ตอนที่ 13
แต่ใครจะยอมให้ทุกอย่างพังง่าย ๆ กันเล่า!
แทนที่จะยืนหัวโด่ให้ถูกจับได้ เปลวเข้าไปหลบในห้องนอนรับแขก เอนหลังพิงประตูเพื่อฟังเสียงจากภายนอก
ไม่นานก็ได้ยินนิตาร้องเรียก
“เปลว มีแขกมาหา” ตามมาด้วยเสียงเคาะประตู “ออกมาข้างนอกหน่อย”
นิตาเรียกอีกหลายครั้ง และดูเหมือนจะถือวิสาสะเปิดเข้าไปดูในห้องด้วย เปลวรอจนมั่นใจว่านางลงบันไดไปแล้ว ถึงค่อย ๆ แง้มประตูออก
ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็น่าแปลกอยู่ดี ทำไมถึงเลือกมาตามเธอให้ไปพบนาวิน หรืออยากให้คนอื่นเข้าใจว่านางไม่ผูกใจเจ็บที่โดนกลั่นแกล้งคราวก่อน แสดงตัวเป็นพี่สาวผู้แสนดี
เปลวไม่สนว่านิตาคิดจะทำอะไร ตราบเท่าที่ยังไม่ล้ำเส้น เธอจะช่วยแสดงละครตบตาให้ด้วย
แต่ยังไงแผนเธอต้องมาก่อน เปลวชะโงกหน้าข้ามราวบันไดเพื่อสังเกตการณ์
“เปลวไม่อยู่ห้อง สงสัยไปเดินเล่นในสวนหลังบ้าน คุณวินรอก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันแวะไปเร่งอาหารในครัวให้ด้วย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็มาเร็วเกินไปเหมือนกัน”
ทั้งสองพูดคุยกันอีกสองสามคำ จากนั้นนิตาถึงเดินหายตัวไปหลังบ้าน เปลวหันซ้ายหันขวา เมื่อมั่นใจว่าทางสะดวก จึงย่องลงจากบันไดเงียบ ๆ โชคดีนาวินนั่งหันหลังให้ เปิดโอกาสให้เธอหนีออกไปได้
เมื่อเท้าแตะพื้นชั้นล่าง เธอมองนาวินเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนรีบวิ่งเร็วจี๋แทรกตัวออกจากประตูทันที
สำเร็จ!
เธอทำหน้านิ่ง มุ่งหน้าไปยังประตูรั้วเนียน ๆ ต่อจากนี้ใครจะเห็นมาเห็นก็ไม่เป็นไร ขอแค่ไม่ใช่สองคนนั้น จะได้มีคนคาบข่าวไปบอกนิตาว่าเธอออกจากบ้านแล้ว
ในที่สุดก็ออกมาพ้นประตูรั้ว การยืนกลางแจ้งตอนสิบเอ็ดโมงไม่ใช่เรื่องตลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีแดดแรงถึงขั้นทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง ไม่ทันไรเหงื่อเริ่มซึมเต็มหลัง ผิวแสบจากไอร้อน ยังดีที่หน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงาอยู่บ้าง เปลวยืนหลบอยู่ตรงมุมที่คนเดินผ่านไปผ่านมาสังเกตได้ยาก
เหลือแค่รอเท่านั้น...
รอจนพระอาทิตย์ส่องกลางหัวถึงเพิ่งคิดได้ มีความจริงข้อหนึ่งที่ลืมไปเสียสนิท คือเธอไม่รู้ว่าภาคีจะมาเมื่อไหร่ ถ้าเขามาตอนเย็นล่ะ เธอไม่กลายร่างเป็นเนื้อแดดเดียวไปแล้วเหรอ
นึกสงสัยว่าในบ้านเริ่มมื้ออาหารรึยัง เปลวจึงออกจากที่ซ่อนไปยืนเกาะรั้ว ชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง พยายามหามุมส่องให้เห็นบริเวณห้องอาหาร
คนสวนที่ยืนตัดกิ่งไม้อยู่ไม่ไกลเห็นเปลวแล้วกะพริบตาปริบ สงสัยว่าคุณหนูมายืนเกาะประตูเป็นลิงเป็นข้างเช่นนี้ทำไม
ข้างในเริ่มจัดโต๊ะอาหาร เห็นแล้วรู้สึกหิวขึ้นมาทันที เมื่อเช้ากินไปแค่นิดเดียวเพราะมัวแต่แต่งตัว ยังไงกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เธอควรแวะหาอะไรกินเติมกำลังก่อน
เปลวหมุนตัวกลับหมายไปร้านสะดวกซื้อ แต่ต้องเบรกเอี๊ยดเมื่อมีใครบางคนขวางทางไว้
