรับคำรีบวิ่งมาเปิดประตูบ้านเข้าไปมองเห็นภาพพรรคพวกตัวเองนอนตาเหลือกขาวบนพื้นทั้งคู่ ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องตะโกนว่ามีตำรวจหญิงแฝงตัวมาและกำลังจะพาเหยื่อสินค้ามนุษย์ของพวกตนหนีออกไปก็หันไปร้องบอกลูกพี่ตนที่อยู่ด้านนอก
"พี่ส่างปอมีตำรวจแฝงตัวมากับพวกผู้หญิง! มันกำลังจะพาสินค้าของเราหนีไปแล้วพี่!"
เสียงปืนดังรอบตัวจนหูแทบดับเจ้าหน้าที่ตำรวจโอบล้อมพื้นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ลูกน้องของตนถูกยิงตายไปหลายคนแล้วเหลือคนยิงต้านอยู่ไม่ถึงสิบคน
ส่างปอได้ยินลูกน้องร้องบอกว่ามีตำรวจแฝงตัวมาแอบช่วยเหยื่อหลบหนี ก็พุ่งเข้ามาด้านในด้วยความรวดเร็วและยิงขู่ใส่คำนึงนิจที่ลูกน้องชี้เป้าบอกว่าเป็นสายลับทันที ส่างปอยังต้องการเด็กฝาแฝดมาเป็นตัวประกันให้พวกมันหลบหนีออกไปได้ถ้ายิงโดนเด็กตายจะเหลืออะไรเอาไว้ต่อรองล่ะ
คำนึงนิจร้องบอกให้เด็กๆและผู้หญิงก้มหมอบลงที่พื้น เสียงกรีดร้องด้วยความกลัวดังระงมส่วนตัวคำนึงนิจวิ่งหนีออกไปพ้นครัวได้แล้วโถงบ้านแคบขนาดนั้นไม่มีที่ให้เธอใช้กำบังหลบได้เลย
ส่างปอและลูกน้องที่ยังเหลืออีกสองคนวิ่งตามออกไปท่ามกลางความมืดของเวลาสามทุ่มปกคลุม พวกมันต้องได้ตัวเด็กฝาแฝดมาพวกมันถึงจะรอด
ตำรวจจัดการคนร้ายที่คอยซุ่มยิงสกัดหน้าประตูบ้านได้เรียบร้อยรีบกรูเข้าไปในตัวบ้าน แบ่งกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อทุกคนออกไป อีกส่วนรีบตามออกไปทางครัวด้านมืดๆ ที่มีคนชี้บอกว่าหัวหน้าคนร้ายและลูกน้องที่เหลือหนีออกไปทางนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายรีบวิ่งตามกันออกไปทันเห็นหลังส่างปอและลูกน้องเป็นเงาตะคุ่มไหวๆอยู่ไม่ไกลมีผู้หญิงที่น่าจะเป็นผู้หมวดนิดวิ่งอยู่ด้านหน้า
"ปัง!"
เสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้นเงาร่างของร้อยตำรวจโทคำนึงนิจชะงักก่อนทรุดตัวค่อยๆ ล้มลงนอนกับพื้น
พวกส่างปอหยุดวิ่งหันมองหน้ากันท่ามกลางความมืด พวกมันยังไม่ได้ยกปืนลั่นไกใส่ตำรวจหญิงคนนี้เลยสักคนแล้วเธอถูกยิงได้ยังไง เจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งตามมาทันเข้าชาร์ตตัวส่างปอและลูกน้องใส่กุญแจมือ พวกส่างปอโวยวายเสียงดัง
"พวกกูไม่ได้เป็นคนยิงผู้หญิงคนนี้นะโว้ย!"
"ว1 เรียกๆ มีเจ้าหน้าที่ถูกยิง ย้ำ! มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงอาการสาหัส ส่งเจ้าหน้าที่พยาบาลมาด่วน!"
