บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ลูกเลี้ยงตัวแสบ1

หลายเดือนต่อมา

ภายในห้องรับแขก ทีวีถูกเปิด สาวน้อยเร่งเสียงจนดังลั่น ไม่มีความเกรงใจใดๆ ต่อสมาชิกคนอื่นในบ้าน

รายการทอล์กโชว์ถูกขยายเต็มหน้าจอ แขกรับเชิญในวันนี้คือนางร้ายดาวค้างฟ้า ดาร่า ดาวประกาย

พิธีกรกล่าวเปิดรายการตามด้วยเปิดตัวแขกรับเชิญ น้ำเสียงของเธอกังวานหวานฉะฉาน นุ่มนวลน่าฟัง

“วันนี้รายการเราได้รับเกียรติจากคุณดาร่า ดาวประกายอย่างที่สุดค่ะ เพราะเธอจะมาเปิดเปลือยชีวิตสิบกว่าปีที่โลดแล่นโดดเด่นในวงการมายา ต้องผ่านความยากลำบากนานาจนกลายมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของดารารุ่นน้องหลายคน”

ดาร่า ดาวประกายหรือดารารัตน์ วรโชติเมธี เดินเฉิดฉายออกจากฉากหลังเข้ามาหน้ากล้องในชุดสีแดงกำมะหยี่ดุจนางพญา เธองามสง่าและสวยจัดสะกดทุกสายตา

หลังจากนั่งลงยังตำแหน่งแขกรับเชิญและไหว้ทักทาย พิธีกรก็ทำสีหน้าตื่นเต้นยินดี “และตอนนี้ยังมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารสาวสวยแห่งยุคเลยทีเดียว”

พิธีกรกล่าวอวยแขกรับเชิญก่อนเริ่มคำถามตามสคริปต์ เธอหันหน้าไปทางแขกรับเชิญพร้อมแพนกล้องไปทางนั้น

“อย่างที่ทราบมาตลอดว่าตอนเป็นเด็กพี่ดาร่าต้องสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ก่อนวัยอันควร เรื่องครอบครัวจึงไม่อนุญาตให้พูดถึงเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่นอกนั้นพี่ดาร่าของเราพร้อมเผยหมดเปลือกแบบไม่มีกั๊กเลยล่ะค่า”

“ถูกต้องค่ะ” แขกรับเชิญยิ้มยินดี

“อยากรู้มีเคล็บลับความสำเร็จนี้จังค่ะ พอจะเมตตาได้มั้ย”

ดาราวัยสี่สิบที่เหมือนหยุดอายุใบหน้าไว้ที่วัยเพียงยี่สิบห้าตอบด้วยรอยยิ้มที่สะกดใจคนดูค่อนประเทศ

“ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน เป็นคอนเซ็ปค่ะ”

พิธีกรหัวเราะ “แหม! หนูก็ทำตามคอนเซ็ปนี้มาตลอดนะ ล้มลุกคลุกคลานจนระบมไปหมดแล้ว”

“พี่ก็เคยล้มไม่เป็นท่านับครั้งไม่ถ้วนค่ะ อดทนอดกลั้นกับเรื่องเดิมๆ ก็เคยแล้ว” แขกรับเชิญพูดยิ้ม ดวงตานิ่งสงบบอกได้ดีว่าเคยพบเรื่องราวมากมาย “แต่การล้มทุกครั้งเราก็ได้เรียนรู้ที่จะลุกขึ้นใหม่ ชีวิตไม่ได้สมหวังไปซะทุกเรื่อง อยู่ที่ว่าเมื่อเราผิดหวัง เราจะเรียนรู้และตั้งรับยังไง เป้าหมายของเราอยู่ที่อะไรหรือใคร ก้าวเดินต่อไปยังไงให้สง่างาม ทำอย่างไรให้วันนี้ดีกว่าวันวาน”

“แนวคิดดีมากค่ะ หนูจะจำไปใช้นะคะคุณพี่”

“ไม่หวงค่ะไม่หวง”

“เรื่องงานเรื่องแนวคิดไม่หวงแต่มีเรื่องหนึ่งที่หวง ได้ข่าวว่าหวงความโสดมาก ประเด็นนี้ยังไงคะคุณพี่”

แขกรับเชิญหัวเราะอารมณ์ดี “แหม! ก็โสดแล้วชีวิตปัง ดีกว่ามีคู่แล้วชีวิตพังไงคะ”

“อ๊ะๆ แสดงว่าเคยมีซัมติงมาก่อน อะไรยังไงคะ”

ผู้ถูกถามยิ้มอ่อน “มีบ้างตามประสาสมัยเป็นวัยรุ่นอ่ะค่ะ เหมือนใครหลายๆ คนเนอะ ตอนสาวๆ ริมีความรักแล้ววาดหวังไว้ พอมันไม่สมหวังก็เลิกหวัง หันมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานดีกว่าแบบนี้”

พิธีกรพยักหน้าเห็นด้วย “จริงค่ะ หนูเองก็คิดแบบคุณพี่ ให้คนไม่ดีเสียดายเล่นเนอะ สมัยนี้ผู้หญิงเราสตรอง อยู่โสดๆ สวยๆ ชีวิตแฮปปี้ดีที่สุดแล้วค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องความรักตัดไป เรามาเข้าเรื่องใหม่ วันนี้มีโปรโมชั่นอะไรมาแนะนำคุณผู้ชมแฟนรายการคะ”

“มีเยอะเลยค่ะ เริ่มจาก...”

การสัมภาษณ์เต็มไปด้วยบรรยากาศสนุกเป็นกันเอง ภาพในทีวีถูกซูมที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มละมุนละไมของแขกรับเชิญที่สวยโฉบเฉี่ยวเจิดจรัสแลดูเลอค่าไร้ที่ติทุกองศาและภาพถูกหยุดไว้แค่นั้นด้วยรีโมตทีวีที่อยู่ในมือของสาวน้อยบนโซฟา

ดรัลดาวางรีโมตไว้บนโต๊ะกลมหน้าโซฟา ยกมือเท้าคางมองภาพนั้นยิ้มๆ แววตาเคลิบเคลิ้ม สีหน้าภาคภูมิใจอย่างที่สุด

ผู้หญิงสะสวยร่ำรวยเงินทองใครบ้างไม่ชอบ

ครั้นมองไปที่กำแพงห้องก็ยังมีรูปเจ้าของหน้าสวยในทีวีนี้ติดเต็มไปหมดตามประสาแฟนคลับพันธุ์แท้

และไม่ว่าภาพเหล่านั้นจะถูกแกะออกมากี่ครั้ง เธอก็ยังเอากลับไปติดได้ใหม่อย่างไม่มีเบื่อ จนคนตามแกะต้องเหนื่อยไปเอง หญิงสาวมองดารานางร้ายในทีวีเนิ่นนาน ตามวิสัยแฟนคลับตัวยง

“สวย รวย เก่ง ครบเครื่องจริงๆ เลยน๊า”

ดรัลดานั่งมองอย่างคลั่งไคล้

“คนเราพอรวยขึ้นมีเงินมากขึ้นอะไรก็ดีไปหมดเลยน๊า”

กระทั่งความสุขต้องสะดุดลงเพราะทีวีถูกปิด ภาพถูกตัดไปกะทันหัน รีโมตทีวีถูกโยนลงบนโต๊ะตัวเดิม เสียงตะคอกดังขึ้น

“เปิดเสียงดังลั่นบ้าน ต้องการประกาศอะไรไม่ทราบ?”

คนพูดคือผู้หญิงวัยกลางคน อายุเท่ากับดาราในทีวี เธอยืนเท้าสะเอว พ่นลมหายใจอย่างคนอดกลั้นไฟอารมณ์ที่ปะทุเดือด

ดรัลดายืนขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้านขณะแสยะยิ้มมุมปาก ดวงตาสวยเฉี่ยวที่มองหญิงวัยกลางคนเผยทุกความเหยียดหยันออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“ประกาศให้คนแถวนี้รู้ตัวว่าดาร่าสวยมากรวยมากมีเงินเยอะแยะแล้วก็เฉิดฉายไม่อายใคร ผู้ชายบางคนคิดผิดคิดสั้นที่เลือกทิ้งเพชรล้ำค่ามาคว้ากรวดชั้นต่ำยังไงละ”

“ยายรัน!” จารวี กำมือแน่น ตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า “แกพูดอะไรออกมา ใครเลือกใคร ใครทิ้งใครกันแน่ เป็นแม่แกต่างหากที่ทิ้งพ่อแกไปเสวยสุขกับชื่อเสียงเงินทองอยู่คนเดียวทิ้งกระทั่งแกที่ตอนนั้นเป็นแค่เด็กแบเบาะไว้กับปู่ย่า ถ้าไม่ใช่ว่าฉันรักพ่อแก อย่าหวังว่าฉันจะยอมให้แกมาทำกับฉันแบบนี้”

เธออยากตบสั่งสอนลูกติดผัวใจจะขาด ในใจร่ำไห้ไม่รู้กี่ครั้ง

ดรัลดาเห็นจารวีทำท่ายกมือเธอก็เชิดหน้า “ตบสิ! ตบมาตบกลับ” ว่าพลางยิ้มเย้ย “อดีตรันเป็นมือตบประจำโรงเรียนนะบอกไว้ก่อน ตอนนี้ขึ้นมหา’ลัยแล้วก็ยิ่งตบเก่ง โดยเฉพาะตบกับสาวแก่กะโหลกกะลา”

“แก...แก” จารวีชี้หน้าลูกเลี้ยงนิ้วสั่นอย่างทำอะไรไม่ได้ “ยายเด็กไม่มีพ่อแม่สั่งสอน” เธอพลั้งปากเพราะอารมณ์ล้วนๆ

แล้วก็ได้ผล เพราะคำนี้คือคำต้องห้าม ดรัลดาตาลุกวาว เธอผลักไหล่แม่เลี้ยงอย่างแรง “พูดใหม่สิ!”

จารวีแทบล้มทั้งยืนเพราะแรงผลักนั้น เธอตัวเซเล็กน้อย ถูกเด็กรุ่นลูกทำแบบนี้น้ำตาก็พานจะไหล

ตั้งแต่หล่อนมาอยู่ที่บ้านนี้ งานการอะไรไม่เคยช่วยทำ มีแต่กินกับนอน แล้วก็ออกไปเที่ยวตะลอนๆ ใช้เงินเป็นฟ่อน อยากได้อะไรอ้อนผัวเธอเสียงอ่อนเสียงหวานทำตัวเหมือนเมียน้อย

ส่วนเธอที่พยายามเหลือเกินแล้วกับการทำดีกับลูกเลี้ยง อาจด้วยชดเชยหรือแก้ปมในใจอะไรก็ช่าง แต่กลับต้องรู้สึกเหมือนกลายเป็นคนรับใช้มากขึ้นทุกวัน ไม่เคารพกันไม่ว่า แต่ควรทำตัวให้น่าหาเลี้ยงหน่อยไม่ใช่เหรอไง

จารวีพูดลอดไรฟัน “เด็กไม่มีพ่อแม่สั่งสอน ได้ยินชัดมั้ย”

ดรัลดาผลักแม่เลี้ยงอีกครั้งจนอีกฝ่ายเซถอยหลังชนโต๊ะ เธอเดินย่างสามขุมเข้าประชิด

จารวีจึงจิกตามอง วันนี้เธอขอตีลูกเลี้ยงสักทีเถอะ

โบราณว่าไว้ รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี เห็นทีจะจริง

“จา! หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงเข้มของผู้ชายวัยกลางคนที่ยังคงมีเค้าความหล่อเหลาจากสมัยหนุ่มๆ ดังขึ้น ส่งผลทำให้สงครามระหว่างแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงสงบลงชั่วคราว

กิตติเผลอมองภาพบนฝาบ้านด้วยแววตาโหยหายากปกปิดขณะเดินเข้ามาดึงแขนจารวี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel