บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 นังเด็กร้ายกาจ1

ทว่าต่อให้จารวีขู่แบบนี้แต่ดรัลดาไม่เห็นกลัว

เธอไหวไหล่ไม่ยี่หระ “ก็เอาสิ รันช่วยตั้งกระทู้ให้เลยก็ได้นะ นางร้ายสุดแซ่บนิสัยดีรับเคยมีสามีตีทะเบียน ช้ำโดนนอกใจนับปี จนต้องระเห็จหนีไปชุบตัวเมืองนอกหมายลืมอดีตสาหัส เพราะเพื่อนชั่วทำรักพัง”

จารวีอึ้ง

ดรัลดาเชิดหน้าว่าอีก “บอกก่อนว่าแฟนคลับแม่ไม่ได้โง่ พวกเขากินข้าวกันทุกคน ชาวเน็ตเองก็ฉลาดพอที่จะขุดคุ้ยประวัติของแม่ออกมาจนเจอผู้หญิงหยำฉาคนหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้เด็กอย่างรันต้องดื้อด้าน ใจแตก ไม่มีคนสอน กล้าไหมล่ะน้า”

“ยายรัน!”

“อ้อ...และเด็กใจแตกอย่างรันไม่เคยแย่งผัวใครแล้วกัน ไม่มีลูกนอกสมรสกับใครด้วยนะ”

“แก!” จารวีแทบกรีดร้อง เธอหูดับ รู้สึกเหมือนลมจับ

“พอแล้วรัน เลิกทะเลาะกับน้าจาเถอะ”

“พ่อมีสิทธิ์อะไรมาห้ามรัน ทำไม กลัวรันตบเมียรักของพ่อจนเสียโฉมหรือไง น้าจาหน้าด้านจะตาย ไม่เสียโฉมง่ายๆ หรอก”

“ยายรัน!” จารวีกำหมัดแน่น

ดรัลดาไม่สนใจ เธอฟาดมือกวาดจานขนมบนโต๊ะจนตกแตกกระจายเต็มพื้น ล้มโต๊ะกินข้าว เตะเก้าอี้จนกระเด็น เสียงดังโครมคราม สภาพครัวพังเละ

หญิงสาวแสดงบทเด็กเกเรผู้เกรี้ยวกราดเอาแต่ใจอยู่นาน กระทั่งพ่อของเธอยอมแพ้ ห้ามปรามเสียงอ่อน

“พอแล้วรัน ลูกอยากไปเที่ยวเหรอ เดี๋ยวพ่อโอนเงินให้”

ดรัลดายืนหายใจหอบ “โอนมาเลยเดี๋ยวนี้หมื่นนึง”

กิตติไม่ใส่ใจสายตาของจารวีที่ห้ามปรามเขาในฐานะเมียและคนดูแลบัญชีครัวเรือน

เขาหยิบโทรศัพท์มากดโอนเงินให้ลูกสาวคนโตทันที หมายแยกผู้หญิงอารมณ์ร้ายสองคนเพื่อตัดปัญหาเหมือนทุกครั้ง อย่างคนที่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น

คนหนึ่งก็เมียคนปัจจุบัน อีกคนก็ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเมียเก่าที่เขาเฝ้าฝันเอาแต่คิดถึงอยากตามง้ออยู่ทุกวัน

ดรัลดาล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงด้านหลังขึ้นมาดู พอเห็นยอดเงินเข้าแล้วก็ยิ้มหวานให้พ่อ ยอมสงบศึกจากไปโดยดี

คำสอนว่าอย่าอายทำกินอย่าหมิ่นเงินน้อยอย่าคอยวาสนา เธอเชื่อและทำตามมาตลอด

ไม่เลือกงานไม่ยากจนก็จริงแต่ขยันผิดที่สิบปีก็ไม่รวยไง

เงินคือพระเจ้านะเท่าที่เธอรู้ ดังนั้น หากมีช่องทางใดให้ได้เงินมาง่ายๆ คือเอาหมด

เงินนี้เธอจะเก็บไว้เอาไปซื้อเก้าอี้นวดไฟฟ้าให้ปู่กับย่า เธอไม่ได้อยู่บีบนวดให้พวกท่านเหมือนทุกวันก็ต้องลงทุนหน่อย เพื่อเก้าอี้ตัวนั้นเธอยังต้องหาเรื่องเอาเงินจากพ่ออีกบ่อยๆ

ช่วยไม่ได้ที่พ่อเอาแต่เลี้ยงดูลูกเมียทางนี้จนไม่ส่งเงินให้ปู่ย่า หาว่าปู่ย่าไม่มีภาระอะไร ที่มีอยู่ก็พอกินพอใช้สบายๆ ไม่ลำบาก

ตรรกะอะไรก็ไม่รู้

ส่วนป้าบัวของเธอชอบสร้อยทอง เดี๋ยวเธอหางานพิเศษทำค่อยซื้อให้ละกัน

ดรัลดายักคิ้วหลิ่วตา ส่งยิ้มเย้ยๆ ให้จารวี เดินส่ายสะโพกยั่วโมโหจนพ้นห้องครัวและตัวบ้านไป

จารวีตะโกนลั่น “กลับมาเดี๋ยวนี้นะยายรัน นังเด็กบ้า”

เมื่อปรามลูกสาวไม่ได้ กิตติก็หันมาปรามเมียแทน

“พอได้แล้วจา”

“พี่กิตก็อีกคน เด็กบ้านนอกคนหนึ่งรู้จักใช้เงินเที่ยวคืนละเป็นหมื่นเนี่ยนะ พี่ตามใจมันเกินไปมั้ย”

“ทำไมจะไม่ได้ ยายลินยังใส่เสื้อผ้าแพงชุดราคาเป็นหมื่นๆ ใช้กระเป๋าใบล่ะแสนได้เลยนี่”

กิตติยกลูกสาวคนเล็กมาอ้างเพื่อหักล้าง

จารวีหันขวับนัยน์ตาแวววับ “แล้วไง ไม่ใช่หลักล้านซะหน่อย อีกอย่างกระเป๋ามีประโยชน์กว่า ใช้ได้นานเป็นปีๆ ไม่ใช่หมดแล้วหมดเลยเหมือนเอาไปเที่ยวกลางคืนแค่แปบๆ หมดแค่สี่ห้าชั่วโมง กระเป๋าพอเบื่อขายต่อก็ได้ เงินเดือนพี่กิตหลักแสนก็จริง แต่ถ้าใช้คืนละหมื่นแบบนั้นจะไปเหลืออะไร ยัยรันออกเที่ยวเกือบทุกวัน แถมใช้เงินเหมือนลูกคนรวยแบบนี้”

เหมือนที่ไหน พวกไฮโซเขาเที่ยวกันคืนละเป็นแสนๆ

กิตติคิดในใจแต่ไม่ได้เถียงออกมา เพียงเปลี่ยนประเด็น “พอได้แล้วน่ะจา เสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน ไม่อายรึไง”

และมันก็ได้ผล จารวีเงียบเสียงลงทันที

สาเหตุที่เธอกับกิตติเลือกโครงการบ้านที่นี่ก็เพราะมีแต่ระดับคนรวยอยู่อาศัย คอนเนกชันดีๆ ทั้งนั้น ข้างบ้านก็ไม่ใช่ใคร เป็นบ้านที่เจ้าของบริษัทที่กิตติกับเธอทำงานอยู่ซื้อให้ลูกชาย

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ซื้อเพ้นเฮ้าส์หรูๆ บนคอนโดสูงแบบที่ไฮโซหนุ่มๆ เขาชอบกัน คุณชายไฮโซจากตระกูลผู้ดีด้วยซ้ำ

กระนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จารวีควรสงสัย เธอสนใจเพียงจะทำยังไงให้ลูกสาวตัวเองได้อีกฝ่ายเป็นสามี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel