ตอนที่ 9 พบกันอีกแล้วนะครับ
ดรัลดาลงจากรถแท็กซี่ตรงหน้าคลินิกแห่งหนึ่ง
จากความเข้าใจของพ่อกับแม่เลี้ยงว่าเธอออกเที่ยวทุกวัน แต่งตัวแต่งหน้าจัดจ้านที่มองอย่างไรก็ทั้งแรดทั้งร่านกร้านโลกแต่แท้จริงนั้นหูที่เหมือนระเบิดและเจาะหลายรู เธอเจาะแค่ข้างละสองรูที่เหลือก็ใส่ห่วงหลอกตาและต่างหูแฟนชั่น
อีกอย่างเธอชอบมาของานพิเศษทำที่คลินิกแห่งนี้ ไม่ได้ไปเที่ยวในสถานที่ใช้เงินฟุ้งเฟ้ออะไร
แม่ของเธอกำลังหันมาขายสินค้าเกี่ยวกับเครื่องสำอางและอาหารเสริมตามสมัยนิยม เธอก็เลยอาศัยว่าได้ทุนนักกีฬามาที่นี่ ติวเข้มให้ตัวเองจนเข้าเรียนหลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิตได้ เป้าหมายสูงสุดของเธอคือช่วยงานแม่นี่เนอะ เหนื่อยยากก็ยอม
เพียงแต่วันนี้ไม่มีเวรเข้างาน ดรัลดาแค่มารอเพื่อนที่เข้าเวร เมื่ออีกฝ่ายเลิกงานก็ค่อยพากันไปเที่ยวหาอะไรกินตามประสา เธอไม่ค่อยชอบเที่ยวหรอกผับบาร์ เพื่อนสนิทที่คบก็ไม่ชอบเช่นกัน
แต่ก็ไม่ใช่เด็กดีขนาดนั้น ไม่ใช่ไม่เที่ยวสถานที่อโคจรเลย แหล่งอบายมุขก็เคยไป เธอเที่ยวเป็นดื่มเหล้าเก่ง เอาตัวรอดได้ เพื่อนฝูงที่คบก็มีหลากประเภทหลายกลุ่ม มีทั้งในคณะนอกคณะ ต่างมหาวิทยาลัยก็มีมาก เพื่อนจากจังหวัดทางเหนือลงมาเรียนต่อกรุงเทพฯ ก็เยอะ กระจายไปทั่วนั่นแหละ รวมตัวแต่ละแก๊งนัดเจอแต่ละก๊กประหนึ่งเดินสายมีตติ้งแฟนคลับ และสาเหตุที่เหมือนออกเที่ยวแทบทุกวันก็เพราะเจ้าเพื่อนเหล่านั้นผลัดกันนัดถี่เหลือเกิน ถ้าไม่ไปตามนัดมีน้อยเนื้อต่ำใจอีกต่างหาก
“รอนานไหมรัน” เอรินเดินมาสะกิดไหล่ดรัลดา “ป่ะ”
“อือ...” ดรัลดาลุกขึ้นแล้วเดินกอดไหล่เพื่อน “วันนี้เป็นไง งอนกับแฟนอีกรึเปล่า”
เอรินยู่หน้า “ไม่งอนแล้ว แกอ่ะ อย่าแซวสิ”
ดรัลดาหัวเราะ “ฉันจะแซวแกจนแก่เลยคอยดู เข้าใจผิด หาว่าฉันแอบแซ่บกับแฟนแก คิดไปได้ไง”
เอรินหัวเราะ “ช่วยไม่ได้ ก็แกสวย แถมยังลุคนางมารอ่ะ”
ดรัลดาเป็นแบบที่เพื่อนว่าจริงๆ
เธอสวยจัด ดวงตาโฉบเฉี่ยว ปากจมูกคิ้วตาแอบเซ็กซี่ขยี้ใจ แต่ผู้ชายไม่ค่อยจีบหรอก เพราะมองมุมไหนก็เป็นผู้หญิงร้ายกาจ เกเรระราน ฟาดได้ฟาด จีบก็ยาก
แต่ถ้าจีบติดคงต้องยอมเป็นทาสถึงจะคบได้ แค่คิดก็เหนื่อย