ภาคียืนมองได้สักพักแล้ว เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ คือใครเขาก็ถอนหายใจ เมื่อกี้เกือบโทรแจ้งตำรวจ... เจ้าหล่อทำหน้าตื่น ใช้นิ้วเกาหูแก้เก้อ เขาเกือบจำไม่ได้ว่านี่คือปาวรินทร์ ผู้หญิงที่เคยเจอกันคราวก่อน จมูกเหมือนจะหายดีแล้ว พอไม่ต้องทำปากพะงาบ ๆ พลางเอามือกุมหน้าเหมือนตอนนั้น ถึงได้เห็นโฉมหน้าแท้จริงของเธอ
เรียกว่าเป็นผู้หญิงที่มีอะไรบางอย่างดึงดูดสายตา ทำให้อยากจ้องมองนาน ๆ ทั้งแก้มแดงระเรื่อและท่าทางเก้อเขินนั่น แม้แต่เหงื่อเม็ดเล็กตามไรผมยังช่วยเสริมให้เธอดูเป็นธรรมชาติ
ตอนแรกเปลวตกใจ สงสัยว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ให้ซุ่มให้เสียง แต่พอเห็นภาคีจ้องตาไม่กะพริบถึงรู้สึกได้ใจ สวยอะดิ อยากได้เป็นเมียรึยัง ในหัวพลันนึกถึงความรู้ที่เพียรศึกษามาตลอดอาทิตย์ เวลาเจอหน้าเหยื่อต้องทำยังไงนะ อ๋อ ใช่แล้ว
เธอคลี่ยิ้มหวาน พยายามเอียงหน้าทำมุมสี่สิบห้าองศาพร้อมส่งสายตาใสแจ๋ว ภาคีเห็นแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ก่อนเบือนหน้าหนีไปอีกทาง สวยน่ามองก็จริง แต่ทำท่าแปลก ๆ แบบนี้ เขาขอไม่มองดีกว่า
คนแอ็กท่าถึงกับหน้าเจื่อน เธอกำลังโดนเมิน...
เดี๋ยวนะ จะมัวจ้องกันแบบนี้ไม่ได้ เธอยังไม่อยากท้อง แล้วทำไมเขามาแล้วถึงไม่ทักทายสักคำ
“สวัสดีค่ะ มานานรึยังคะ” เปลวเลิกเอียงคอแล้วกลับมาทำหน้าปกติ “แล้วรถคุณไปไหน”
“ไม่นานครับ วันนี้ผมให้คนขับรถมาส่ง” แต่นานพอให้เห็นท่าทีประหลาด ๆ เมื่อกี้ “แล้วคุณมาทำอะไรตรงนี้”
“เอ่อ” เปลวจะบอกได้ยังไงกว่านี่มันผิดคิว ความจริงไม่ตั้งใจมาเจอเขาตอนนี้ แต่ก่อนจะได้พูดแก้ตัว ก็มีเสียงจากในบ้านร้องเรียกทั้งสอง
“เปลว อยู่นี่เอง... คุณภาคีมาแล้วเหรอคะ” นิตาออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง มองการแต่งตัวของน้องสาวแวบหนึ่ง ก่อนหันไปหาภาคี “ด้านในกำลังจัดสำรับพอดี เข้ามาก่อนสิคะ”
“ครับ” ภาคีสาวเท้าเข้าไปด้านใน ส่วนนิตาจับมือเธอไว้
“เธอด้วย ไปกินข้าวกัน” ว่าแล้วก็ลากน้องสาวเข้าไปด้วย
เปลวเดินตามไปแบบงง ๆ สมองประมวลผลไม่ทัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมสองคนนี้ทำเหมือนนัดกันไว้ หรือว่าภาคีโทรหานิตาก่อนมางั้นเหรอ แล้วทำไมเธอต้องมาร่วมโต๊ะอาหารด้วย ไม่นะ เธอยังไม่ได้เตรียมใจเลย
คนแรกที่มาถึงห้องรับแขกคือภาคี นาวินได้ยินเสียงประตูจึงเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ พอทั้งคู่สบตากัน ต่างฝ่ายต่างนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น เปลวตามเข้ามาติด ๆ รู้สึกถึงความผิดปกติ ทำไมบรรยากาศมันดูทะมึนแปลก ๆ
“ไม่นึกว่าแขกที่คุณนิตาหมายถึงจะเป็นนาย” ภาคีเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อน ขยับมุมปากเหมือนแสยะมากกว่ารอยยิ้ม “ไม่ได้เจอกันนานนะ นาวิน อินทรเนตร”
เปลวเห็นสีหน้านาวินแล้วรู้สึกว่าวันนี้น่าจะจบไม่สวย