บท
ตั้งค่า

13 ช่วยเหลือ

“ไอใหญ่ แฮ่ก ไอใหญ่โว้ย อยู่ไหนวะ”

“มีใครเห็นไอใหญ่บ้าง” นางเล็กเดินเรียกหาลูกชายของตนไปทั่วไร่ หลังจากเก็บองุ่นกับหญิงสาวที่พึ่งได้รู้จักกันนามว่าขวัญอยู่ดีๆ ก็คลาดกัน

เธอลองเดินหาแล้วแต่ก็หาไม่พบ เลยจะให้เจ้าลูกชายมาช่วยหาอีกแรง ดึกดื่นแบบนี้เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอาจจะหลงทางหรือเกิดอันตรายได้ ซ้ำร้ายวันนี้เป็นคืนเดือนดับ ทำให้การตามหาหญิงสาวนั้นยากไปกว่าเดิมต้องอาศัยไฟฉายบนหัวส่องสว่างเท่านั้นหากใช่ตาเปล่าปราศจากแสงไฟนั้นยากที่จะมองเห็น

มันทำให้เธอรู้สึกว่ามันยิ่งอันตรายมากไปกว่าเดิม ถึงที่ไร่จะไม่ค่อยมีเรื่องอันตรายเกิดขึ้นเพราะทุกคนในนี้ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะทำงานด้วยกันมานาน บางคนก็ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ แต่หญิงสาวนี้สิ น่าจะพึ่งมาเพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าคร่าตามาก่อน แถมเธอยังหน้าตาสละสวยดีไม่ดีไอพวกขี้ยาแถวนี้มาพบอาจเป็นอันตรายได้ หรือแม้แต่พวกผู้ชายภายในไร่เองเธอก็ไม่ไว้ใจพวกมันเหมือนกัน สัญชาตญาณดิบของคนเรามันปรากฏออกมาได้ทุกเมื่อ ยิ่งเห็นของสวยๆ งามๆ เธอล่ะเป็นห่วงจริงๆ ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีอย่างที่เธอคิดเลย

“เองเห็นไอใหญ่รึเปล่า”

“ไม่จ้ะ”

“แล้วผู้หญิงที่หน้าตาสวยๆ ที่มากับพ่อเลี้ยงวันนี้ล่ะเห็นบ้างไหม”

“ไม่จ้ะ พวกฉันไม่เห็นนะป้า มีอะไรหรอ”

“เปล่าๆ พวกเองทำงานกันต่อไปเถอะ”

“หายไปไหนกันวะ” ทั้งลูกชายทั้งหญิงสาว โอ้ยอกอิเล็กจะแตก

“ใช่ต้องบอกคุณวินท์ ต้องบอกคุณวินท์” คิดได้ดังนั้นก็สาวเท้าเดินออกไปจากไร่ทันที ระหว่างก็ตะโกนเรียกหาหญิงสาวและลูกชายไปด้วย

จนในที่สุด

“แม่ แฮ่ก มีอะไรรึเปล่ามีคนบอกว่าแม่ตามหาใหญ่” ใหญ่รีบวิ่งมาหาผู้เป็นแม่ตามเสียงเรียกที่ได้ยินหลังจากที่เขาเดินเก็บองุ่นอยู่ดีๆ ก็มีคนงานมาบอกว่าแม่กำลังตามหาเขาอยู่และดูเหมือนกำลังตามหาผู้หญิงอีกคนที่มากับนายหัวด้วย

“หนูขวัญหายไปไอใหญ่ แม่เดินหาไปทั่วแล้วแต่ก็ไม่เจอ เลยจะเรียกให้เองมาช่วยหา กลัวว่าจะเป็นอันตรายเพราะเธอพึ่งจะเข้ามาในไร่นี้เป็นครั้งแรก อาจจะหลง หรืออาจจะเจอพวกขี้ยาท้ายไร่จับไป แม่กลัวไอใหญ่ นี่ก็กำลังจะไปบอกคุณวินท์” หญิงวัยกลางคนเอ่ยบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงร้อนรน ขาก็ก้าวเดิน ปากก็อธิบายบอกลูกชายไป ในใจเธอตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมด และเธอก็รู้สึกเธอกำลังมีรางสังหรที่ไม่ดี

“งั้นแม่ไปบอกคุณวินท์เถอะ เดี๋ยวใหญ่จะลองออกไปตามหาคุณขวัญอีกรอบ”

“เออๆ เอางั้นก็ได้ ไปชวนพวกคนงานมาช่วยกันตามหาด้วยก็ได้ แม่รู้สึกแปลกๆ เหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเองรีบไปเถอะ”

เมื่อตกลงกันเสร็จแล้วสองแม่ลูกก็แยกย้ายกันออกไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ ลูกชายเกณฑ์คนงานออกไปช่วยกันตามหาหญิงสาว ส่วนผู้เป็นแม่นั้นรีบนำข่าวไปบอกพ่อเลี้ยงหนุ่ม

“คุณวินท์คะ แฮ่ก คุณวินท์จริงๆ ด้วย” หลังจากที่เดินมาตามทางไปบ้านของเจ้านายหนุ่มสักพัก ระหว่างทางก็เห็นชายหนุ่มที่ตนกำลังตามหานั่งเหม่อลอยอยู่บนรถเข็น สายตาทอดมองออกไปยังไร่กว้างที่มืดมิด ก่อนจะเอ่ยเรียกให้เจ้านายหนุ่มได้สติ

“ป้าเล็กมีอะไรรึเปล่าครับ” วายุถามขึ้นอย่างแปลกใจ ที่อยู่ๆ คุณป้าหัวหน้าคนงานก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา ไม่ใช่ว่าตอนนี้ป้าต้องเก็บองุ่นอยู่ในไร่ กับคนของเขาหรอกหรือ

“หนูขวัญค่ะ แฮ่ก หนูขวัญหายตัวไปค่ะ เมื่อกี้ป้าก็เก็บองุ่นกับเธออยู่ดีๆ หันมาอีกทีก็หายไปแล้วค่ะ ป้าเดินตามหาจนทั่วแล้วก็ไม่เห็น แฮ่ก คุณวินท์ช่วยเกณฑ์คนงานออกตามหาได้ไหมคะ ป้ากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

“ป้าว่าไงนะครับ”

“ยัยนั่นหายไปหรอ”

“เธอแอบหลบไปอู้งานที่ไหนรึเปล่าครับ” แม้จะรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ด้วยอคติส่วนตัวทำให้เขายังไม่ปักใจเชื่อ

“ป้าว่าไม่ใช่แน่นอนค่ะ ดูเธอตั้งใจทำงานดีนะคะ ไม่น่าจะอู้งานหรอกค่ะ อีกอย่างตอนแรกที่หนูขวัญจูงมือพาป้าเดินเข้าไปก็เข้าไปลึก ป้ากะว่าจะพาเธอไล่เก็บมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณที่คนงานหญิงเก็บกัน แต่พอหันมาอีกทีเธอก็หายไปแล้ว”

“ว่ายังไงนะครับ” ถ้าไปลึกแสดงว่าเธออาจจะเดินหลงไปท้ายไร่ได้

ซึ่งท้ายไร่ก็เป็นที่มั่วสุมของพวกวัยรุ่น และท้ายไร่เขาฝั่งที่เธอไปเก็บองุ่นวันนี้มันอยู่ติดกับไร่ของไอชวัฒน์ คนที่มักจะคอยเอาชนะเขาอยู่เสมอไม่ว่าเรื่องอะไร

แต่มันก็ไม่เคยเอาชนะเขาได้เลย พอเขาประสบอุบัติเหตุ จนทำให้เดินไม่ได้ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น ก็เป็นมันที่คอยมองเขาด้วยสายตาดูถูก เหยียดหยาม มองด้วยความน่าสงสารและน่าสมเพช นี่คงเป็นอย่างเดียวที่มันเอาชนะเขาได้ก็คือร่างกายที่ไม่สมประกอบของเขา เพราะถึงเขาจะพิการจนต้องนั่งติดรถเข็นแบบนี้แต่ในเรื่องหน้าที่การงาน เขากลับทำได้ดีไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้จะเดินไปไหนมาไหนไม่สะดวกเหมือนก่อน แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำงานของเขามากนัก แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นอุปสรรคแล้ว เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งหายไปแต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนั่งรอเฉยๆ บนรถเข็น รอให้ลูกน้องมารายงานข่าว

“โธ่เว้ย!” แต่หากจะคิดในแง่ดีนี่มันอาจจะเป็นการทำร้ายเธออย่างหนึ่งก็ได้

“หึ ผิดที่เธอเกิดเป็นลูกของมันเอง ขวัญข้าว” ถึงจะคิดแบบนั้นแต่รถเข็นไฟฟ้ากลับค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามทางคอนกรีตในไร่ที่เขาสั่งให้สร้างไว้ เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงสุดทางที่รถเข็นจะสามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้ และมันก็เป็นบริเวณท้ายไร่พอดี สายตาคมทอดมองไปในความมืดมิดตรงหน้า ก่อนจะปิดไฟฉายในมือลงเมื่อรับรู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าเบาๆ กำลังเดินมาทางนี้

“ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย” น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ขาเรียวเดินไปข้างหน้าช้าๆ อย่างอ่อนแรง เธอรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีพยายามฝืนร่างกายเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย เมื่อกี้เธอเห็นดวงไฟน้อยๆ มาแต่ไกลด้วยคิดว่าคงจะมีคนอยู่บริเวณนั้นเลยเสี่ยงเดินมา เพื่อจะสามารถขอความช่วยเหลือได้ แต่พอเดินเข้ามาใกล้ๆ ดวงไฟนั้นกลับหายไป น้ำตาหยดแหมะลงบนแก้มนวลเมื่อคิดว่าไม่เหลือหนทางที่จะรอดพ้นจากเงื้อมมือของเหล่าชายฉกรรจ์พวกนั้น เพราะเธอรับรู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าหนักๆ สองสามคู่ที่เดินตามเธอมา พวกมันคงรู้ตัวกันแล้วว่าเธอหนีออกมาได้ เธอใช้จังหวะที่พวกมันเผลอมัวมั่วสุมยากันอยู่แอบหนีออกมา พวกมันคงคิดว่าเธอหมดสติไปแล้ว แต่ในความจริงเธอเริ่มรู้สึกตัวมาได้สักพักตั้งแต่พวกมันพาตัวเธอไปที่กระท่อมนั้น แต่อยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว ไม่ส่งเสียงร้องอะไรให้พวกมันรู้ว่าเธอรู้สึกตัวแล้ว และอีกอย่างเธอก็กลัวมากด้วย

ในตอนแรกมีแค่ผู้ชายสองคนที่พาเธอไป แต่พอไปถึงที่นั่นกลับพบกลุ่มคนนั่งมั่วสุมยากันอยู่ เธออยากจะกัดลิ้นตัวเองตายให้รู้แล้วรู้รอด เพราะพวกมันแต่ละคนดูน่ากลัวมากๆ ทั้งยังพูดจาหยาบคายแทะโลมเธออย่างน่าเกลียดจนเธอรู้สึกขยะแขยงไปหมด ไม่แม้แต่จะอยากให้อากาศหายใจรวมกับพวกมัน และถ้าหากทุกอย่างมันเลวร้ายในแบบที่เธอคาดการณ์ไว้ ความตายคงเป็นทางออกสุดท้ายที่เธอคิดออกในตอนนั้น แต่ตอนนี้เธอหนีออกมาจากพวกมันได้แล้ว ได้โปรดเถอะสวรรค์อย่าใจร้ายกับเธอนักเลย มอบสิ่งดีๆ ตอบแทนให้เธอบ้างได้ไหมเหตุการณ์ที่เธอต้องเผชิญในแต่ละครั้งมันเลวร้ายเสียจนเธอแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ฮึก มันเจ็บปวดไปหมดเกินกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ และตัวคนเดียวอย่างเธอจะรับไหวแล้ว ฮือ

“ฮึก ใครก็ได้ ช่วยขวัญด้วย”

“ขวัญข้าวหรอ ใช่เธอหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยตอบกลับไปเมื่อได้ยินเสียงหวานคุ้นหูดังลอยมาในอากาศ แม้จะเป็นเสียงที่เบา แต่บริเวณโดยรอบนั้นเงียบสนิท จึงทำให้เขาสามารถที่จะได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของเธอ

“ค คุณวินท์หรอคะ ฮือคุณอยู่ไหน ฮึกช่วยขวัญทีค่ะ ได้โปรดช่วยขวัญด้วย” ขาเรียวอันไร้เรี่ยวแรงค่อยๆ เดินไปตามเสียงที่ตอบกลับมา มันเป็นเสียงของเขา เสียงของคนที่คิดจะทรมานเธอให้เจ็บ แต่ตอนนี้เขาคือความหวังสุดท้ายของเธอ เขาคือคนเดียวที่จะช่วยเธอได้

“เธออยู่ไหนขวัญข้าว” ไฟฉายในมือถูกเปิดออกขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะหันทิศทางให้มันส่องสว่างไปตามทิศทางขอเสียงที่ได้ยิน หญิงสาวในสภาพอ่อนแรง เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดิน เศษใบไม้และดอกหญ้าที่ติดตามเสื้อผ้ามา แขนเรียวยกขึ้นกอดตัวเองแน่น ร่างบางอันสั่นเทาค่อยๆ เดินมาตาแสงสว่างที่เขาเปิดนำทางให้ ดวงตาคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ แสงจากไฟฉายที่ส่องสว่างของเขาทำให้เธอต้องยกมือขึ้นมาป้องหน้าไว้ ก่อนที่จะลดมันลงเมื่อเขาปิดไฟฉายและเธอก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

“ฮึก คุณวินท์” ร่างบางอันอ่อนแรงทรุดตัวลงตรงหน้าเขาก่อนจะแขนเรียวขึ้นก่อนเข้าไว้อย่างต้องการที่พึ่งความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยแผ่ซ่านเข้ามาในจิตใจ ด้านชายหนุ่มนั้นเขาก็ปล่อยให้เธอกอดอยู่อย่างนั้นไม่ผลักไส และไม่ได้กอดตอบ จนเวลาผ่านไปสักพัก เสียงฝีเท้าหนักๆ หลายคู่ดังเข้ามาใกล้ เขาจึงเอ่ยบอกให้เธอเงียบก่อน

“หยุดร้องก่อน มีคนกำลังมา”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel