ตอนที่ 4
งานเลี้ยงดำเนินมาได้ครึ่งทางแล้ว เปลวมองหานิตา คิดในใจว่าจะแนะนำให้นาวินรู้จังยังไงดี เรื่องยากคือเธอกับนิตาไม่ได้สนิทกัน ต่อหน้าคนอื่น นิตามักมองเธอด้วยท่าทางขลาดกลัว ก้มหน้าไม่กล้าสบตา ราวกับกลัวโดนขยุ้มหัวลากลงน้ำเสียตรงนั้น ความจริงการกลั่นแกล้งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในที่ลับตา ต่อหน้าผู้อื่นเปลวยังพอมีสติรักษาหน้าวงศ์ตระกูลอยู่บ้าง แต่ไม่รู้ทำไมถึงชอบมีคนบังเอิญผ่านมาเห็น แล้วเอาไปพูดนินทาตลอด
“เปลว” มีเสียงเรียกจากด้านหลัง “อยู่นี่เอง ตามหาตั้งนาน”
เปลวประหลาดใจเมื่อนิตาเป็นฝ่ายเข้ามาทักทาย ปากชมพูดอิ่มแย้มรอยยิ้มหวาน ใบหน้าสวยแชล่มต้องตา ผัดเครื่องสำอางอ่อน ๆ เผยผิวเนียนกระจ่างทั้งที่อายุใกล้ยี่สิบห้าเต็มที แต่คราวนี้สีแก้มและปากเหมือนจะเข้มขึ้นเล็กน้อย สงสัยเพิ่งไปเติมหน้ามา
ร้อยวันพันปีไม่เคยเข้ามาทักก่อน หรือเพราะตลอดหนึ่งเดือนเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง อีกฝ่ายจึงเลิกกลัวเธอแล้ว
เดิมทีเธอไม่ได้อะไรกับนิตา ตอนอ่านนิยายออกจะสงสารด้วยซ้ำ ในเมื่อพี่สาวหยิบยื่นไมตรีมาให้ เธอก็พร้อมยินดีรับ
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
ผู้เป็นพี่ยกมือป้องปาก หัวเราะอย่างน่ารัก
“ทำไมถึงพูดสุภาพแบบนั้นล่ะ” นิตาถามต่อโดยไม่รอคำตอบ “ทานอะไรรึยัง ของหวานตรงนู้นอร่อยนะ ไปด้วยกันไหม”
เปลวเพิ่งกระเดือกบางสิ่งที่ทำให้ไม่เจริญอาหารลงท้อง ได้ล้างคอสักหน่อยคงดี ระหว่างเดินตามนิตาไปยังโต๊ะอาหาร สายตาก็สอดส่องหาชายหนุ่มผู้บอกว่าจะตามลงมาด้วย แต่บัดนี้ยังไม่เห็นหัว
ตอนนี้มีโอกาสได้อยู่กับนิตาแล้ว แนะนำให้รู้จักกันซะเดี๋ยวนี้ให้มันจบ ๆ เธออยากกลับไปนอนแช่น้ำร้อนในอ่างแล้ว
และแล้วก็เจอเป้าหมาย นาวินยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ไม่ไกล กำลังคุยกับสาวน้อยจิ้มลิ้มนางหนึ่ง หากเดินจากตรงนี้ไปยังโต๊ะอาหาร จะเฉียดเข้าไปใกล้พอดี
อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกแปลก ๆ
บังเอิญเกินไปรึเปล่า?
นิตากับนาวินไม่ได้เจอกันตามต้นฉบับในนิยาย แต่เหมือนด้ายพรหมลิขิตพยายามชักนำสองคนนี้ให้พบกัน โดยเธอไม่ต้องออกแรงด้วยซ้ำ
เปลวมองเสี้ยวหน้าระรื่นของนิตาอย่างพินิจ
เธอส่ายหัวไล่ความคิด ยังไงก็ช่าง จะเรื่องบังเอิญหรือจงใจ มันไม่ใช่กงการอะไรของเธอ แค่เป้าหมายบรรลุผลสำเร็จเป็นพอ
พวกเรามุ่งหัวเรือสู่โต๊ะอาหาร ขณะกำลังคิดว่าจะพูดกับนาวินยังไงดี ตอนนั้นเองนิตาถึงคว้าแขนเธอไว้
“เดี๋ยวเปลวลองทาน- อ๊ะ”
ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้น เมื่อจู่ ๆ นิตาเดินสะดุดขาตัวเอง
สะดุดอย่างเดียวไม่ว่า ดันเซไปชนบริกรที่กำลังถือถาดน้ำอยู่ แก้วน้ำร่วงแตกกระจายเต็มพื้น เรียกทุกสายตาให้หันขวับเป็นทางเดียว แล้วก่อนที่ร่างอรชรจะล้มลง แขนของใครบางคนก็คว้าเอวไว้ได้ทัน
ไม่ต้องอธิบายว่าร่างของใคร แขนของใคร เพราะนี่คือฉากการพบกันระหว่างคู่พระนางยอดนิยมตลอดกาล ท่ามกลางสายตาประชาชนนับร้อยเป็นสักขีพยาน
เปลวรู้สึกประทับใจกับภาพเบื้องหน้า นึกอยากยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ ทว่า วินาทีต่อมา มีคนกระชากแขนเธอจากด้านหลัง ฝ่ามือหนักฟาดเพียะเข้าแก้มอย่างแรง
“เลิกทำตัวต่ำ ๆ แบบนี้สักที!” คำด่าออกมาจากปากนิธิ โกรธจนหน้าย้อมสี ระอากับพฤติกรรมของหลานสาวเต็มทน ทั้งที่ตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ให้ อยากเที่ยวไหนไม่เคยขัด แต่ทำไมยังทำตัวแบบนี้ คอยกลั่นแกล้งลูกสาวของเขาให้ขายหน้า คนเป็นพ่อเห็นแล้วปวดใจ ผลักนิตาต่อหน้าสาธารณะเช่นนี้ เกินไปแล้ว
สุดท้ายก็เหลวแหลกไม่ต่างจากแม่มัน ที่ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาจนถึงทุกวันนี้ เพราะมีสกุลโชติวัตรต่อท้ายชื่อเท่านั้น!
เปลวฟื้นตัวจากความงงงวย แก้มซ้ายชาดิก เข้าใจเรื่องทั้งหมดในทันที ถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายไปซะแล้ว พูดอะไรออกไปตอนนี้มีแต่จะทำให้แย่ลง จึงเลือกปิดปากเงียบ รอดูสถานการณ์
นิตาเกาะแขนนาวินแน่นคล้ายพยุงร่างไม่ไหว แค่การสะดุดขาถึงกับทำให้ข้อเท้าเจ็บขนาดนี้เชียว
“นิตาซุ่มซ่ามเองค่ะ น้องไม่ได้ทำอะไรเลย”
คำพูดดูดี แต่ท่าทีหวาดกลัวมันคืออะไรกันล่ะนั่น ความกระจ่างบางอย่างเกิดขึ้นในใจแต่เลือกเก็บงำเอาไว้ มองนิตากับนาวินยืนคู่กัน สองคนนี้ได้เจอกันสักที ต่อจากนี้คงไม่ต้องให้เธอช่วยแล้วล่ะมั้ง ถึงจะขัดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาของนาวินจ้องมองเธอ แทนที่จะเป็นหญิงสาวข้างกาย
ในเมื่อมาอยู่ในร่างนางร้าย เปลวไม่คิดว่าจะได้รับการปฏิบัติดีด้วยแต่แรก เพราะงั้นความอดทนถึงสำคัญ เธอพร้อมยิ้มรับทุกสิ่ง ตราบใดที่พวกเขาไม่ล้ำเส้นมากจนเกินไป
นิธิทอดถอนใจเมื่อได้ยินคำแก้ตัวแทนคนเป็นน้อง นิตาหัวอ่อนเกินไป จนเด็กนั่นกำเริบเสิบสานขึ้นทุกวัน เห็นทีคนเป็นลุงอย่างเขาต้องดัดหลังเสียบ้าง คิดได้ดังนั้นจึงกล่าวคำต่อว่าอีกหลายประโยค ดูเอาแล้วกัน โดนด่าขนาดนี้ยังทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“เปลวไม่ได้ทำ” เธอแสดงความบริสุทธิ์เพียงเท่านั้น ก่อนเดินออกจากวงล้อมโดยไม่สนใจเสียงลุงนิธิอีก เหล่าไทยมุงหลีกทางให้อย่างรู้งาน หลังจากนี้คงมีข่าวฉาวของเธอในแวดวงสังคมอีกสักระยะ
ถึงเปลวไม่ได้เก็บเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใส่ใจ แต่มันทำให้ความคิดบางอย่างเปลี่ยน เธอไม่สนใจแล้วว่านิตากับนาวินจะลงเอยกันหรือไม่ ต้องรีบแต่งงานออกจากตระกูลนี้ให้เร็วที่สุด
นาวินมองแผ่นหลังของหญิงสาวจนลาลับ เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้น ตอนทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ เปลวกำลังมองไปอีกทาง จู่ ๆ คนเป็นพี่ก็ล้มไปชนบริกร ซวนเซมาหาเขาจนต้องอ้าแขนรับไว้
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ” สาวในอ้อมแขนเอ่ยอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ถ้าไม่เห็นเรื่องทั้งหมด เขาคงนึกว่าเธอเป็นเหยื่อไปแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มตอบอย่างสุภาพก่อนมองเลยไปอีกทาง แกะมือเล็กออกจากแขน “ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีธุระ”
นาวินไม่ได้ใจดีขนาดออกตัวปกป้องคู่นอน แค่อยากดูฉากละครสนุก ๆ เท่านั้น แต่การแสดงออกของเธอกลับผิดคาด ทำให้เกิดคำถามในใจว่า ข่าวลือเสียหายของเปลวมีความจริงกี่เปอร์เซ็นต์ต์กันแน่
แต่ความสงสัยอยู่ได้ไม่นาน นาวินปัดเรื่องไร้สาระออกจากหัว เดี๋ยวเขาก็เบื่อเธอแล้ว จะเก็บมาคิดให้รกสมองทำไม
ชายร่างสูงมุ่งหน้าไปอีกทางโดยไม่สนใจใครอีก ทิ้งให้หญิงสาวอีกคนยืนตาค้างอยู่อย่างนั้น