8 ขอแต่งงาน
ของขวัญ....
"พี่ศึกคะนี่ค่ะของขวัญจากขวัญ" ฉันยื่นกล่องของขวัญให้พี่ชนะศึกหลังจากที่เราทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว เขารีบเปิดมันทันทีที่ได้รับ ทำให้ฉันลุ้นว่าพี่เขาจะชอบไหม
"พี่ขอบใจขวัญมากเลยนะสำหรับผ้าพันคอผืนนี้มันสวยมากเลยขวัญจำได้ด้วยเหรอว่าพี่ชอบสีดำ"
"ค่ะขวัญจำได้"
"เนี้ยพี่กะว่าจะไปหาซื้อเพราะเดือนหน้าพี่ต้องขึ้นไปดูงานที่ไร่ที่เชียงใหม่แล้ว" ฉันยิ้มอย่างโล่งใจที่พี่ชนะศึกชอบผ้าพันคอที่ฉันถักให้ ฉันมองดูเวลาที่ผนังเห็นว่านี่เกือบห้าทุ่มแล้วฉันคงต้องกลับบ้าน
"ช่วงนี้ที่นั่นคงจะสวยมากเลยนะคะยิ่งเป็นไร่ชาคงจะสวยวิวดีมากๆ" ฉันเคยเห็นรูปที่อากานถ่ายมาให้ดูเมื่อนานมาแล้วตอนที่อากานกับอากองทัพไปเที่ยวพักผ่อนที่นั่น ตั้งแต่ฉันจำความได้ฉันไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย เชียงใหม่คือจังหวัดที่ฉันอยากไปมากที่สุดแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลยสักครั้งด้วยภาระหน้าที่ของฉันเพราะตอนนี้ฉันเรียนปีสามแล้วอีกปีเดียวก็จะเรียนจบแล้ว
"ใช่ช่วงนี้หน้าหนาวด้วยอากาศคงจะกำลังดีถ้ามีโอกาสพี่จะพาเราไปเที่ยวนะ"
"ขอบคุณนะคะแต่ขวัญคงไม่ได้ไปหรอกค่ะเพราะขวัญต้องอยู่ดูแลคุณย่าไหนจะต้องไปมหาลัยอีก"
"ก็เอาไว้ปิดเทอมเราค่อยไปด้วยกันก็ได้พาคุณย่าไปเที่ยวด้วยดีมั้ย"
"ขอบคุณนะคะพี่ศึกที่ชวนขวัญเอาไว้ขวัญขอคิดดูก่อนนะคะเพราะช่วงนี้คุณย่าท่านไม่ค่อยสบายด้วย เอ่อพี่ศึกคะนี่ก็ดึกแล้วพี่ช่วยไปส่งขวัญหน่อยได้มั้ยคะ" ที่ฉันขอให้พี่ชนะศึกไปส่งเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้วซึ่งก่อนหัวค่ำเขาบอกว่าถ้าฉันจะกลับเขาจะเป็นคนอาสาไปส่งที่บ้าน
"ขวัญนอนที่นี่ก็ได้นะแม่พี่โทรไปบอกคุณย่าท่านให้แล้วว่าขวัญอาจจะนอนที่นี่ซึ่งย่าท่านก็อนุญาตแล้วด้วย"
"ไม่เป็นไรค่ะบ้านคุณย่าก็อยู่ตรงนี้เองถ้าพี่ศึกไม่สะดวกไปส่งอย่างนั้นขวัญขอยืมไฟฉายได้มั้ยคะขวัญจะกลับเอง" ถึงแม้รั้วบ้านเราติดกันแค่เดินไปไม่กี่เมตรก็ถึงแต่ว่าตอนนี้มันดึกมากและทางเดินกลับก็มืดไหนจะต้องมุดรั้วเข้าไปไหนจะต้องเดินลัดผ่านสวนหลังบ้านอีกซึ่งมันอาจจะมีงูหรือสัตว์มีพิษอยู่แถวนั้นคือถ้าเป็นตอนกลางวันมันไม่มีอะไรแต่ตอนนี้มันดึกมากฉันก็กลัวฉันก็เลยคิดว่าจะเดินไปเข้าทางหน้าบ้านแทนแม้มันจะไกลสักหน่อยก็ไม่เป็นไรคือเนื้อที่ของบ้านอากานกว้างมากกว้างพอๆกับบ้านของคุณย่าถ้าจะเดินกลับทางนั้นก็ใช้เวลาหลายสิบนาทีกว่าจะถึงประตูหน้าบ้านแต่ถึงยังไงฉันก็ต้องกลับทางนั้นเพราะฉันไม่กล้านอนค้างที่นี่เพราะถ้าคุณเอมอรกับคุณอุษารู้เข้าฉันจะเจ็บตัวอีกเพราะทั้งสองคนสั่งห้ามไม่ให้ฉันมาที่นี่ แต่นี่ฉันต้องมานอนค้างฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าทั้งสองคนรู้ฉันจะโดนอะไรบ้าง
"แต่นี่มันดึกมาแล้วนะ เอางี้ถ้าขวัญกลัวคุณย่าจะเป็นห่วงเดี๋ยวพี่โทรหาท่านอีกทีขวัญจะสบายใจโอเคนะ"
"ไม่ต้องก็...." ฉันกำลังจะร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันพี่ชนะศึกรีบเดินไปที่โทรศัพท์แล้วกดโทรหาคุณย่าทันที
"คุณย่าครับนี่ผมชนะศึกนะครับ ครับผมเพิ่งกลับมาวันนี้ครับ คุณย่าสบายดีไหมครับ ไว้พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปกราบนะครับ ครับคิดถึงคุณย่าเหมือนกันครับ อ่อขวัญเหรอครับเธออยู่ข้างๆผมนี่แล่ะครับใช่ครับเรามีปาร์ตี้เลี้ยงฉลองกันเล็กๆน้อยๆที่บ้าน เอ่อคุณย่าครับคืนนี้ให้ขวัญนอนที่บ้านผมได้ไหมครับ คือผมไม่ได้เจอขวัญมานานหลายปีผมมีเรื่องอยากคุยกับขวัญเยอะแยะเลยถ้าคุณย่าอนุญาต ได้เหรอครับขอบคุณนะครับคุณย่า ขอบคุณครับคุณย่าใจดีที่สุดเลย ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ หลับฝันดีนะครับ สวัสดีครับคุณย่า" ฉันทำได้แค่นั่งฟังอย่างเงียบๆจนกระทั่งพี่ชนะศึกคุยกับคุณย่าเสร็จและวางสายไปแล้วเขาก็หันมายิ้มให้ฉัน
"คุณย่าอนุญาตให้ขวัญนอนที่นี่แล้วนะ" เขาไม่บอกฉันก็รู้แล้วล่ะเพราะก่อนที่ฉันจะมาที่นี่คุณย่าท่านก็บอกอยู่ว่าถ้างานเลี้ยงเลิกดึกก็ให้ฉันนอนที่นี่ได้เลยท่านไว้ใจทุกคนที่นี่เพราะรู้จักกันมานานแต่ฉันก็บอกกับท่านว่าฉันจะกลับมานอนที่บ้านเพราะฉันไม่อยากให้มีปัญหาตามมาภายหลัง
"ที่ขวัญไม่อยากนอนบ้านอาเพราะขวัญกลัวใช่ไหมลูก" อากานดาพูดในสิ่งที่ฉันกำลังกังวลก่อนจะเดินมานั่งข้างๆฉันส่วนอากองทัพก็เดินไปนั่งข้างๆพี่ชนะศึก
"ขวัญกลัวอะไรเหรอครับแม่"
"ก็กลัวว่าที่น้องสะใภ้เราน่ะสิ"
"ยัยเอมน่ะเหรอครับ"
"ใช่"
"ทำไมต้อกลัวด้วยครับ...นี่อย่าบอกนะครับว่ายัยเอมยังชอบแกล้งยังมีอคติกับขวัญอยู่"
"คำว่าแกล้งเค้าเอาไว้ใช้กับเด็กๆแต่นี่ไม่ใช่"
"หมายความว่าไงครับผมไม่เข้าใจแม่ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจที"
