11.แล้วพบกัน
มันเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้เธอพึ่งจะอยู่บนสวรรค์..เมื่อครู่นี้เธอมีความสุขมากจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ แต่ในวินาทีที่จีเซลมองเห็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องนอนของท่านเคาน์ เธอก็ตระหนักได้ในทันทีเลยว่า..ความจริงมันไม่ได้สวยงามเช่นนั้น
คำว่าของเล่นนั้นมันมีระยะเวลาของมัน แน่นอนว่าในยามนี้เพราะเขากำลังสนุกสนานกับการได้ปั่นหัวเธอเล่น เขาจึงต้องพยายามอีกหน่อยเพื่อให้เขาได้ในสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังเอาไว้..และเมื่อเขาได้ทุกอย่าง..เรื่องที่เชื่อได้เลยคือท่านเคาน์ย่อมต้องเบื่อหน่ายของเล่นชิ้นเก่าของเขาแน่ๆ
เธอยังใหม่อยู่เพราะอย่างนั้นมันไม่แปลกหรอกที่เขาจะสนใจตัวเธอน่ะ
ทั้งๆ ที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้วแต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นมาในใจ แต่กลับระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไร
ให้ตายสิไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเธอจะหลงเสน่ห์กับความหล่อนั่นไปแล้วน่ะ..
จีเซลทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้าที่สวนด้านหลัง เธอไม่อยากจะเข้างานเลย ทั้งที่อยากจะเจอเดเมี่ยนมากแท้ๆ แต่กลับไม่อยากเห็นหน้าท่านเคาน์เลย
“คนสารเลว!”
เมื่อกล่าวจบจีเซลก็หยิบหินที่อยู่ข้างๆ เขวี้ยงเข้าไปในป่าด้วยความโกรธ
“อะ..โอ้ย!”
จีเซลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอได้ยินเสียงดังปั๊ก! ตามด้วยเสียงร้องเปล่งออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอรีบวิ่งเข้าไปที่ป่าด้านหลังในทันที
“ขะ..ขอโทษนะคะ เป็นอะไรมากรึเปล่า”
เธอมองเห็นชายสวมชุดสีดำที่กำลังนั่งหันหลังให้เธออยู่ เขายกมือขึ้นมากุมศีรษะตรงที่ถูกหินที่เธอเขวี้ยงมากระแทก เลือดสีแดงไหลลงมาตามขมับจนถึงปลายคาง และนั่นทำให้จีเซลตกใจมากกว่า
เธอรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วเช็ดเลือดให้เขาในทันที
“ขอโทษนะคะ ลุกขึ้นไหวไหมคะ ข้าจะพาท่านไปทำแผลให้เอง..”
เสียงของเธอจางหายไปในอากาศ เมื่อจีเซลมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของชายผู้นั้น
เรือนผมสีดำและดวงตาที่มีสีแดง ภาพลักษณ์ของเขานั้นคือท่านดยุคในแบบที่เราๆ ทุกคนจินตนาการถึง เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าทำไม เดเมี่ยนลูกรักถึงได้มาอยู่ที่นี่กันนะ?
“ไม่เป็นอะไร..ข้าไม่ขอรบกวนหรอกนะครับ..”
เขาออกมาเดินเล่นเพราะงานยังไม่เริ่มสักที เดเมี่ยนไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะๆ แต่อยู่ๆ ก็มีก้อนหินหล่นมาจากฟ้าแล้วมากระแทกหัวของเขาอย่างแรง เขาเจ็บปวดแต่ทว่าเมื่อพบเจอว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจ เดเมี่ยน ก็ไม่คิดจะเอาเรื่องเอาราวอะไร
ทว่าในวินาทีที่เขามองเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้น..เขาก็รู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองกำลังติดขัดอยู่..เธอสวมชุดสาวใช้และนั่นทำให้เขาพอจะเดาสถานะของเธอได้
แต่ทว่าขนาดเธอสวมเพียงแค่ชุดสีพื้นๆ เท่านั้น ความงดงามบนใบหน้านั้นยังไม่อาจถูกชุดสาวใช้บดบังได้เลย
“ไม่เป็นไรค่ะท่าน..หากท่านไม่สะดวกใจไปที่พักของข้าเช่นนั้นท่านรอข้าอยู่ตรงนี้นะคะ”
จีเซลทำท่าจะวิ่งจากไปแต่เขากลับดึงรั้งข้อมือของเธอเอาไว้
“อย่าไปนะครับ ข้าไม่เป็นอะไรมาก อีกทั้งเลือดก็หยุดไหลแล้ว..”
จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับท่าทางของเขาที่กำลังพยายามรั้งเธอเอาไว้
“อา..เช่นนั้นไปนั่งรอที่ด้านนอกได้ไหมคะ ข้าจะไปเอาอุปกรณ์ทำแผลมาให้ท่านเอง”
แววตาของเดเมี่ยนอ่อนลงเล็กน้อย
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ”
จีเซลพาเขามานั่งในสวนก่อนที่เธอจะวิ่งไปในคฤหาสน์เพื่อไปเอาอุปกรณ์ทำแผลมา
“ความสามารถของเจ้า..มีมากกว่าการเป็นสาวใช้อีกนะครับ”
จีเซลทายาให้เขาเพราะบาดแผลไม่ได้ใหญ่มากเธอจึงไม่ต้องพันผ้าปิดเอาไว้
“ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ เพราะความไม่ทันระวังของข้า ทำให้ท่านต้องเจ็บตัวเลย”
เธอก้มหน้าลงเพื่อขอโทษเขาอีกหน
“ไม่เป็นไรครับ เท่าที่ข้ามองผ่านกระจก บาดแผลนี้เล็กมากเสียจนดูไม่ออกเลย..ข้าไม่ถือสากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้หรอกครับ”
นี่แหละ..นี่คือเดเมี่ยนลูกรักของเธอเอง เรื่องนิสัยไม่ต้องพูดถึงเขาคือคนอ่อนโยน ใจดี ไทป์โกเด้นเลยล่ะ ปกติเธอก็ปกป้องเขาที่ด้านนอกเกมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อเข้ามาอยู่ในเกม หากเป็นไปได้จีเซลเองก็อยากจะปกป้องเขาเอาไว้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะช่วยได้ไม่มากแต่แค่เธอมองเห็นรอยยิ้มของเขา แค่เท่านั้นเธอก็มีความสุขแล้ว
“ท่านดยุคจะเข้างานเลยไหมคะ..ดูเหมือนว่างานจะเริ่มขึ้นมาแล้ว”
จีเซลหันไปมองที่ห้องโถงจัดเลี้ยงครู่หนึ่ง เมื่อเธอได้ยินเสียงเพลงที่กำลังเริ่มบรรเลงอีกครั้ง เธอก็รู้ได้ในทันทีว่างานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว
“..อันที่จริงข้าไม่ค่อยชอบสถานที่ที่มีคนเยอะเท่าไหร่นัก”
จริงๆ แล้วเดเมี่ยนแค่อยากจะพูดคุยกับสาวใช้ผู้นี้อีกสักหน่อย เพราะหากเราจากกันไปแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้พบเจอนางอีกหรือไม่”
จีเซลพยักหน้า
“มีคำกล่าวว่าคนเรานั้นไม่อาจกล่าวทุกคำที่พูดหรือว่าทุกคำที่เห็นออกมาได้ทั้งหมด กฎการเข้าสังคมมีเท่านั้นเองค่ะ หากว่าท่านดยุคเข้าใจในคำกล่าวที่ข้าพูด การเข้าสังคมของท่านก็คงจะง่ายดายขึ้นเยอะเลย”
ทำไมกันนะ ทำไมสตรีผู้นี้ถึงได้รู้ในสิ่งที่เขากังวลราวกับว่านางสามารถอ่านใจได้ยังไงอย่างนั้นเลย
“ข้าพูดตรงมากเกินไปสินะครับ เพราะแบบนั้นทำให้การเข้าหาขุนนางท่านอื่นๆ สำหรับข้ามันคือเรื่องยาก”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ แต่ท่านดยุคต้องแยกเรื่องให้ออก ว่ามันคือเรื่องที่ควรพูดหรือว่าเรื่องที่ไม่ควรกล่าวออกมาในสถานการณ์ นั้นๆ แค่ท่านเข้าใจในเรื่องนี้การเข้าสังคมของท่านก็จะง่ายดายขึ้นแล้ว..กับบางเรื่องนั้นไม่ต้องกล่าวออกมาหรอกนะคะ”
ขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรที่ทำให้มัมหมีคนนี้ปวดใจเลยนะ ยกตัวอย่างเช่นการเปิดเผยว่าท่านเคาน์เลี้ยงดูปีศาจอยู่น่ะ นั่นมันคือจุดเริ่มต้นความยากลำบากในชีวิตของหนูเลยนะลูก
“ข้าจะจดจำคำกล่าวของเจ้าเอาไว้ก็แล้วกัน ขอบคุณมากนะ..”
จีเซลก้มหน้าลงอีกครั้ง
“ขอให้ท่านดยุคมีค่ำคืนที่สวยงามนะคะ”
อย่าทำลายตัวเองอีกเลยนะลูก อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับตัวร้ายอีกเลยขอร้องล่ะ
“ข้าอยาก..ทราบชื่อของเจ้าได้รึเปล่า?”
จีเซลตกใจมากทีเดียว ที่เขาเอ่ยถามชื่อของเธอออกมา
“จีเซลค่ะ ท่านดยุคสามารถเรียกข้าว่าจีเซลได้เลย”
จีเซลงั้นเหรอ..เป็นชื่อที่ดีและเขาจะจดจำชื่อของเธอเอาไว้ให้ขึ้นใจเลย
“แล้วเจอกันใหม่นะจีเซล”
นี่เป็นคำลาที่ตราตรึงใจเธอมากทีเดียว..เพราะมันคือการบอกลาที่บอกเล่าถึงความรู้สึกของเดเมี่ยนว่าเขา..อยากจะพบเจอเธออีกครั้งหนึ่ง