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยกันพลิกตัวคำนึงนิจที่นอนหายใจรวยรินขึ้นมา เปิดไฟฉายส่องตรวจประเมินบาดแผลกระสุนถูกยิงเข้าด้านหลังทะลุกลางอกเลือดไหลไม่หยุด เธอหอบหายใจแรงพยายามพูด
"ดะ ดะ เด็ก ชะ ช่วย ดะ เด็ก" คำนึงนิจพยายามบอกให้เจ้าหน้าที่ช่วยเด็กออกไปก่อน เธอได้กลิ่นเหมือนสนิมเหล็กคละคลุ้งเต็มปากเธอไปหมด เธอไม่ชอบรสชาติแบบนี้เลย
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายช่วยกันปลดสายเป้สะพายเด็กออกจากตัวเธอแต่พบว่าเด็กทารกทั้งสองกำอกเสื้อเธอเอาไว้แน่น และเด็กหลับตาสนิทไม่ส่งเสียงตอนมีคนดึงขยับตัวแม้แต่น้อย ตำรวจนายหนึ่งยื่นนิ้วชี้ไปกดลำคอของเด็กทารกทั้งสองคนก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวให้กับเพื่อนที่มองอยู่ จับพลิกตัวเด็กส่องไฟฉายดูมีเลือดไหลออกจากช่วงลำตัวของเด็ก
"เด็กทารกเสียชีวิตแล้วกระสุนทะลุออกจากตัวหมวดนิดเข้าที่ลำตัวของเด็กที่หมวดนิดอุ้มซ้อนกันอยู่"
"ชะ ช่วย ดะ เด็ก ดะ ด้วย" คำนึงนิจเหมือนไม่ได้ยินที่นายตำรวจพูดพยายามเอ่ยอย่างยากลำบาก ภารกิจของเธอคือต้องช่วยเด็กทารกทั้งสองคนออกไปอย่างปลอดภัย
"หมวดนิดครับ เด็กทนพิษบาดแผลไม่ไหวแล้ว แต่หมวดนิดต้องอดทนให้ได้นะครับ" เสียงไซเรนรถตำรวจดังปนกับเสียงฝีเท้าสับสนของคนมากมายเดินเข้าออก สติรับรู้ของคำนึงนิจค่อยๆ เลือนรางเหมือนเธอถูกใครสักคนดึงไปสวมกอดจนหายใจไม่ออก
"หนูนิดครับ หนูนิด!"
"หนูนิดได้ยินเฮียไหม! เฮียตงเอง หนูนิดอย่าทิ้งเฮียไปนะ!" อะไรเหี้ยๆนะ เสียงหึ่งๆกวนใจดังอยู่ข้างหูคำนึงนิจ
เธอไม่ได้กลับบ้านเกือบปีแล้วเพราะเป็นคนโกหกไม่เก่ง ถ้าพ่อแม่เห็นหน้าจะต้องรู้แน่ว่าเธอเลิกกับเฮียตงคนรักที่คบหากันมาหลายปี เธอเลยเลือกหนีปัญหาหนีความผิดหวังเจ็บปวดแทบขาดใจ ด้วยการเอาตัวเองไปสมัครเข้าหน่วยรบพิเศษทรมานร่างกายตัวเองจะได้ลืมความเจ็บปวดจนใจแตกสลายนี้ไปซะ
"หนูนิดอย่าทิ้งเฮียนะ เฮียตงรักหนูนิดคนเดียว หนูนิดอดทนไว้นะอยู่กับเฮียก่อน อยู่ให้เฮียชดใช้ที่ทำให้หนูนิดเสียใจไปตลอดชีวิตของเฮียเลย"
ร่างของคำนึงนิจถูกเจ้าหน้าที่กู้ชีพใช้เครื่องปั๊มไฟฟ้าช็อตกระตุ้นจนกระตุกหลายครั้ง
"คะ คน เลว"
คำนึงนิจพึมพำเสียงเบาน้ำตาสายหนึ่งไหลรินออกจากหางตา วันนี้ทำไมเธอถึงฝันเห็นเฮียตงคนเลวนานจัง เธอเจ็บหน้าอกจนหายไม่ออก
"ครับๆ เฮียตงเป็นคนเลว หนูนิดอย่าทิ้งคนเลวแบบเฮียนะ ไม่มีหนูนิดเฮียอยู่ไม่ได้" สารวัตรตงพยายามกระซิบเรียกข้างหูคนรักของตนเอง
พร่ำเรียกครั้งแล้วครั้งเล่า เธออยากจะบอกเลิกกี่ร้อยครั้งก็พูดไปเถอะแต่เขาไม่เคยเลิกกับเธอ ให้รอหนูนิดหายโกรธอีกกี่ปีเขาก็รอได้ขอแค่ยังมีเธออยู่ในชีวิตก็พอ
เสียงเครื่องวัดชีพจรส่งเสียงดังลั่นก่อนจะเงียบลงในที่สุด เจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำรถฉุกเฉินส่ายหัวให้สารวัตรตง เขาฟุบตัวลงไปสวมกอดร่ำไห้อย่างไร้เสียง