18 ข้่าวไข่เจียว
“อืม…”
“ฉันกำลังทำกายภาพบำบัดอยู่” วายุตอบกลับไปเสียงเรียบ แต่ก็ไม่ลืมที่จะสังเกตท่าทีของหญิงสาวตรงหน้า เขาไม่รู้ว่าที่เธอพูดมาแบบนี้เธอต้องการอะไรกันแน่ อยากช่วยเขาจริง ๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่น แต่ถ้าไม่ลองก็คงไม่รู้เพราะของแบบนี้มันต้องพิสูจน์ หึ และถ้าเกิดเธอมีอะไรไม่ดีแอบแฝงละก็ชีวิตของเธอต่อจากนี้ เขารับรองเลยว่าเธอจะไม่ได้พบสิ่งที่เรียกว่าความสุขอีกเลย
“ถ้าอย่างนั้นให้ขวัญช่วยไหมคะ ขวัญพอจะช่วยอะไรคุณวินท์ได้ไหม” เธออยากจะช่วยเขาจริง ๆ เป็นการตอบแทนที่เขาช่วยเธอครั้งก่อน และเอ่อและเผื่อหัวใจดวงน้อย ๆ ดวงนี้ของเธอด้วย
“อืม ไว้พรุ่งนี้จะนักกายภาพบำบัดมา เธอก็อยู่ถามเอาแล้วกัน”
“จริงหรอคะ คุณวินท์จะยอมให้ขวัญช่วยดูแลคุณจริง ๆ ใช่ไหมคะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่วายเผลอตัววิ่งไปเกาะแขนเขาเขย่าไปมาราวกับเด็กน้อยดีใจที่ได้ของเล่น จับแขนเขาอยู่นานกว่าจะรู้ตัวก็เห็นใบหน้าครึมของเขาที่มองมา มือบางรีบปล่อยมันออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินกลับออกมาที่เดิม พร้อมกับขอโทษขอโพยเขายกใหญ่กลัวว่าเขาจะไม่พอใจ
“คือขวัญ ขวัญขอโทษนะคะ ขวัญไม่ได้ตั้งใจ”
เขาไม่ได้ตอบรับคำขอโทษของเธอแต่ก็ไม่ได้ต่อว่า ก้มหน้าทำงานตรงหน้าต่อ ทำให้คนที่ยืนอยู่เลิ่กลั่กอย่างทำตัวไม่ถูกว่าจะเอาตัวเองไปไว้ตรงไหนของห้อง ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปนั่งยังโซฟาตัวเดิม นั่งมองเขาทำงานอย่างเพลิดเพลิน จนเคลิ้มหลับไปในที่สุด
“ฉันจะเชื่อใจเธอได้ใช่ไหมขวัญข้าว เธอมาทำดีกับฉันโดยไม่หวังผลอะไรเลยจริงรึเปล่า” นายหนุ่มบนรถเข็นเอ่ยพูดกับหญิงสาวที่นอนหลับคุดคู้อยู่บนโซฟาตัวน้อยของเขา มือหน้ากำลังจะยกขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาปรกใบหน้างามออก แต่ก็ชะงักข้างไว้เก็บมันกลับที่เดิม ก่อนจะบังคับรถเข็นออกไปจากห้อง ไม่คิดที่จะปลุก และไม่คิดที่จะสนใจคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาตัวน้อยด้านหลัง ว่าเธอจะนอนสบายไหม จะหนาวจากแอร์ที่เขาเปิดทิ้งไว้รึเปล่า
เขาหันหลังจากไปอย่างเย็นชา
“มึงไม่ควรรู้สึกดีกับลูกของผู้หญิงแพศยาคนนั้น เธออาจจะทำดีเพื่อทดแทนสิ่งที่แม่ของเธอทำไว้ก็ได้ไอวินท์ ยังไงเธอก็เป็นลูกของมัน เชื่อก็คงไม่ทิ้งแถว หึ”
“เลิกคิดอะไรบ้า ๆ เพราะในความเป็นจริงมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้” แม้จะแอบหวังอยู่ลึก ๆ แต่พอย้อนดูความเป็นจริงที่เขาเคยเผชิญแล้วนั้นมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย แฟนสาวที่คบกันมานานยังทิ้งเขาไปได้เลย แล้วเธอจะรับผู้ชายแบบเขาได้หรอ จะมีความรู้สึกดี ๆ จริงใจ โดยไม่หวังผลจริงหรอ จะรักเขาด้วยใจจริงโดยที่ไม่สนร่างกายของเขาและหน้าตาทางสังคมของเธอได้จริง ๆ น่ะหรอ
