19 เมียหรือภาระ
สงคราม......
ผมออกจากบ้านตั้งแต่เย็นไปหาไอ้ต๋องกับไอ้เป้ที่คอนโดแล้วชวนมันดื่มเหล้าพร้อมกับระบายให้พวกมันฟังแต่รู้ไหมแทนที่พวกมันจะสงสารเห็นใจผมเรื่องเอมอรแต่พวกมันกลับด่าผมเรื่องที่ผมเอายัยกาฝากนั่นมาเกี่ยวข้อง แต่แล้วไงวะผมทำไปแล้วแต่ใครจะไปคิดว่าผมจะถูกพ่อกับแม่บังคับให้รับผิดชอบยัยนั่นด้วยการแต่งงานพร้อมจดทะเบียนสมรสคือพอผมตกลงข้อเสนอของแม่ปุ๊บแม่ก็โทรเรียกเจ้าหน้าที่เขตมาที่บ้านทันทีนั่นก็เท่ากับว่าผมกับยัยนี่เป็นสามีภรรยากันแล้วอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำไมผมต้องรับผิดชอบด้วยวะในเมื่อยัยนั่นก็สมยอมยอมหลายรอบแล้วก็หลายยกด้วยผมไม่ได้ไปขืนใจซะหน่อยก็แค่หลอกล่อนิดหน่อยให้ยอม แม่งคิดแล้วก็อารมณ์เสีย
ผมกลับเข้าบ้านมาตอนเวลาตีสามกว่าๆ ด้วยอาการมึนๆ แต่พอเข้าห้องมาก็หงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่บนฟูกข้างเตียงนอนหึยังดีที่รู้ว่าตัวเองควรจะนอนตรงไหนเพราะถ้าผมเดินเข้าห้องมาแล้วเห็นยัยนี่นอนอยู่บนเตียงของผมผมก็จะกระชากให้ลงไปนอนที่ปลายเตียงเพราะที่นอนของผมผมไม่ชอบให้คนอื่นหรือคนนอกขึ้นมานอน ต่อให้ผมกับยัยนี่เคยมีอะไรกันมาแล้วก็เหอะแต่สำหรับผมยัยนี่ก็เป็นคนนอกอยู่ดี นอกสายตา นอกความรู้สึก
"หึนอนสบายจังเลยยัยกาฝาก" ผมเดินไปเปิดจนทั่วห้องให้มันสว่างพร้อมกับเปิดเพลงให้มันดังลั่นห้อง แล้วกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงสักพักยัยกาฝากก็ผงกหัวขึ้นมาท่าท่างงัวเงียสุดๆ คงเพราะแสงไฟกับเพลงที่ผมเปิดเลยทำให้หลับต่อไม่ได้หึสมน้ำหน้า ยัยนี่มองนาฬิกาที่ผนังห้องก่อนจะหันมามองหน้าผมแต่ผมก็ไม่ได้หลบสายตานะผมจ้องหน้ากลับไปด้วยอย่างหาเรื่อง
"ทำไมมีอะไร"
"พี่..เอ่อคุณช่วยเปิดเพลงเบาหน่อยได้ไหมคะขวัญเอ่อฉันนอนไม่ได้"
"นอนได้ไม่ได้ก็เรื่องของเธอเพราะห้องนี้มันห้องของฉันฉันจะเปิดเพลงดังแค่ไหนก็ได้ถ้านอนไม่ได้ก็ออกไปนอนที่อื่น" ยัยนี่นิ่งไปแป๊บนึงก่อนจะล้มตัวลงแล้วหันหลังเข้ากำแพง หึนอนได้ก็นอนไปส่วนผมนอนได้สบายอยู่แล้วถ้าเมา
ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหนตื่นมาอีกทีก็เกือบเที่ยงแล้ว ผมมองไปที่ข้างเตียงที่ยัยกาฝากนั่นนอนเมื่อคืนแต่ก็ไม่อยู่แล้วผ้าห่มผ้าปูถูกพับไว้อย่างเป็นระเบียบเวลานี้ถ้ายังนอนอยู่ผมจะด่าให้ ผมลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปข้างล่างเพราะหิวข้าว คือตั้งแต่เมื่อวานผมยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากเหล้า
"ขวัญทำคุ๊กกี้อร่อยอ่ะ พี่ขอหมดนี่เลยได้ป่ะ"
"พี่ศึกทานหมดเหรอคะ"
"หมดดิแป๊บเดียวก็หมดแล้วอร่อยขนาดนี้"
"ก็ได้ค่ะเดี๋ยวรอให้ขนมมันเย็นแล้วขวัญจะเอาใส่ขวดโหลเก็บไว้ให้นะคะ"
"ขอบคุณครับ เออว่าแต่อีกไม่กี่อาทิตย์จะเปิดเทอมแล้วขวัญยังขาดเหลืออะไรอีกไหมพวกอุปกรณ์การเรียนเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าพี่จะได้พาไปซื้อ"
"ของเก่ายังพอใช้ได้ค่ะ อีกปีเดียวขวัญก็เรียนจบแล้วขวัญไม่อยากเสียเงินซื้อใหม่"
"พี่เต็มใจซื้อให้เองขวัญไม่ต้องจ่ายเองหรอก"
"ไม่เป็นไรค่ะ ขวัญขอบคุณพี่ศึกมากนะคะ"
"เรานี่นะอะไรก็ไม่เอา ว่าแต่พอเรียนจบแล้วเราจะไปทำงานที่ไหน แม่พี่บอกว่าเราเรียนครูไม่ใช่เหรอ"
"ค่ะ ขวัญเรียนครูขวัญอยากเป็นครูอนุบาลอยากสอนเด็กๆ แต่คงต้องรอดูก่อนว่า...ว่าขวัญจะ..เอ่อจะท้องหรือเปล่า ถ้าท้องก็คงต้องรอให้คลอดก่อนแล้วค่อยไปทำงานแต่ถ้าโชคดีไม่ท้องขวัญก็จะหางานทำเลย"
"ขวัญพูดแบบนี้แปลว่าขวัญไม่อยากให้ตัวเองท้องใช่ไหม"
"ค่ะ ขวัญไม่อยากให้ตัวเองท้องขวัญสงสารลูกเพราะแกเกิดมาจากความโง่ของขวัญแถมพ่อของลูกก็อาจจะไม่ยอมรับแล้วก็ไม่รักแกด้วย ขวัญไม่อยากให้แกมาเกิดกับขวัญตอนนี้เพราะขวัญไม่มีความพร้อมอะไรเลยเรียนก็ยังไม่จบ"
"พี่เข้าใจขวัญนะ แต่พี่อยากให้ขวัญจำไว้ว่าขวัญยังมีพี่มีแม่พี่มีพ่อพี่ที่จะอยู่เคียงข้างขวัญคอยช่วยเหลือขวัญทุกอย่างขวัญจะไม่ลำบากแบบที่ผ่านมาอีก แล้วถ้าขวัญท้องจริงๆ แล้วพ่อของลูกขวัญมันไม่เอามันไม่เลี้ยงมันไม่ยอมรับมันไม่รักลูกของมันพี่จะช่วยขวัญเลี้ยงเองพี่จะเป็นพ่อทูนหัวให้ลูกของขวัญเองลูกของขวัญต้องมีพ่อ"
"ฮึก ฮึก ขวัญขอบคุณพี่ศึกมากเลยนะคะที่เป็นห่วงและหวังดีกับขวัญมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต ถ้าไม่มีพี่ตอนนั้นขวัญคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เพราะขวัญคงจมน้ำตายไปแล้วพี่ดีกับขวัญมากมากจนขวัญไม่รู้จะตอบแทนพี่ยังไง"
"อย่าร้องไห้ดิเดี๋ยวน้ำตาหยดลงไปที่ขนมของพี่พี่ไม่ชอบกินเค็มนะ อ่ะเช็ดน้ำตาซะ"
"ขอบคุณค่ะ"
ผมแอบยืนฟังพี่ชายกับเมียตัวเองยืนคุยกันอย่างสนิทสนมมีปรึกษาปัญหาต่างๆ มากมายเห็นแล้วหมั่นไส้ว่ะแล้วอะไรคือจะเป็นพ่อทูนหัวให้ลูกผมในเมื่อผมก็ยังอยู่ไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหนซะหน่อย แต่เมื่อกี้ผมเรียนยัยนั่นว่าไงนะ เมียงั้นเหรอ ไม่ดิยัยนั่นไม่ใช่เมียเพราะผมมั่นใจว่ายัยนั่นไม่มีทางท้องเพราะผมปล่อยนอกทุกรอบก็ถ้าจะเรียกเมียก็คงจะแค่สามเดือนหลังจากนั้นผมก็จะเป็นอิสระ อดทนเอาหน่อยไอ้สงครามแค่สามเดือนเอง
"มายืนแอบฟังอะไรตรงนี้ตาคราม" ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแม่จากทางด้านหลัง
"ผมเอ่อผมไม่ได้มายืนแอบฟังผมกำลังจะเข้าไปหาอะไรกินในครัวพอดีเห็นสองคนนั้นคุยกันอยู่ก็ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะ"
"อ่อเหรอ อืมถ้าหาอะไรกินเสร็จแล้วไปหาแม่ที่ห้องนั่งเล่นด้วยนะแม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเรา"
"เรื่องอะไรครับ"
"เรื่องเมียเราไง"
"แม่พูดแบบนี้ผมคงกินอะไรไม่ลงแล้วล่ะ แม่มีอะไรก็คุยกับผมตอนนี้เลยละกัน"
ผมเดินตามแม่มาที่ห้องนั่งเล่นจากนั้นแม่ก็เริ่มพูดเรื่องที่จะให้ผมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายของของขวัญทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือนเรื่องค่าเทอมทุกสิ่งทุกอย่างผมต้องเป็นคนจัดการเองทั้งหมด อะไรวะทำไมผมต้องมารับผิดอะไรมากมายขนาดนี้ด้วยแม่งมีเมียหรือมีภาระวะซึ่งเรื่องเงินผมไม่ได้ซีเรียสหรอกนะผมมีเยอะแต่ทำไมผมต้องจ่ายแม่งเอากันแค่ไม่กี่ครั้งเองนะโคตรไม่คุ้มเลยว่ะ
"ผมต้องรับผิดชอบยัยนี่ตลอดชีวิตเลยเหรอแม่"
"ก็แค่สามเดือนเท่านั้นแล่ะถ้าหนูขวัญไม่ท้องเราก็ไม่ต้องรับผิดอะไรหนูขวัญอีก แม่ขอแค่นี้ทำได้ไหมคราม"
"ไม่ได้ก็ต้องได้มั้ยล่ะครับแม่ เห้อออ"
"อย่ามาทำหน้าทำเสียงเหมือนแม่บังคับให้ไปตายแบบนี้นะครามถ้าเราไม่ไปยุ่งกับหนูขวัญแต่แรกเราก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแบบนี้หรอก เป็นลูกผู้ชายหัดมีความรับผิดชอบมั่งอายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว อ่อแล้วก็อย่าลืมข้อตกลงของเราเพราะถ้าครามทำผิดสัญญาปุ๊บแม่จะยกทุกอย่างให้หนูขวัญต่อให้หนูขวัญไม่ท้องก็ตาม" พูดจบแม่ก็เดินหน้าตึงออกไปจากห้องนั่งเล่น สรุปผมหรือยัยนั่นเป็นลูกแท้ๆของแม่กันแน่วะทำไมต้องเอาอกเอาใจจนถึงกับจะยกทุกอย่างของผมให้ยัยนั่น หึแต่ผมไม่มีทางยอมหรอกยัยนั่นมาแต่ตัวก็ต้องเดินออกไปจากบ้านผมไปแต่ตัวเท่านั้น ไม่มีทางให้ยัยนั่นได้อะไรติดมือออกไปแน่นอน