ผู้ชายส่วนใหญ่จึงมักฉลาดมองขาดก็เลยไม่จีบให้เสียเวลา พวกเขาเลือกเข้าหาเพื่อนเธออีกคนที่น่ารักมากกว่า แต่รายนี้ดันมีแฟนแล้วน่ะสิ แฟนหล่อนทั้งตัวโต ลุคเหมือนมาเฟีย น่ากลัวมาก
สองสาวพูดคุยเสียงใสตลอดทาง กระทั่งมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตั้งโดดเดี่ยวของคุณตาคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนมีร้านลาบเหนืออุ้ยพันอยู่ติดกัน แต่รายนั้นเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งกลับบ้านเกิดไปก่อนแล้ว
ดรัลดาเป็นโรคเห็นคนสูงอายุแล้วใจบาง เธอเห็นคุณตาขายก๋วยเตี๋ยวคนเดียว ทั้งรับออร์เดอทั้งลวกเส้นหั่นผักแล่เนื้อยกมาเสิร์ฟคิดเงินทอนเงิน ทำเองทุกขั้นตอน เธอก็เลยมาอุดหนุนและช่วยงานบ่อยๆ แกทำอร่อยด้วยนะ คนแน่นขนัดเกือบทุกวัน
วันนี้ก็ด้วย คิดว่าจะอยู่ช่วยจนเก็บร้านล้างจานน่ะแหละ แต่ก่อนช่วยงานของเพิ่มพลังก่อน
“ขอเหมือนเดิมหนึ่งชามค่า”
“ได้ๆ ให้พิเศษเลย”
“ขอหนูด้วยค่า” เอรินโบกไม้โบกมือให้คุณตา
“ได้ๆ แปบเดียวๆ เดี๋ยวได้กิน” ไม่นานจริงๆ ครู่เดียว ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเนื้อตุ๋นสองชามก็มาวางลงตรงหน้า
“วันนี้คนเยอะ อย่าเพิ่งรีบกลับนะหนู อยู่ช่วยตาหน่อย”
“ได้ค่ะ” สองสาวพยักหน้าพร้อมกัน
ดรัลดาถามขึ้นด้วยสำเนียงของคนอาศัยจังหวัดทางเหนือ “คุณตาจะกลับต่างจังหวัดเมื่อไหร่เหรอ?”
สนิทสนมกันจนล่วงรู้ชีวิตประมาณหนึ่งจึงพอถามไถ่ได้ด้วยความเป็นห่วงตามประสาหมู่เฮาคนบ้านเดียวกัน
“ใกล้แล้วลูก ไม่เกินเดือนนี้หรอก ไม่ไหว ตาลาย ปวดหลัง เงินเก็บก็ได้พอไปปลดจำนองที่ เท่านี้ก็ใช้ชีวิตบั้นปลายได้แล้วล่ะ”
คุณตาเดินกลับไปยกเล้งที่มีเนื้อเปื่อยยุ่ยมาถ้วยหนึ่งวางให้ “อ่ะ แถมให้ ค่อยๆ กินไม่ต้องรีบนะลูก”
“ขอบคุณค่า”
ดรัลดากับเอรินก้มหน้ากินบะหมี่อย่างไม่มีเวลาแอ๊บสวย เพราะกินเสร็จแล้วจะได้มีเวลาช่วยงาน ถ้าขายหมดเร็วคุณตาก็จะได้กลับบ้านเร็วด้วย
จริงๆ คุณตาเคยมีลูกจ้างนะ แต่ก็อย่างว่า ลูกจ้างดีๆ บางทีก็หายากเกินไป ที่ได้มาก็ทำเอาไม่กล้าจ้างใครอึก คนแรกขี้เกียจ คนต่อมาสามวันดีสี่วันไข้ คนสุดท้ายหนักสุก ขโมยเงินไม่มีเกรงใจ สุดท้ายก็อย่างที่เห็นแหละ คุณตาจำเป็นต้องทำคนเดียว ดรัลดาเห็นคุณตายอมเหนื่อยแต่ให้ตายก็ไม่กล้ามีลูกจ้างอีกก็เลยช่วย
“รัน พรุ่งนี้วันหยุด เราไปเที่ยวกันไหม?”
ดรัลดาขมวดคิ้วหรี่ตามองเพื่อนอย่างรู้ทัน “ปกติไม่เคยชวนฉันเที่ยว แกถูกพี่คินหน้านิ่งแอบทำเสน่ห์ใส่มาแน่ๆ ใช่ป่ะ”
เอรินหน้าแดงนิดๆ เมื่อนึกถึงคีรินแฟนหนุ่มผู้ร้อนแรง “แกก็ พี่คินเขาต้องไปฝึกงาน นานๆ เจอกันที พรุ่งนี้โปรเจคเขาต้องออกวางโปรแกรมให้บริษัทธนินทร์กรุ๊ปนอกสถานที่ แต่เราไปแบบศึกษางานได้ เราขอแม่แล้ว ไฟเขียวน๊า อยากไปดูงานอ่ะ”
“แกไม่ได้อยากเที่ยวไม่ได้อยากดูงานจ๊ะ แกแค่ไม่อยากอยู่คนเดียวในห้องเหงาๆ ยายอาย”
“รู้ทันตลอดอ่ะ”
พอกินบะหมี่หมดชามก็พากันลุกขึ้นไปช่วยงานคุณตาทันที
ขณะทำงานอย่างขยันขันแข็ง รอบกายพลันมืดครึ้มเพราะร่างสูงของผู้ชายเดินมาห้อมล้อมปิดแสงสว่างจะหลอดไฟบนถนน โดยเฉพาะผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าใคร สีหน้าดุดัน ท่าทางข่มขวัญผู้คน
“พี่คิน”
เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน เอรินจึงร้องเรียกแฟนตัวเองอย่างดีอกดีใจจนออกหน้าออกตา ลืมไปเลยว่าเพิ่งทะเลาะกัน
คีรินก้มหน้าลงหอมหัวเอรินอย่างเอ็นดู “คิดถึงครับ”
ผู้ชายหน้าโหดเปิดโหมดคลั่งรักทันทีที่เจอหน้าแฟน
เอรินยิ้มแป้นตาพราว ส่วนเพื่อนที่ไม่เคยแม้แต่จะมีแฟนอย่างดรัลดาตาพร่าเป็นที่สุด บอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกยังไง
คีรินไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังพาเพื่อนมาด้วยเป็นโขยงเวลาเขาไปไหนมาไหนมักจะเหมือนพวกตัวโกงในหนังไทยร่วมสมัย ที่เดินมาแบบนำหน้ากลุ่มอันธพาลมีลูกน้องตามเป็นพรวน
ทั้งหมดทักทายแฟนสาวคนสวยของเพื่อนแล้วก็มองเพื่อนของแฟนเพื่อนตาปรอย
“หวัดดีครับ น้องรันคนสวย”
“หวัดดีค่ะพี่วิน พี่โชติ พี่โก้ พี่กิต พี่...”
ดรัลดายิ้มแย้มทักมายทุกคนอย่างไม่หยิ่งไม่ถือตัวอะไรเพราะพวกเขาคือเพื่อนของแฟนเพื่อน คนกันเองทั้งนั้น
แต่ดันต้องสะดุดเมื่อสบสายตากับใครบางคนในกลุ่มคีริน เขาคนนี้ผิดแผกแหวกแนวที่สุดในกลุ่ม
ผู้ชายสูงหล่อ ไหล่กว้าง ผิวขาว หน้าตาออกแนวผู้ดีที่ดูกี่ทีก็เหมือนจะมีดีกรีไม่ธรรมดา
เป็นผู้ชายที่สาวๆ สบตาด้วยเป็นต้องเนื้อเต้นใจสั่น ถ้าเผลอมองจนตาค้างก็ต้องหลบตาให้ทัน ไม่งั้นคงได้ปั่นป่วนท้องน้อยกระทั่งทนไม่ไหวต้องช่วยตัวเอง
นี่ไม่ใช่คุณชายข้างบ้านเหรอไง ทำไมมากับพี่คินด้วยล่ะ
โกมินทร์เองก็มองดรัลดาอย่างกังขาเช่นกัน ครั้นถูกมองมาด้วยแววตาแบบเดียวกัน เขาก็เพียงเลิกคิ้ว
“สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้ว พี่มินนะครับ”
เสียงทุ้มสุภาพและทรงเสน่ห์ดังขึ้นเมื่อเขาทักทายเธอ
ดรัลดาหน้าเหวอ คนอะไรดูดีกระทั่งเสียง
นึกชื่นชมในใจไม่ทันไรกลับได้ยินเขาพูดแซวเสียงทุ้มนุ่ม “ได้ยินว่าออกมาเที่ยว ขอเงินตั้งหมื่น ไหงทำงานงกๆ อยู่ที่นี่ล่ะ”
หนังตาดรัลดาพลันกระตุก
เขาแอบดูจริงด้วย ไอ้ถ้ำมอง!