บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ไม่ลืม...แค่เหตุสุดวิสัย

ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงเวลาเย็น ไลลารู้สึกกระวนกระวาย ไม่อาจรอผู้ชายคนนั้นกลับมาด้วยใจสงบ

“เขาบอกว่าในนี้มีครบ เราไม่ต้องทนหิว ห้องน้ำก็มี แสดงว่าเขาตั้งใจไปนานๆ อยู่แล้ว”

ไลลาทวนคำพูดเขาด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนจะพ่นลมหายใจแรงๆ เมื่อสุดท้ายก็ตระหนักได้ว่าหล่อนทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอเขากลับมา

“คนอันธพาล จู่ๆ ก็มาจับเราขังไว้ในห้องนี้ บ้าหรือเปล่า นึกจะทำอะไรก็ทำ”

หญิงสาวออกอาการฮึดฮัดไปหลายรอบ จนรู้สึกเหนื่อยจึงหยุดไปเอง ทุกอย่างยังคงเดิม ไม่ว่าหล่อนจะทำอะไรก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

เมื่อสักครู่เจนนิสาโทร.มาถามว่าใกล้กลับบ้านหรือยัง ไลลาต้องโกหกน้องสาวไปว่าหล่อนจะแวะไปหาเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก่อน สำทับไปอีกรอบว่าคืนนี้อาจนอนค้างกับเพื่อนด้วย แล้วค่ำๆ หล่อนจะโทร.ไปบอกอีกครั้ง

แล้วไลลาก็ได้ยินเสียงของน้องสาวที่รายงานป้าเล็ดลอดเข้ามาในสาย ได้ยินป้าบอกอนุญาตอย่างง่ายดาย จนหญิงสาวอดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้

‘ป้าบอกว่านอนค้างที่บ้านเพื่อนก็ดี เพราะตอนเย็นหารถรับจ้างมาส่งถึงบ้านเรายากแล้ว เมื่อเช้าถ้าเจนอยู่บ้านก็จะได้ขับรถเข้ากรุงเทพฯ ให้พี่หลิวได้ คนอะไร นึกจะไปก็ไป ไม่บอกกันล่วงหน้าเลย’

‘จู่ๆ พี่นึกอยากมาก็ตัดสินใจปุบปับเลย เพราะไม่อยากให้อะไรมันคาราคาซัง’

‘แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ พี่หลิวเจอพี่ทินไหม เขาสบายดีไหม ป่วยไข้หรือเปล่า’

‘พี่ทินคงสบายดี ไว้กลับบ้านแล้วพี่จะเล่าให้ฟัง’

‘ได้ค่ะ เจนจะรอนะ แต่ว่าก็ว่าเถอะ พี่หลิวน่าจะหัดขับรถให้คล่องได้แล้ว บ้านเราเดินทางด้วยรถรับจ้างลำบาก ถ้าพี่หลิวขับรถเอง เวลาไปไหนมาไหนก็จะได้สะดวก’

ไลลาปล่อยให้น้องสาวพูดต่ออีกหลายคำ ยินดีที่เจ้าตัวพูดไกลจากเรื่องที่หล่อนกำลังหวั่น จนกระทั่งเจ้าตัวหมดเรื่องคุยจึงขอวางสาย

เมื่อตัดสายจากกันแล้ว ไลลาก็โล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็ไม่อยากให้ป้าหรือน้องสาวมารับรู้สถานการณ์ที่หล่อนกำลังเผชิญในตอนนี้ มันเป็นเรื่องบ้าบอที่รังแต่จะทำให้สองคนนั้นเป็นห่วงหล่อน

ยิ่งคิดไลลาก็ยิ่งหงุดหงิดเหลือเกิน จนไม่ได้สังเกตตัวเองว่าหล่อนไม่ได้กลัวอันตรายจากผู้ชายคนนั้น ทั้งที่สถานการณ์ชวนให้ใจหายใจคว่ำอยู่ไม่น้อย สิ่งที่อยู่ในใจคงมีแต่ภาวนาให้เขารีบกลับมา แล้วหล่อนจะได้ออกไปจากห้องนี้

ห้องกว้างขวางที่ไลลาไม่รู้ว่าเขาใช้ประโยชน์อะไร ผนังกรุด้วยกระจกตลอดแนว เมื่อเปิดผ้าม่านหนาหนักแล้วมองออกไปด้านนอก ไลลาเห็นสวนไม้ประดับปลูกไว้อย่างงดงาม ถัดไปก็เป็นสระว่ายน้ำ ตรงขอบสระยังมีวิวเมืองที่มองเห็นอยู่ไกลๆ

ในเวลานี้แสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องกระทบผิวน้ำในสระก็ทำให้เกิดภาพงดงามแปลกตา...หากไลลาไม่อยู่ในภาวะที่จะชื่นชมนัก

ตอนนี้หญิงสาวมั่นใจแล้วว่าหล่อนกำลังอยู่ในเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียม หล่อนจำได้ เพราะตอนที่อทินเอาโบรชัวร์ของคอนโดมิเนียมโครงการนี้ไปปรึกษาถึงบ้าน หล่อนกับน้องสาวยังพูดถึงพื้นที่ส่วนนี้ซึ่งมีราคาหลายสิบล้านด้วยความสนใจอยู่เลย

‘เจ้าของโครงการเก็บไว้เองมั้งพี่หลิว เจนเคยเห็นที่คอนโดของเพื่อนก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน’

‘ดูท่าจะหรูหรามากนะ ถ้าเราได้ไปนอนจิบไวน์สักคืน เจนคิดสิว่าจะมีความสุขขนาดไหน’

‘นั่นสิ แค่นึกภาพก็ฟินสุดๆ แล้ว ไม่อยากนึกถึงของจริงเลย’

ให้ตายสิ! ไลลาไม่ได้อยากทำอย่างนั้นจริงๆ สักนิด ตอนที่พูดกับน้องสาวก็พูดด้วยอารมณ์สนุก ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หล่อนเข้ามาอยู่ในเพนต์เฮาส์นี้สักหน่อย

และระหว่างที่หล่อนกับน้องสาวคุยกันอย่างออกรสนั้น คนที่นั่งเงียบไปสักพักก็พูดแทรกขึ้น

‘แล้วห้องของพี่ล่ะ ไม่เห็นมีใครสนใจบ้างเลย หรือห้องของพี่เล็กไป แต่แค่ห้องนี้กว่าพี่จะทำสัญญาและวางเงินดาวน์ได้ก็แทบหมดตัว ยังไม่รวมตอนกู้ธนาคารแล้วจ่ายคืนเป็นงวดๆ อีกนะ’

‘ห้องของพี่ทินก็น่าอยู่ค่ะ เจนช้อบชอบ ขนาดกำลังดี เจนว่าน่าจะอยู่สบายด้วย วิวก็สวย พี่ทินซื้อห้องนี้ได้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว เพราะราคาตั้งหลายล้านเหมือนกัน อย่างเจนน่ะก็ไม่มีปัญญาซื้อหรอก’

‘เจนซื้อไม่ได้ แต่คุณป้าซื้อได้ ไม่แน่ว่าซื้อเพนต์เฮาส์ของตึกนี้ได้ด้วย’

‘นั่นของคุณป้า เจนกับหลิวไม่เกี่ยวหรอกค่ะ’ ตอนนั้นไลลาต้องเอ่ยแทรกโดยอัตโนมัติ

‘แต่คุณป้ามีหลานแค่สองคน ถ้าเกิดเป็นอะไรไป สมบัติทั้งหมดจะไปไหนเสีย’

อทินค้านทันควันเช่นกัน สีหน้าของเขาช่างจริงจังเสียจนหล่อนกับน้องสาวได้แต่จ้องมองหน้ากันนิ่งๆ ในใจอื้ออึง บอกความรู้สึกไม่ได้ หล่อนรู้แต่ว่าไม่ชอบได้ยินคำพูดถึงป้าที่มีบุญคุณล้นเหลือจากใครในแง่นี้…และเหมือนว่าอทินก็รู้สึกตัวเหมือนกัน

‘พี่ขอโทษที่พูดไม่คิด แต่พี่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี พี่ขอโทษหลิวจริงๆ’

คนที่อทินต้องขอโทษควรเป็นป้ารวีมากกว่า แต่ไลลาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะอยากให้เรื่องชวนไม่สบายใจนี้จบลงให้ไวที่สุด

ช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่ถูกขังอยู่ในนี้ หลายๆ เรื่องเกี่ยวกับอทินก็ย้อนมาให้ไลลาได้คิดทบทวน ไม่ใช่ว่าหล่อนจะไม่เห็นข้อเสียของเขา ไม่ใช่ว่าหล่อนจะมองไม่ออกเสียทีเดียวว่าอทินเป็นคนทะเยอทะยาน ยังมีสิ่งที่เขาอยากมีอยากได้อีกมาก จนหลายครั้งก็หลุดความคิดชวนอิหลักอิเหลื่อให้หล่อนได้ยินอย่างเช่นครั้งนั้น

แต่นั่นละ คนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ความคิดและบุคลิกของอทินคงถูกหล่อหลอมมาจากปูมหลังของเขา ถูกกล่อมเกลาจากครอบครัวและสิ่งแวดล้อมที่เขาโตมา

หากจะว่ากันจริงๆ ไลลาก็ไม่ได้รู้เรื่องของอทินมากไปกว่าที่เขาเกริ่นให้ฟังเอง หญิงสาวไม่เคยเจอกับครอบครัวของเขา หล่อนยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ของอทินเป็นใคร...ในเวลานี้หลายสิ่งเกี่ยวกับเขาจึงยังว่างเปล่าสำหรับหล่อน

เมื่ออทินไม่พาหล่อนไปให้รู้จักกับครอบครัว ไลลาก็ไม่เซ้าซี้ ตอนนั้นหญิงสาวเชื่อว่าเพราะเขายังไม่พร้อม กลัวหล่อนรับเขาไม่ได้...ไม่ได้เกิดจากการคิดจะปิดบังกัน

ไลลาจึงให้เวลาเขา เพราะอยากให้เขาสะดวกสบายใจในการคบหากับหล่อน

เมื่อความคิดวนมาถึงเหตุการณ์ที่เกิดในวันนี้ หลายคำพูดจากผู้ชายคนนั้นทำให้ไลลาฉุกคิดสงสัยว่าอาจมีเรื่องเกี่ยวกับอทินที่หล่อนยังไม่รู้อีกมาก

“พี่ทินไปเอาอะไรของนายคนนั้น ทำไมเขาถึงโกรธมาก แถมยังต่อว่าเราเสียๆ หายๆ ทั้งที่ไม่รู้จักกันอีกด้วย”

หญิงสาวได้แต่ถามตัวเอง พยายามหาเบาะแสจากรอบตัว คนที่หล่อนจะหารือได้และไว้ใจที่สุดก็มีแต่น้องสาว...แต่หล่อนต้องรอให้กลับถึงบ้านได้ก่อน

“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไร คิดจะให้เรานั่งรอแค่ในนี้หรือ นายคนนั้นต้องบ้าไปแล้วที่ทำกับเราอย่างนี้”

ไลลาถอนหายใจ ระหว่างที่รอเจ้าของเพนต์เฮาส์กลับมา หล่อนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาค้นหาโรงแรมที่พักเตรียมไว้ก่อน จนได้โรงแรมระดับดี เห็นว่าน่าอยู่และปลอดภัยมากพอในย่านนี้ หญิงสาวก็ทำการจองไปจนเสร็จเรียบร้อย

ที่เหลือก็แค่รอเจ้าของเพนต์เฮาส์กลับมาเท่านั้นแหละ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel