8 เดิมพันด้วยชีวิต
“เธอเป็นหนี้ชีวิตฉัน”
“เธอเป็นหนี้ชีวิตฉัน”
“เธอเป็นหนี้ชีวิตฉัน”
‘หนอยอิตาบ้านี่ เธอได้ขอร้องให้มาช่วยเธองั้นหรอถึงได้ทำมาว่าตัวเองมีบุญคุณกับเธอนักหนา ฮึ่ย’
“พี่ขวัญใจเย็นๆ ค่ะ แครอทละเอียดแล้ว”
“ตายจริง พี่ขอโทษนะ เดี๋ยวพี่หั่นให้ใหม่”
“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ องุ่นว่าพี่ขวัญไปนั่งพักก่อนดีกว่าค่ะ ตั้งแต่กลับมาจากพบคุณวินท์ พี่ขวัญดูแปลก”
“คุณวินท์ทำอะไรพี่ขวัญรึเปล่าคะ”
“ไม่ๆ คุณวินท์ไม่ได้ทำอะไรพี่”
“พี่แค่รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย” มือบางยกขึ้นนวดขมับแสดงให้ดูว่าเธอปวดหัวจริงๆ ซึ่งมันก็ได้ผลเด็กสาวพาเธอไปนั่งยังเก้าอี้ใกล้ก่อนจะกุลีกุจอไปหายาดมมาให้เธอ ‘พี่ขอโทษนะองุ่น’
“เดี๋ยวขวัญทำกับป้าสองคนเองค่ะ พี่ขวัญนั่งพักอยู่ตรงนี้”
“องุ่นเลิกกวนคุณเขาได้แล้ว มาช่วยป้ายกไข่ตุ๋นออกจากหม้อนึ่ง เดี๋ยวเสร็จช้าคุณวินท์จะโมโหเอา”
“จ้าไปแล้วจ้า”
“รบกวนป้ารุ้งด้วยนะคะ :)”
“องุ่นยกไปให้คุณวินท์ได้แล้ว” ป้ารุ้งแม่ครัวคนเก่าของที่นี่เอ่ยบอกหลานสาวหลังจากช่วยกันทำอาหารเช้าให้ผู้เป็นนายจนแล้วเสร็จ
เพล้ง เพล้ง เพล้ง
“เอาออกไป แล้วไปเรียกขวัญข้าวมา!”
“คุณวินท์ไม่กินอีกแล้วหรอองุ่น” รุ้งเอ่ยถามหลานสาวที่ถือมาเพียงถาดเปล่า มาดว่าเสียงที่ดังเมื่อครู่คงจะเป็นเสียงจานชามแตกอีกตามเคย
“ค่ะป้า เมื่อเช้าองุ่นยกกาแฟไปให้ก็ยังดีๆ อยู่เลย ไม่รู้ไปหงุดหงิดอะไรมาอีก…เอ่อ พี่ขวัญคะ”
“ว่าไงจ๊ะ” ขวัญข้าวที่นั่งฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เงียบๆ เอ่ยตอบกลับไป
“คือ คุณวินท์ให้พี่ขวัญไปพบค่ะ” เธอบอกด้วยสีหน้าลำบากใจ กลัวว่าพี่สาวที่เป็นไอดอลในดวงใจเธอจะได้รับอันตรายจากอาการโมโหร้ายของเจ้านายเธอ
“พี่ไม่เป็นไร ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น” เธอเดินไปลูบหัวเด็กสาวเบาๆ ก่อนจะเดินไปตักต้มจืดไข่ตุ๋นที่ป้ารุ้งทำไว้ ใส่ชามพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
“ถ้าคุณวินท์ทำอะไรพี่ขวัญ พี่ขวัญร้องดังๆ เลยนะคะ”
“องุ่นจะรีบไปหาเลยค่ะ!”
“:) เรานี่นะ”
“ป้าว่าจะมีโอกาสที่คุณวินท์จะชอบคุณขวัญขององุ่นไหม” เด็กสาวหันไปถามผู้เป็นป้าทันทีที่ลับร่างของไอดอลในดวงใจเธอไปแล้ว
“ป้าก็ไม่รู้ แต่คุณขวัญก็ดูจิตใจดี หน้าตาก็สะสวย อาจจะทำให้คุณวินท์หลงรักได้บ้าง”
“แต่คุณวินท์เราน่ะสิ ติดรถเข็นอยู่แบบนั้น คุณขวัญแกจะรับได้เร่อ ถึงคุณวินท์จะหน้าตาดี เพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเงินนอก แต่ก็มีข้อนี้อยู่ เองอย่าลืมนะองุ่น ว่าจะมีใครที่รักเราจริงๆ จนมองข้ามเรื่องนี้ไปน่ะมันมีน้อย ขนาดว่าคุณเคท ที่ว่ารักคุณวินท์นักหนายังทิ้งคุณวินท์ไปได้เลย”
“ที่ป้าว่ามันก็จริง แต่ว่าองุ่นคิดว่าคุณขวัญจะมองข้ามเรื่องนั้นไปได้
ขอแค่คุณวินท์ลดอารมณ์โมโหร้ายลงไปอีกนิดเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นอ่อนโยนขึ้นมาอีกหน่อย ถ้าคุณขวัญตกหลุมรักคุณวินท์ล่ะก็ เรื่องพวกนั้นไม่ใช่ปัญหา องุ่นว่าองุ่นรู้จักคุณขวัญดี”
“จะยังไงก็เถอะเรื่องของเจ้านาย”
“มาช่วยป้าเอาข้าวไปส่งลุงเองที่ไร่ เดี๋ยวไปสายลุงจะหิวเอา”
…
“ขวัญเข้าไปนะคะ” หลังจากที่ยืนทำใจอยู่หน้าห้องของเขาอยู่สักพัก
จึงตัดสินใจเอ่ยบอกคนข้างในก่อนจะเดินเข้าไปอย่างถือวิสาสะ เพราะหากรอให้เขาตอบกลับมาเธอคงไม่ได้เข้าไปเป็นแน่
เมื่อเข้ามาภายในห้อง สิ่งแรกที่เธอเห็นคือเม็ดข้าวและเศษจานกระเบื้องที่แจกกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นไปหมด เท้าเปล่าของเธอก้าวช้าๆ
อย่างระมัดระวัง พร้อมกับต้องประคองถาดอาหารเช้าในมือ กวาดสายตาไปทั่วห้องก็ยังไม่เห็นร่างของเจ้าของห้อง
“โอ้ย!” เสียงร้องที่ดังมาจากหลังประตูที่ปิดสนิทอยู่ เธอเดาว่ามันน่าจะเป็นห้องน้ำ ไม่รอช้าถาดข้าวในมือถูกวางลงอย่างเร่งรีบ ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวฉับ ๆ ไปยังห้องน้ำมี่เธอได้ยินเสียงร้องของเขา
ผลัก
“คุณ!!!” เปิดประตูเข้ามาก็เห็นร่างสูงของเขาล้มลงอยู่ที่พื้น ขวัญข้าวรีบถลาเข้าไปประลองเข้าลุกขึ้นนั่งบนขอบอ่างทันที แต่น้ำหนักตัวของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ อีกทั้งเธอรู้สึกว่าเขาพยายามทิ้งน้ำหนักตัวลงมาหาเธอ เธอประคองเขาขึ้นมานั่งบนอ่างอย่างทุลักทุเล ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเอื้อนเอ่ยของอีกฝ่าย เขานิ่งเงียบไม่พูดไม่จา แต่เธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ จ้องมองอย่างเปิดเผยราวกับว่าเขาอย่างให้เธอรับรู้ถึงมัน
“คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“…”
“ให้ฉันตามหมอให้ไหมคะ”
“…”
“…” เขาเงียบไม่ตอบเธอก็เงียบบ้าง ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องน้ำอย่างสำรวจ ภายในห้องน้ำมีราวจับสำหรับเดินหรือทรงตัว รถเข็นเขาจอดอยู่ใกล้ๆ กับประตู เขาคงจะลงจากลดเข็นแล้วค่อยๆ จับราวมายังเก้าอี้ที่เธอคิดว่าเขาคงจะใช้นั่งเวลาอาบน้ำ แต่อาจจะเกิดอะไรขึ้นบางอย่างทำให้เขาล้มลงไปก่อน องุ่นบอกกับเธอว่าเขามีโอกาสที่จะกลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่เพราะเขาเกิดล้มเลิกความตั้งใจนั้นไปก่อน ทำให้เขายังคงนั่งอยู่บนรถเข็นอย่างทุกวันนี้
องุ่นบอกกับเธออีกว่าเขามักจะชอบทำทุกอย่างด้วยตัวเองหากไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ เขาจะไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเด็กขาด อย่างอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า หรือการออกไปไร่เขาก็ทำมันด้วยตัวเอง รถเข็นของเขาเป็นรถเข็นไฟฟ้าสะดวกต่อการไปไหนมาไหน ทางเดินไปยังสถานที่ต่างๆ ในไร่เขาก็ให้คนมาทำให้มันสะดวกต่อการเดินทางไปจัดการดูแลงานในไร่ องุ่นบอกว่าเจ้านายของเธอจะเกลียดมากๆ เวลามีคนมาทำท่าสงสารหรือเห็นใจ เขาจะไม่ชอบมากๆ อารมณ์จะพุ่งขึ้นถึงขีดสุด บอกให้เธอระวังเอาไว้หากได้พบเขา
“อาบน้ำให้ฉัน” เสียงเข้มกล่าวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาอดีตนางแบบสาวที่กำลังนั่งเหม่อคิดเรื่องของเขาสะดุ้งด้วยความตกใจ
“ว ว่ายังไงนะคะ”
“อาบ น้ำ ให้ ฉัน!” ทุกคำถูกเปล่งออกมาอย่างเน้นย้ำ คนฟังได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เขาจะให้เธออาบน้ำให้เนี่ยนะ เธอไม่ได้ฟังอะไรผิดไปใช่ไหม
“เอ่อ คือว่า เดี๋ยวฉันไปตามคนงานผู้ชายมาให้ดีกว่านะคะ…”
“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!”
“เธอต้องเป็นคนอาบให้ฉัน”
“ได้ยินที่ฉันพูดไหม!”
“ด ได้ยินค่ะ ได้ยิน แต่ทำไมฉันต้องอาบให้คุณด้วย” เธอตอบกลับเขาไป พูดดีๆ ไม่เป็นหรือไง ทำไมต้องชอบพูดเสียงดัง ชอบตะคอกด้วย!
“ถ้าเธอคิดว่าชีวิตเธอมันยังพังไม่พออีกละก็…จะลองดูก็ได้ หึ” น้ำเสียงชวนขนลุกถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหนา
“คุณหมายความว่ายังไง?” เธอถามเขาอย่างไม่เข้าใจในคำพูดของเขา เขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
“เธอคิดว่าการที่เธอได้มาอยู่ที่นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรอ?”
“เธอคิดว่าร้านขนมไทยเส็งเคร็งของเธอที่มันพังไป…โดยไม่รู้สาเหตุ
ว่าใครเป็นคนทำให้มันมีสภาพเป็นแบบนั้น…เธอคิดว่ายังไงล่ะ หึ” เขาว่าเสียงเรียบไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ กับสิ่งที่ตัวเองทำเลยแม้แต่น้อย
“คุณหมายความว่ายังไง คุณเป็นคนส่งคนไปทำร้ายร้านของฉันงั้นหรอ แล้วที่ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เป็นแผนของคุณ…”
“คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณทำแบบนี้ทำไม!” เสียงที่เคยหวานน่าฟัง เข้มขึ้นในทันที ใบหน้าสวยแดงก่ำ ด้วยความโกรธ ที่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นต้นเหตุที่ทำลายให้ร้านขนมไทยของเธอ สิ่งสุดท้ายที่เธอเหลืออยู่พังไป จนเธอหมดแรงและกำลังใจจะมีชีวิตอยู่ต่อ ในตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่แย่มากจริงๆ เจ็บปวดเกินกว่าเธอจะทนรับไหว ความเจ็บปวดถูกสะสมมาตั้งแต่ยังเด็กเรื่อยมาจนถึงตอนนั้น วันที่เธอหมดสิ้นแล้วทุกอย่างในชีวิต มันจบแล้วจริง…
“เธอไม่ต้องรู้เหตุผล”
“รู้ไว้ว่าเธอต้องชดใช้”
“ฉันจะไม่ชดใช้อะไรบ้าๆ อย่างที่คุณพูดมาหรอกนะ คุณเป็นใครฉันยังไม่รู้ เราไม่เคยเจอกันมาก่อน และฉันก็มั่นใจว่าฉันไม่เคยทำร้ายคุณ!” เธอไม่เคยแม้แต่จะคิดร้ายต่อไป เธอหวังเพียงมีชีวิตที่สงบสุขสักวัน เธอหลีกเลี่ยงการมีศัตรูมาตลอด เพราะฉะนั้นเรื่องชดใช้อะไรบ้าๆ ของเขา เธอจะไม่ชดใช้อะไรทั้งนั้น ในเมื่อเธอไม่เคยทำร้ายเขา เขาจะให้เธอชดใช้อะไรกัน เขาเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร
“ดวงแข แม่ของเธอ! เพราะมัน มันเป็นต้นเหตุให้แม่ฉันต้องตาย!!!”
“ทีนี้เธอเข้าใจหรือยัง แม่ฉันต้องตายก็เพราะมัน!!”
“ลูกอย่างเธอต้องชดใช้ ฉันจะให้มันได้ลิ้มรสชาติของความเจ็บปวด
เจ็บจนไม่อยากมีชีวิตต่อ” อารมณ์เดือดพล่านในกายไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงโดยง่าย เมื่อได้พูดถึงผู้หญิงคนนั้น ความโกรธแค้นในใจของเขาก็ลุกโชนขึ้นมาทันที
“ม แม่ ของฉันงั้นหรอ… เหอะ”
“เขาไม่คิดว่าฉันเป็นลูกเลยด้วยซ้ำ ฮึก ฉันเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดในชีวิตของเขา”
“สิ่งที่คุณคิดว่าถ้าฉันเจ็บแล้วเขาจะเจ็บ มันไม่มีทางเป็นจริงได้ เขาไม่เคยรักฉัน ไม่เคยเหลียว ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเห็นฉันเป็นลูก ฮือๆ ไม่เคยเลย” ความอัดอั้นภายในใจถูกพรั่งพรูออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันไม่มีประโยชน์ ผู้หญิงคนนั้นเป็นต้นเหตุให้แม่เขาตายแล้วอย่างไร ลูกที่ไม่ต้องการอย่างเธอต้องเป็นคนชดใช้งั้นหรอ แค่นี้ชีวิตเธอมันยังเลวร้ายไม่พออีกหรืออย่างไรกัน เธอต้องทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากเรื่องเลวร้ายพวกนี้สักที! เธอต้องทำยังไงใครก็ได้ช่วยตอบเธอที
“เธอคิดว่าการที่เธอพูดแบบนี้มันจะทำให้ฉันใจอ่อนปล่อยเธอไปงั้นหรอ” แม้จะตกใจในสิ่งที่เธอพูด แต่เขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี ไม่ว่ายังไงเธอและผู้หญิงคนนั้นต้องชดใช้
“และต่อให้เธอร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ฉันก็จะไม่เห็นใจ”
“ฮึก ต่อให้คุณทำร้ายฉันให้เจ็บปวด หรือจนฉันตายไป คุณก็จะไม่ได้เห็นความเจ็บปวดจากผู้หญิงคนนั้น เธอไม่มีทางที่จะเจ็บปวดกับสิ่งที่ฉันเจอ ไม่มีทาง มันไม่มีทาง!!!” เธอพูดกับเขาทั้งน้ำตา ชีวิตของเธอมันน่าสมเพชไม่มีที่สิ้นสุด ได้! ในเมื่อเขาต้องการจะทำร้ายเธอให้เธอเจ็บปวดเพื่อหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะเจ็บปวด เธอจะทำให้เขาได้เห็นว่าสิ่งที่เธอพูดมันเป็นความจริง
ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นไม่มีทางที่จะรู้สึกอะไรถ้าเห็นเธอเจ็บ และเธอเอง
ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะหลงเหลือความเป็นแม่ให้กับลูกที่ไม่ต้องคนนี้บ้างไหม จะมีความรู้สึกอะไรสักนิดให้กับลูกที่ไม่ต้องการคนนี้บ้างหรือเปล่า…แอบหวังในใจอยู่ลึกๆ ว่า ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแม่ของเธอจะรู้สึกเจ็บปวดไปกับเธอบ้าง เธอยอมเอาชีวิตอันน่าสมเพชของเธอเป็นเดิมพัน เพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกัน! ว่าผู้หญิงคนนั้นจะไร้หัวใจไม่เหลียวแล ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกห่วงใย หรือแม้แต่เศษเสี้ยวของความรักให้กับเธอเลยหรือเปล่า เธอที่เป็นลูกแท้ๆ เป็นลูกที่เขาเป็นคนให้กำเนิด…
“หึ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน จะมีแม่คนไหนจะทนอยู่เฉยได้”
“ถ้าลูกตัวเองเจ็บปวดจน ทนทุกข์ทรมานเหมือนตายทั้งเป็น…”