ตอนที่ 3 (เรื่องราวของเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่สั่งสอน) ภรรยาแสนดี สามีที่รัก 1
ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ดารารัตน์จำต้องวางแก้วนมที่กำลังดื่มเพื่อบำรุงลูกน้อยในครรภ์ลงบนโต๊ะก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปุ่มรับสาย เธอยิ้มกับโทรศัพท์ขณะกรอกเสียงลงไป
“ค่ะพี่กิต”
“ดาว คืนนี้พี่มีกินเลี้ยงหลังเลิกงานนะครับ อาจกลับดึกหน่อยนะ”
“ค่ะ เมาห้ามขับนะคะ”
“ถ้าเมาเดี๋ยวพี่ให้เพื่อนที่ไม่เมาไปส่ง”
“ค่ะ”
“กินข้าวหรือยัง”
“กินแล้ว”
“นอนเลยนะ ไม่ต้องรอพี่”
“ค่ะ ขอให้สนุกนะคะ”
“ครับผม”
สามีภรรยาคุยกันหวานชื่นก่อนตัดสายไปเป็นการยุติ ดารารัตน์นั่งยิ้มกับโทรศัพท์ครู่หนึ่งจึงวางลงบนโต๊ะหัวเตียง จังหวะนั้นเสียงเรียกเข้าก็ดังเข้ามาอีก หญิงสาวกดรับทันที
“ค่ะ พี่ดาด้า”
ดาด้าหรือธยาดา คือไฮโซสาวเพื่อนรุ่นพี่ของดารารัตน์ ฝ่ายนั้นตะเบ็งเสียงดังทันทีที่เธอรับสาย
“ยัยดาว พี่เพิ่งรู้ว่าแกท้อง”
ดารารัตน์ยิ้มอ่อน “สิบวีคแล้วพี่”
“โอ้ย! อะไรกันคะเนี่ย? เรียนจบปั๊บท้องปุ๊บจะไวไปไหนจ๊ะ รีบยกครอบครัวไปสำรวจดวงจันทร์หรือไง?”
“แหม พี่ก็พูดเว่อร์ค่ะ” ดารารัตน์หัวเราะเสียงใส“แค่บังเอิญแกมาไวไงพี่ อยากเกิดเป็นลูกของดาวกับพี่กิต”
“แฟนแกดีใจแย่ละมัง คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งเลยนี่ แล้วพ่อแม่เขาล่ะ”
“ดีใจกันทั้งบ้านเลย พ่อกับแม่พี่กิตอยากให้ดาวไปอยู่บ้านทางเหนือด้วยกัน แต่พี่กิตไม่ให้ไป อยากให้ดาวอยู่ด้วยกัน กลัวทนคิดถึงไม่ไหว พ่อกับแม่เลยเป็นฝ่ายนั่งเครื่องบินมาเยี่ยมเอง”
“อืม...โชคดีแล้วที่ผัวรักผัวหลง พ่อผัวแม่ผัวก็รักมาก แต่พี่เสียดายแทนดาวจริงๆ อุตส่าห์แคสผ่านแล้วเชียว คิดว่าเรียนจบจะได้เป็นดาราหน้ากล้องสวยๆ เริ่ดๆ เสียอีก”
“อือ...เสียดายเหมือนกัน อุตส่าห์รับงานตั้งแต่เรียนเนอะ แต่มีลูกมาคาท้องแล้วไง ลูกต้องมาอันดับหนึ่ง ปลดมงค่ะ”
“ไม่สมฐานะดาวมหาลัยเลยอ่ะค่ะ โอ๊ย!”
“แล้วพี่ดาด้าล่ะ ตอนนี้ทำอะไรที่ไหน”
เสียงปลายสายเงียบไป ครู่หนึ่งจึงค่อยๆ พูดเสียงเบา “ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนจริงๆ นะดาว ตอนนี้ที่บ้านพี่ล้มละลาย”
“หา! อ่ะ...อะไรนะพี่ดาด้า”
เกิดความเงียบระหว่างพวกเธอ
ดารารัตน์ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ
หลังจากปล่อยให้ได้ยินแค่เสียงลมหายใจของคนแต่ละฝั่ง ปลายสายก็พูดมาอีกว่า “พี่ต้องย้ายไปอยู่เมืองนอกถาวร เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ที่โทรมาก็คิดว่าพวกเราอาจไม่ได้เจอกันอีกไงดาว พี่ก็เลยอยากล่ำลาแกแหละ”
“พี่ดาด้า...”
“เฮ้ย! ไม่ต้องเศร้า ชีวิตคนเราไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป วันหน้าฟ้าใหม่เคยได้ยินไหม”
“อือ...”
“พี่น่ะมันเลือดนักสู้ เอาล่ะๆ เราคุยเรื่องดีๆ กันต่อเถอะ ห้ามทำเสียงเศร้า พูดเรื่องลูกในท้องดาวไง วางอนาคตไว้อะไรยังไงแบบไหนบ้างจ๊ะ”
“ดาววางแผนไว้เยอะแยะเลยพี่ อยากทำนั่นอยากทำนี่ แต่ตอนนี้แม้แต่งานก็ไม่ได้ทำ พี่กิตไม่ให้หยิบจับอะไรเลย”
“แหม! จ้า...แม่คนผัวรักผัวหลง”
“ไม่หรอกๆ แค่พี่กิตเขาทำงานเก่ง ดาวทำงานสู้เขาไม่ได้”
“แล้วไง ตอนนี้ก็เลยเป็นแม่บ้านเต็มตัว”
“คงงั้นแหละพี่ พอท้องก็ต้องเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่บ้าน ต่อไปพอลูกคลอดก็ต้องเลี้ยงดูเด็กอ่อน กว่าลูกจะคลานจะเดิน และกว่าจะโต ดาวจะทิ้งไปไหนได้ พี่กิตก็ห่วงอยากให้เลี้ยงลูกเอง เขาก็เลยขอแบกภาระครอบครัวไว้กับตัว ให้ดาวเต็มที่กับลูก”
“โอ๊ย! ฟังแล้วอิจฉา ตาฉันร้อนไปหมดแล้วแกเอ๊ย”
ทั้งสองพูดจากรีดร้องสนุกสนานใส่กันอีกครู่ใหญ่ ก่อนที่จะวางสายไป
ไฟตรงหัวเตียงยังคงเปิดสว่าง ดารารัตน์มองนาฬิกา
เวลาเดินทางมาถึงสองทุ่มครึ่ง สามียังไม่เลิกงานกลับมา เธอเองก็ยังไม่ง่วง จึงหยิบภาพถ่ายสมัยเรียนมานอนดูเล่น
ภาพเหล่านั้นคือภาพของกิตติกับเธอตอนเริ่มจีบกัน และตกลงคบกันเป็นแฟนตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ตามด้วยภาพระหว่างคบหา ทั้งพาไปเที่ยว เยี่ยมพ่อแม่ ทำกิจกรรมชมรม เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยกันตลอดเวลา
ความพยายามเข้าหา การทำความดีเทียวไล้เทียวขื่อของกิตติเสมอต้นเสมอปลายจนเธอใจอ่อน
ตอนที่พ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ เธอเพิ่งรู้ว่าพ่อกับแม่เธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เธอที่กลายเป็นลูกนอกสมรสจึงลำบากอย่างคาดไม่ถึง
เธอผ่านช่วงเวลาทุกข์สาหัสเหล่านั้นมาได้เพราะมีกิตติ
รวมถึงครอบครัวของเขาที่คอยดูแลเธอ คอยปกป้อง ซัพพอร์ตเธอทุกทาง ผิดกับญาติที่พอแบ่งทรัพย์สินเสร็จก็แยกย้ายคล้ายตายจาก
หญิงสาวยิ้มให้กับรูปภาพแห่งความทรงจำ
กิตติไม่ใช่แค่สามี แต่เป็นเพื่อน เป็นพี่ชาย เป็นทุกอย่างในชีวิตเธอ คอยปกป้องคุ้มภัยให้เธอเสมอมา
สามีคนนี้ทำให้เธอมั่นใจในทุกช่วงเวลาว่าเลือกคนไม่ผิด