"ก็ถ้ายัยเอมรู้ว่าขวัญมาที่บ้านเราขวัญจะต้องเจ็บตัวน่ะสิ"
"เจ็บตัวงั้นเหรอครับ ใครทำ ยัยเอมเหรอครับแม่"
"จะใครซะอีกล่ะ"
"แล้วยัยเอมมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายขวัญในเมื่อเอมกับขวัญก็เป็นพี่น้องกันถึงจะคนละแม่ก็เถอะ"
"สำหรับขวัญน่ะคิดว่ายัยเอมเป็นพี่สาวมาตลอดมีแต่ยัยเอมนั่นแล่ะที่ไม่เคยเห็นขวัญเป็นน้องสาวเลยสักครั้ง หลายครั้งหลายหนที่แม่เห็นขวัญมีรอยเจ็บช้ำตามตัวตามร่างกายถึงขวัญจะไม่ยอมพูดว่าใครทำแต่แม่ก็พอจะเดาออก" ฉันไม่กล้าโตัแย้งอาการเลยเพราะมันคือความจริงฉันจึงทำได้เพียงนั่งเงียบๆ
"ยัยเอมทำไมร้ายได้ขนาดนี้"
"เมื่อก่อนแม่คิดว่าเพราะยัยเอมยังเด็กก็เลยแกล้งน้องแต่พอนานวันเข้ากลับทำรุนแรงกว่าเดิมยิ่งมีน้าอุษาคอยให้ท้ายด้วยแล้วศึกคิดดูว่าขวัญจะเป็นยังไงจะไปสู้รบตบมือกับสองคนนั้นยังไง แม่ถึงสงสารขวัญแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะเราก็เป็นแค่เพื่อนบ้านกันไม่ใช่ญาติพี่น้องจะพูดอะไรก็ลำบากทำได้แค่คอยหายามาทาให้เวลาที่เห็นขวัญมีรอยฟกช้ำจ้ำแดง"
"ผมไม่คิดเลยว่ายัยเอมจะร้ายถึงขนาดนี้"
"ทุกวันนี้ถ้าหนูขวัญจะมาที่บ้านเราก็ต้องเป็นตอนที่สองคนนั้นไม่อยู่เท่านั้นเพราะถ้ารู้ล่ะก็มีหวังเจ็บตัวอีกแน่"
"แล้ววันนี้ทำไมขวัญถึงมาได้ล่ะครับ"
"โชคดีที่ช่วงนี้ทั้งสองคนไม่อยู่เพราะไปเกาหลี ของขวัญก็เลยมาที่บ้านเราได้โดยไม่ต้องหลบๆซ่อน"
"เออใช่ผมก็ลืมไปสงครามเพิ่งบอกว่าคู่หมั้นมันไม่อยู่ไปทำธุระที่เกาหลี ว่าแต่เรื่องนี้คุณย่าท่านรู้มั้ยครับแล้วท่านไม่ว่าอะไรเลยเหรอครับที่ของขวัญถูกเอมอรรังแก"
"ว่าสิทำไมจะไม่ว่าแต่เอมอรไม่เชื่อเพราะเธอมีแม่คอยุแยงและเข้าข้างมาตลอด"
"ผมอยากพาขวัญออกมาจากบ้านหลังนั้นครับแม่"
"พาออกมายังไงลูก"
"ขวัญจะว่ายังไงถ้าพี่จะพาขวัญออกมาจากที่นั่น" พี่ชนะศึกพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ขวัญไม่..."
"ผมพูดจริงๆนะครับแม่ พ่อ ขวัญพี่ไม่อยากเห็นขวัญถูกทำร้ายอีกพี่สงสารขวัญพี่จะไปคุยกับคุณย่าเอง"
"จะคุยยังไงลูก"
"ผมจะขอขวัญแต่งงาน"
"ห๊ะ"
"พี่ศึก!!!"
"เมื้อกี้ลูกพูดว่าไงนะ" ฉันถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก รวมไปถึงอากานดาที่คงจะตกใจจนพูดไม่ออกเหมือนกับฉันตอนนี้มีแค่อากองทัพที่นั่งนิ่งไม่พูดอะไร