12.สายตา
หลังจากที่ส่งเดเมี่ยนลูกรักเข้าไปในงานแล้ว จีเซลก็ถามตัวเองว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จะเข้าไปในงานเลี้ยงหรือว่าจะหายตัวไปเงียบดีล่ะ
เธอไม่สามารถทำตามคำสั่งของท่านเคาน์ได้ นั่นคือการไปรอเขาอยู่ในห้องเพราะฉะนั้นเธอควรจะหลบหน้าไปสักพัก..ทว่าเธอตัดใจเดินจากไปไม่ได้ เพราะเธอเป็นห่วงเดเมี่ยนมากเกินไป เธอกลัวว่าเขาจะทำเรื่องที่น่าปวดหัวอย่างเช่นการเปิดโปงท่านเคาน์
จีเซลไม่อยากให้เขาถูกหมายหัวจากท่านเคาน์อะไรแบบนั้นเลย เธอไม่อยากให้เรื่องราวมันแย่ลงเหมือนในเกมจริงๆ
เธอชั่งใจอยู่นานก่อนจะเดินเข้ามาในงานเลี้ยง จีเซลเดินเข้าไปหาอันนาและคาริที่กำลังยืนอยู่ตรงมุมห้องในทันที
“มาแล้วสินะจีเซล เจ้ารีบมายืนตรงนี้ด่วนเลย จากจุดที่พวกเรากำลังยืนอยู่นี้สามารถมองเห็นท่านดยุคได้ชัดเจนเลยล่ะ”
คาริรีบโบกมือเรียกให้จีเซลไปยืนอยู่ข้างๆ ตน ท่าทีเช่นนั้นของเพื่อนสาวใช้ทำให้จีเซลอดหัวเราะออกมาไม่ได้เลย..หากคาริรู้ว่าที่เธอหายไปนั้น เธอไปใช้เวลาอยู่กับท่านดยุคตั้งนานสองนาน เพื่อนของเธอคงจะตกใจมากทีเดียว
“งดงามราวกับภาพวาดเลยนะ..”
“ใช่ไหมล่ะ ใบหน้าของท่านดยุคโดดเด่นมากทีเดียว ไม่ว่าท่านจะยืนอยู่ตรงไหนก็ล้วนแล้วแต่มีออร่าความหล่อเหลาออกมา ข้าน่ะแทบจะยืนไม่อยู่ด้วยซ้ำ”
คาริกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาทาบลงไปบนหน้าอกของตนเอง เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความเพ้อฝัน
อันนาระบายยิ้มหวานขึ้นมา แต่ทว่านางไม่ได้มองไปที่ท่านดยุคดังเช่นเพื่อนสาวใช้ทั้งสอง แต่นางกำลังมองไปที่พ่อบ้านคอลตันต่างหาก
จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอมองเห็นตำแหน่งสายตาที่อันนากำลังมองไป
“ท่านพ่อบ้านของเราในวันนี้ก็..ดูดีมากกว่าทุกวันเลยนะ เจ้าว่าอย่างนั้นไหมอันนา”
จีเซลกล่าวแซวออกมาเบาๆ พร้อมกับอมยิ้มที่มุมปาก เมื่ออันนาเห็นท่าทีเช่นนั้นของเพื่อนรักเธอก็ยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่
“ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอกจีเซล..”
“ขอร้องล่ะอันนา ให้มันเป็นแบบที่ข้าคิดเถอะ เจ้าเหมาะสมกับท่านพ่อบ้านมากเลยนะ..ข้าอยากได้ยินข่าวดีนี้จะบ้าอยู่แล้ว”
อันนาหน้าแดงระเรื่อในทันทีที่ถูกจีเซลจับได้
“มะ..มันพึ่งเริ่มต้นเท่านั้นและข้ายังไม่แน่ใจว่าจะตอบรับความรู้สึกของท่านคอลตันแบบไหนดี”
ทั้งคาริและจีเซลถึงกับขมวดคิ้วในทันทีกับคำกล่าวของอันนาผู้ขี้อาย
“อันนา..เรื่องนั้นพวกเราทั้งสองคนบอกเจ้าไม่ได้หรอกนะ เจ้าจะต้องถามใจตัวเองต่างหากว่าเจ้าอยากจะอยู่กับท่านพ่อบ้านหรือว่าจะผลักไสเขาออกไป คำตอบมีเพียงสองอย่างเท่านั้นคือใช่และไม่..ถามตัวเองแล้วก็ลองซื่อตรงกับความรู้สึกดู”
คาริกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้อันนา
ใช่แล้วคำกล่าวของคาริมันมีเอาไว้เพื่อบอกกับอันนาให้เลือกตามที่ตนเองรู้สึก แต่คำกล่าวนั้นมันกลับจี้ใจของจีเซลอย่างน่าประหลาด..
เธอมองไปทางเดียวกันกับอันนาเพราะท่านพ่อบ้านคอลตันยืนอยู่ด้านหลังของท่านเคาน์ฟาเบียน
หากถามว่าเธออยากอยู่กับท่านฟาเบียนรึเปล่า แน่นอนว่าเธออยากอยู่กับเขาสิ แต่ทว่า..พื้นที่ข้างๆ เขามันไม่มีที่ให้เธอได้ยืนอยู่เนี่ยนะสิ
ในช่วงเวลาที่สายตาของจีเซลหยุดอยู่ที่ฟาเบียน นักร้องโอเปร่าผู้งดงามก็เดินเข้ามาหาเขาในทันที โรซาลีนนั้นเป็นสตรีที่ผู้คนย่อมต้องหยุดมองในความงดงามของเธอ เธอแย้มยิ้มก่อนจะยืนข้างท่านเคาน์แล้วยกมือขึ้นมาควงแขนของเขาเอาไว้..
จีเซลเลือกที่จะละสายตาไปทางอื่น เธอมองไม่เห็นแววตาที่คิดจะปฏิเสธของท่านเคาน์เลย เขายินยอมให้สตรีผู้นั้นยืนอยู่ข้างๆ ในช่วงเวลาที่เขาพูดคุยกับขุนนางมากมาย และยินยอมให้นางควงแขนเขาด้วย
ส่วนเธอที่เป็นสาวใช้ทำได้แค่มองเท่านั้นเอง..มองท่านเคาน์ผู้เจิดจรัสยืนเคียงข้างกับสตรีผู้งดงามดุจดั่งพระเจ้าปั้น
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยให้ตายสิ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านดยุคนิกซ์”
เสียงนั้นทำให้จีเซลหันกลับไปมองหน้าของท่านเคาน์อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเขาเอ่ยทักทายดยุคเดเมี่ยน จังหวะนั้นมันทำให้จีเซลแทบหยุดหายใจ เธอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะกำลังรอคอยคำตอบของท่านเดเมี่ยนอยู่ว่าเขาจะตอบออกมาเช่นไร
จะโวยวายและเปิดโปงว่าท่านเคาน์เลี้ยงดูปีศาจหรือว่าเขาจะยินยอมเก็บงำเรื่องนั้นเอาไว้ดี
“....”
สายตาคู่นั้นของเดเมี่ยนกำลังมองมาที่เธอ..เราประสายตาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าออกมาเบาๆ
“สวัสดีครับท่านเคาน์ซากอส ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกัน”
จีเซลแทบจะทรุดตัวลงไปบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับว่าเธอยกภูเขาออกจากอกไปแล้ว แต่ทว่าเมื่อเธอลืมตัวขึ้นมาอีกครั้งสายตาของท่านเคาน์กลับจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอแทน..
เขาแสยะยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก ก่อนจะหันกลับไปมองดยุค นิกซ์ต่อ
“ไม่ทราบว่าเมื่อครู่ท่านดยุคกำลังมองสิ่งใดอยู่อย่างนั้นหรือครับ?”
ฟาเบียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“อา..ขออภัยที่เสียมารยาทนะครับ เมื่อครู่ข้ามองสาวใช้ของท่านเคาน์ที่ชื่อว่าจีเซล พอดีว่าเมื่อตอนเย็นนางช่วยข้าเอาไว้ ข้าจึงอยากจะพูดคุยกับนางเป็นการส่วนตัว หวังว่าท่านเคาน์คงจะไม่หวงสาวใช้ผู้นั้นหรอกใช่ไหมครับ”
ฟาเบียนหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ข้าจะหวงสาวใช้ทำไมกันล่ะครับ เชิญท่านดยุคทำตามสบายเถอะครับ..”
เมื่อได้ฟังคำกล่าวของท่านเคาน์ หัวใจของจีเซลก็ราวกับกำลังจมลงไปในอ่างน้ำที่เย็นเฉียบอย่างช้าๆ
นั่นสินะ เขามาจะหวงเธอให้มันได้อะไรขึ้นมา..เธอเป็นแค่สาวใช้เท่านั้นเอง
“จีเซล เจ้าไม่คิดจะเล่าอะไรให้เราฟังหน่อยงั้นเรอะ!!”
คาริและอันนาที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เค้นถามจีเซลในทันที เพราะว่าพวกนางทั้งสองคนเองก็ได้ยินถ้อยคำที่ท่านดยุคและท่านเคาน์พูดคุยกัน
“ก็..ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่ได้พบเจอกับท่านดยุคโดยบังเอิญเท่านั้นเอง..”
ในขณะที่จีเซลกำลังเล่าเรื่องอยู่นั้น ท่านเดเมี่ยนก็เดินเข้ามาหาเธอในทันที
“จีเซล..ข้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับเจ้าเยอะมากพอสมควรเลย..เราไปคุยกันหน่อยดีไหม”
ในใจของจีเซลนั้น เธอไม่อยากทำให้ตัวเองเป็นจุดเด่นสักเท่าไหร่นัก เธอกำลังอารมณ์ไม่ดีจากการได้ยินคำกล่าวที่ไร้เยื่อใยของท่านเคาน์
เช่นนั้นเธอก็จะคิดซะว่านี่แหละคือโอกาสอันที่จะลืมท่านเคาน์ผู้นั้นซะ แล้วหันกลับไปคลั่งรักเดเมี่ยนของเธอเหมือนเดิม