หญิงสาวที่นอนหนาวขดตัวอยู่บนโซฟาตัวน้อยตลอดทั้งคืนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นขยับตัวขึ้นนั่งอย่างลำบาก รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว ถึงโซฟาที่เธอนอนอยู่จะนุ่มสบายกว่าที่นอนเก่า ๆ ในห้องของเธอก็เถอะ แต่เธอก็ชินกับมันแล้วเพราะในอดีตเธอก็นอนกับพื้นฟูกแข็ง ๆ ไม่ได้สบายเหมือนอย่างอยู่กับพี่สีเทียน
พอมานอนขดตัวอยู่แบบนี้รู้สึกทรมานกว่าที่นอนแข็ง ๆ เป็นไหน ๆ แขนเรียวยกขึ้นบิดไปมาขับไล่อาการปวดเมื่อย ก่อนจะสะดุ้งตัวลุกขึ้นยืนเมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สายตามองไปยังโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะกวาด ๆ ไปรอบ ๆ ห้อง แต่ก็ยังไม่พบคนที่กำลังตามหา ก่อนจะไปสะดุดเข้ากับนาฬิกาบนผนังห้องที่บ่งบอกเวลา เจ็ดโมงเช้า
“ตายแล้วยัยขวัญตายแน่ ๆ” มันเลยเวลาที่เธอต้องไปช่วยป้ารุ้งทำอาหารในห้องครัวและก็ใกล้เวลาที่เธอต้องไปทำงานที่ไร่ด้วย ร่างบางรีบวิ่งออกจากห้องลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว ที่แรกที่เธอไปก็คือห้องครัว แต่ก็ไม่พบใครอยู่ที่นั่นเลยแม้แต่คนเดียว องุ่นก็ไม่อยู่เพราะไปออกค่าย เวลานี้ป้ารุ้งคงเอาข้าวไปให้ลุงยุทธ โธ่ยัยขวัญทำไมแกถึงได้ไปหลับอยู่ที่นั่นได้นะ แล้วอิตาบ้านั่นก็ไม่ยอมปลุกปล่อยให้เธอนอนหนาวอยู่คนเดียวที่โซฟา เหอะ จิตใจเขาทำด้วยอะไรกันทำไมถึงได้ใจร้ายกับเธอนักทั้ง ๆ ที่เธอพยายามที่จะทำดีด้วยแล้วแท้ ๆ
“ทำคุณบูชาโทษแท้ ฮึ่ย!”
“จะไปไหน” ขาเรียวยาวฉบับนางแบบชะงักข้างทันทีที่ได้ยินเสียงเข้มเอ่ยทัก
“…” เธอเลือกที่จะทำเมินในเสียงนั้น เพราะรู้สึกน้อยใจที่เมื่อคืนเขาทิ้งให้เธอนอนหนาวอยู่คนเดียว
“นักกายภาพจะมาแล้ว จะออกไปก็ตามใจ” ได้ผลเธอยอมเดินกลับเข้ามาในบ้านถึงจะไม่พูดไม่จาก็ตาม ใบหน้าสวยบึ้งตึง แต่เขากลับคิดว่ามันน่ารักน่าเอ็นดู จนปรากฏเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้า
“ยิ้มอะไรของคุณไม่ทราบ”
“ฉันหิว”
“คะ?” คำตอบที่ได้มาทำเอาเธองงเป็นไก่ตาแตก หิวนี่นะ หิวแล้วยิ้มนี่นะ แล้วจะแปดโมงแล้วเขายังไม่ได้กินข้าวอีกหรือไง เลยเวลากินของเขาแล้วไม่ใช่หรอ หรือว่าเขาเกิดเรื่องมากไม่กินข้าวอีก หึ สมน้ำหน้า
“บอกว่าหิว”
“หิวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันคะ”
“เธอต้องทำให้ฉันกิน”
“วันนี้ป้ารุ้งลาหยุด ลุงยุทธไม่สบาย”
“คะ?”
“เลิกสงสัย แล้วไปทำได้แล้ว”
“คุณนี่มัน…”
กร๊อก กร๊อก กำลังจะเอ่ยปากต่อว่าเขา แต่ท้องน้อย ๆ ของเธอมันกลับร้องขึ้นมาเสียอย่างนั้น น่าอายชะมัดเลย ยัยขวัญ คิดได้ดังนั้นรีบวิ่งเข้าไปในห้องครัวทันทีก่อนจะลงทำเมนูง่าย ๆ เผื่อทั้งเขาและตัวเอง
“หึ ยัยเพี้ยนเอ้ย”
“มาแล้วค่าาาา” ไข่เจียวร้อน ๆ โปะบนข้าวสวยหนึ่งจากถูกวางไว้ตรงหน้าเขา ชายหนุ่มบนรถเข็นเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างไม่เข้าใจ เธอจะให้เขากินข้าวไข่เจียวงั้นหรอ ในตู้เย็นมันไม่มีอะไรกินแล้วหรือไง
“ข้าวไข่เจียวนี่นะ”
“ค่ะข้าวไข่เจียว ทำไมหรอคะ”
“หรือว่าคุณแพ้ไข่”
“เห็นฉันใจดีด้วยหน่อยก็อย่าให้มันมากนักขวัญข้าว”
“ก็ขวัญหิวนี่คะ หรือว่าคุณไม่หิวกัน ถ้ามัวแต่ทำเมนูอลังการเดี๋ยวก็ได้ปวดท้องกันพอดี” เธอตอบเขากลับไปด้วยน้ำเสียงติดน้อยใจอยู่น้อย ๆ พูดแค่นี้เองทำไมต้องดุกันด้วย
“คุณกินไปนะคะ เดี๋ยวก็จะไปกินเหมือนกัน” เอ่ยตัดบทก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อไปกินของตัวเองบ้าง แต่ยังก้าวขาได้ไม่ทันไร ก็ถูกเขาเอ่ยเรียกไว้เสียก่อน
“มากินกับฉัน”
“คะ?”
“ฉันไม่อยากกินคนเดียว อีกอย่างเกิดเธอวางยาฉันขึ้นมา เธอจะได้หนีไปไหนไม่ได้” แม้จะให้เหตุผลที่ดูตลกไปหน่อยแต่ตอนนี้เขาคิดประโยคที่ดีกว่านี้ไปออก เพียงแต่อยากมีคนนั่งกินข้าวด้วยก็เท่านั้น
“ได้ยินไหมขวัญข้าว”
“…” เธอไม่ตอบอะไรเขากลับไป เดินเข้าไปในครัวดังเดิมก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมกับข้าวไข่เจียวในมือ แต่ขาเรียวกลับต้องชะงักข้างไว้เมื่อมองไปยังโต๊ะอาหารกว้างแต่มีเขานั่งอยู่หัวโต๊ะเพียงคนเดียว มันทำให้เขาดูโดดเดี่ยวเพราะโต๊ะตั้งกว้างกลับมีเขานั่งอยู่คนเดียว สายตาเขาดูเหม่อลอยชอบกลแถมข้าวในจานยังอยู่ครบ ใจดวงน้อยเจ็บแปลบขึ้นมากับภาพตรงหน้า ชายหนุ่มรูปงามบนรถเข็นกับโต๊ะกว้าง มันชวนให้เศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
ครืด เสียงเลื่อนเก้าอี้ข้าง ๆ ปลุกคนที่นั่งเหม่อลอยคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ให้ตื่นจากภวังค์ความคิด ดวงตาคมหันมองตามเสียงเก้าอี้ที่ดังขึ้น ก่อนจะพบหญิงสาวที่เดินออกจากห้องอาหารไปเมื่อครู่ เธอนั่งลงพร้อมกับข้าวไข่เจียวในจานเช่นเดียวกับเขา แต่ดูข้าวของเธอจะเยอะกว่าไข่เสียอีก จะว่าข้าวสองส่วนไข่หนึ่งส่วนเลยก็ว่าได้
“กินกันเลยไหมคะ ขวัญหิวแล้ว :) ” รอยยิ้มน้อย ๆ ถูกส่งไปให้เขาก่อนจะก้มลงตักข้าวคำโตพร้อมกับไข่เจียวข้างบนเล็กน้อยใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย แก้มน้อยกลมโตอย่างน่ารักน่าเอ็นดู จนชายหนุ่มที่เหล่ตามองถึงกลับกลั้นขำแทบไม่ไหว ทำไมยัยนี้ถึงได้ทำอะไรเป็นเด็ก ๆ แบบนี้นะ ไม่รักษาภาพรักของอดีตนางแบบสาวผู้โด่งดังเอาเสียเลย แต่เมื่อเห็นเธอกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เกิดหิวตามอยากกินบ้าง ไม่รอช้าตักข้าวไข่เจียวเข้าปากตามเธอไป อืม ก็อร่อยอย่างที่เธอทำท่าทางนั่นแหละ กินข้าวไข่เจียวธรรมดาเธอก็ดูมีความสุข เคี้ยวงั้ม ๆ จนแก้มกลมบ็อกก็ยังไม่หยุดตักเข้าปากเขาที่ดูตามก็พลอยเจริญอาหารไปด้วย นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ได้มีคนนั่งกินข้าวด้วยแบบนี้ นานจนแทบจำไม่ได้เลยล่ะ
ดวงตาคู่สวยจ้องข้าวไข่เจียวบนจานเขาตาเป็นมัน เธอกินของตัวเองจนหมดแล้ว ของเขาก็ใกล้หมดเช่นกัน แต่เธอยังรู้สึกไม่อิ่มเลย คอยกลืนน้ำลายลงคออย่างเงียบ ๆ ยามเขาตักอาหารเข้าปาก ชายหนุ่มที่คอยแอบมองเธออยู่เป็นระยะๆ รู้ได้ทันทีเลยว่าหญิงสาวข้างกายของเขายังไม่อิ่มและกำลังจ้องมองข้าวบนจานเขาอยู่
“อยากกินหรอ”
“อึก ป เปล่าคะ คุณกินไปเถอะเดี๋ยวขวัญเอาจานไปเก็บก่อน”
“อะ ฉันแบ่งให้” ไข่เจียวพร้อมข้าวสวยฝั่งที่เขายังไม่ได้กินถูกตัดแบ่งก่อนจะยกมันให้เธอ ส่วนคนที่อยู่ก็มีข้าวไข่เจียวมาเพิ่มในจานก็มองเขาอย่างงุนงง ในการกระทำของเขา เขาจะมาไม้ไหนอีกเนี่ยแต่ไว้ค่อยคิดแล้วกันตอนนี้เธอหิวข้าวมาก ไว้ค่อยรับมือทีหลังแล้วกันว่าเขาจะทำอะไร ตอนนี้ขอกินก่อน
“ขอบคุณนะคะ :) ” เสียงหวานใสพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ๆ พริมใจถูกส่งให้เขาเป็นการตอบแทนก่อนจะลงมือทานต่อ