ตอนที่ 17
เปลวเกือบหวีดร้องตอนเห็นแจ้งเตือนในโทรศัพท์ ภาคีรับเธอเป็นเพื่อนแล้ว เพิ่งออกจากห้องน้ำหมาด ๆ เสื้อยังไม่ใส่ นุ่งผ้าหลุดลุ่ยกระโจนขึ้นเตียง เลื่อนหาประโยคเด็ดดวงที่คัดสรรมาจากหลายร้อยบทความและโพสต์ลงไป จินตนาการว่าภาคีเห็นแล้วจะทำหน้าอย่างไร เขาดูเป็นพวกไม่สนใจอ่านเรื่องไร้สาระ คงไม่รู้หรอกว่าเธอไปก๊อปมาอีกที
อย่างนี้ถือว่าแผนประสบความสำเร็จใช่ไหม? ถึงต้องแลกด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้มั่นใจแล้วว่านาวินสนใจเธอมากกว่านิตา เพราะงั้นคงหวังปาฏิหาริย์จากนางเอกไม่ได้อีก
พอได้อาบน้ำสงบสติถึงนึกเสียใจที่ไปยิ้มเยาะใส่นิตา นางอาจยัวะจนหันมาเล่นงานเธอก่อนไปเล่นนาวิน ทำไงได้ ตอนนั้นอารมณ์พลุ่งพล่านจนลืมคิดเรื่องนี้
นิตาสวมหน้ากากพี่สาวผู้แสนดีมาได้ตลอด แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะทำรุนแรงไปบ้าง เพราะนั่นเป็นสิ่งที่นางคาดไว้แล้วว่าเปลว ‘คนเก่า’ จะทำ แต่วันนี้มันต่างออกไป
คนที่เคยเกิดในสลัมอย่างเธอน่าจะรู้ดี ตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรงไม่ต่างกับราดน้ำมันใส่กองไฟที่ตั้งอยู่กลางป่า เชื้อเพลิงเพียงหยดเดียวอาจทำให้ต้นไม้ทั้งหมดวอดวาย
ต้องอดทนมากกว่านี้ ขีดเส้นของตัวเองให้สูงขึ้น มองเป้าหมายระยะไกลมากกว่าความสะใจช่วงสั้น ๆ
คิดได้ดังนั้นจึงถอนหายใจ ชีวิตไม่ง่ายเลยจริง ๆ ก่อนอื่นเธอต้องรีบไปโรงพยาบาล
เปลวแต่งตัวจนเสร็จ ลงไปข้างล่างเจอลุงคนขับรถรออยู่ก่อนแล้ว เขาโชว์ประสบการณ์ทำงานสิบปีโดยการเหยียบคันเร่งมิดด้าม เหวี่ยงเธอในรถจนหัวหมุน ก่อนมาจอดหน้าโรงพยาบาลภายในสิบนาที
“ฝากดูแลคุณหนูด้วยนะครับ” ลุงน้ำตารื้น บอกว่าเสร็จธุระเมื่อไหร่ให้โทรเรียก หลังจากนั้นจึงบึ่งรถจากไป
ที่นี่เรียกโรงพยาบาลหรือโรงแรมห้าดาวเธอชักไม่แน่ใจ พอแจ้งชื่อคนไข้หน้าเคาน์เตอร์เสร็จก็มีคนนำทางแบบแทบปูพรมให้ทุกย่างก้าว ไม่นานก็มาถึงระเบียงทางเดินสีขาวสะอาดตา
นาวินยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่หน้าห้อง เธอกำลังเอ่ยปากถามอาการของนิตา แต่ถูกเขาขัดจังหวะเสียก่อน
“ทำไมมาช้า”
เปลวทำเป็นไม่ได้ยิน “พี่เป็นไงบ้างคะ”
“หมอบอกไม่เป็นไรแล้ว ส่วนสาเหตุต้องรอตรวจอีกสองสามวัน”
ดูเหมือนนาวินไม่ได้ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“รู้จักมันได้ยังไง”
“คะ?”
“ไอ้ภาคี” นาวินขึ้นเสียงแกมรำคาญ “ไปรู้จักมันได้ยังไง”
ไม่ทันไรก็ทำท่าจะเดือดซะแล้ว พูดจาขัดใจเขาตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดี นาวินเป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าร้อนมาก ๆ อาจก่อเรื่องไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม หากยังไม่อยากถูกจับล่ามโซ่ขังในห้องปิดตาย ต้องพยายามให้เขาใจเย็นลง
“คุณภาคีเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทค่ะ จะมาทานข้าวที่บ้านบ้างก็ไม่แปลก”
“ทำไมต้องเป็นวันนี้ พี่มั่นใจว่าคุณนิตาไม่ได้ตั้งใจชวนมันมาแน่ ๆ บังเอิญเกินไปรึเปล่า” นาวินจับสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาว การที่เปลวลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้ เขามองออกว่าต้องการทำให้ใครบางคนประทับใจ ถ้าไอ้ภาคีไม่มาด้วยนาวินคงเข้าใจว่าต้องการประชันกับพี่สาว ซึ่งนั่นคือจุดประสงค์หลักที่เขารับคำเชิญของนิตา เพราะอยากเห็นเปลวดิ้นเร่าเหมือนวันนั้น อยากให้รู้ว่าแผนปั่นหัวของเธอมันใช้ไม่ได้ผล เขาจะทำเป็นมองข้ามหากเธอทำอะไรรุนแรงไปบ้าง และยินดีให้คงอยู่ในสถานะคู่ขาของเขาตามเดิม
แต่ทุกอย่างไม่เป็นดังคาด เปลวไม่ได้สนใจเขา แถมไอ้ภาคีก็ทำท่าอยากระลึกความหลังโดยการกระโดดมาร่วมศึกด้วย
ภาคีไม่เคยชนะเขา และจะไม่มีวันชนะ
“ก็คงเป็นเรื่องบังเอิญมั้งคะ หรือพี่วินคิดว่าเปลวเป็นคนชวนคุณภาคีมา”
นาวินไม่ตอบ แต่กลับยิงคำถามขึ้นมาแทน
“เธอต้องการอะไรกันแน่”
เปลวหลุบตา เธอแค่ต้องการออกไปจากบ้านโชติวัตร ออกไปแบบไม่ต้องระแวงว่าจะถูกตามตัวกลับ หรือถูกตำรวจจับข้อหายักยอกทรัพย์ และยังต้องร่ำรวยแบบมีเงินใช้ไม่ขาดมือตลอดชีวิต
จู่ ๆ ความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัว มันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน ถึงนาวินจะดูเป็นคนเลวร้าย แต่ความจริงไม่ได้ร้ายกาจขนาดนั้น อย่างน้อยก็ในตอนท้ายของนิยาย บางทีนะ... บางทีถ้าเธอลองพูดกับเขาตรง ๆ ล่ะก็
“พี่วินคิดยังไงเรื่องแต่งงานคะ”
“หมายความว่าไง”
“ก็... พี่คิดอยากแต่งงานบ้างไหม”
นาวินปล่อยเสียงหัวเราะในลำคอ บางอย่างกระจ่างชัดในใจ
“เธออยากแต่งงาน?”
หญิงสาวลังเลก่อนเอ่ยตอบ “ใช่ค่ะ”
“ฝันกลางวันอยู่เหรอ” เขาเหยียดริมฝีปาก เข้าใจที่มาพฤติกรรมแปลก ๆ ของคนตรงหน้าแล้ว ที่แท้ก็พยายามเรียกร้องสิ่งเกินตัว แต่งงานเหรอ ตลกชะมัด “รู้สถานะตัวเองหน่อย คนอย่างเธอมาได้ถึงขั้นนี้ได้ก็ดีเท่าไหร่ เลิกเพ้อเจ้อสักที”
“แล้วถ้าเปลวแต่งงานกับคนอื่นล่ะ”
“พูดอย่างนั้นไปก็ไม่ช่วยหรอก ฉันไม่มีวันแต่งงานกับเธอ”
เปลวเก็บถ้อยคำร้ายกาจมาคร่ำครวญในใจ ความคิดชั่วเสี้ยววิทำให้เธอถามคำถามโง่ ๆ นี่เธอกำลังหวังอะไรอยู่? นาวินไม่ใช่คนประเภทที่จะแต่งงานกับใครก็ได้ โดยเฉพาะกับคนที่เขาไม่ได้รัก
“เข้าใจแล้วค่ะ” เธอยอมรับง่าย ๆ “งั้นเปลวขอตัวก่อนนะ”
“จะไปไหน” เขารั้งแขนเธอไว้
“ไปถามอาการนิตาโดยละเอียดจากหมอ คนที่บ้านเป็นห่วงกันมาก”
นาวินปล่อยมือ พอเห็นแผ่นหลังหญิงสาวค่อย ๆ ไกลห่าง ส่วนลึกในใจกลับรู้สึกเหมือนเพิ่งปล่อยบางอย่างที่มากกว่าแค่ปล่อยมือ อาจเป็นเพราะเขาไม่คาดว่าเปลวจะรักษาสีหน้าสงบได้ขนาดนั้น เธอควรกรีดร้องและทุบตีเขาสิถึงจะถูก
สิ่งหนึ่งสะกิดใจ แต่นาวินเลือกละเลยมัน ไม่หรอก เดี๋ยวถูกเอาใจเข้าหน่อยก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว