10.อย่าหวั่นไหว
คำถามนั้น..ฟาเบียนไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะตอบเช่นไรดี เธอถามอย่างตรงไปและตรงมา ถามด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความใคร่รู้
เธอเอ่ยถามด้วยดวงตาที่แน่วแน่ว่าเรื่องราวของเรานั้นมันจะเป็นเช่นไรต่อไป นี่คงเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่ดวงตานั้นมันไม่ได้สั่นไหวในยามที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าของเขา..
“ในความคิดของเจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนกันล่ะจีเซล หากเจ้าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเป็นสาวใช้ เช่นนั้นข้ายินดีที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นนางบำเรอของข้านะ..”
เธอเหน็ดเหนื่อยกับการเป็นสาวใช้และไม่ชอบการทำงานเป็นสาวใช้มากๆ เลย แต่ทว่าการเป็นสาวใช้นั้นทำให้เธอมีเพื่อนและเธอน่าจะอยู่ในคฤหาสน์ซากอสได้สบายใจมากกว่าการเป็นนางบำเรอของเขา
“ข้ายินดีที่จะเป็นสาวใช้ต่อไปค่ะ..หากนายท่านเมตตาก็ช่วยทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม”
อย่าฆ่าเธอก็พอแล้ว เธอยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ ..
ฟาเบียนแค่นหัวเราะออกมา ริมฝีปากของเขาแนบลงไปบนกลีบปากนั้นอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากของเขาไล่ตามมาช่วงชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง..นี่ไม่ใช่จูบแสนเร่าร้อนเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบาและนุ่มนวลทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับทุกจุดที่ปลายลิ้นสัมผัส
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ผลักไสเขาออกไป ตรงกันข้ามจีเซลกลับให้ความร่วมมือกับจุมพิตครั้งนี้เป็นอย่างดีอีกด้วย เธออยากเอาใจเขาสักหน่อย..หากว่าการกระทำเช่นนั้นมันช่วยให้เธอมีชีวิตรอดต่อเช่นนั้นมันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงไม่ใช่รึไง
เธอพยายามแทรกปลายลิ้นไล้ไปตามส่วนต่างๆ ราวกับจะเอาคืนลิ้นของเขาที่มันกำลังซุกซนอยู่ในปาก เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นในทันที
ฟาเบียนนั้นถึงแม้ว่าจะเสียดายแต่เขาก็จำใจที่จะต้องหยุดจุมพิตนี้เอาไว้ก่อน
“ข้าต้องลงไปข้างล่างแล้วสิ..”
ถึงแม้ว่าจะกล่าวเช่นนั้นแต่ทว่าเขายังคงดันเอวสอบเข้ามาหาเธอ ปลายนิ้วของเขาเลื่อนไล้ลงไปที่ด้านล่างก่อนจะแตะสัมผัสลงไปบนกางเกงชั้นใน
“เห็นไหมว่าเจ้าเองก็เปียกมากแล้วเช่นเดียวกัน..หากเจ้าลงไปไม่ไหวเช่นนั้นรอข้าอยู่ที่ห้องนี้ดีไหม ข้าจะรีบกลับมา..”
เธอยกมือขึ้นมาผลักเขาออกเล็กน้อย
“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ ข้าจะลงไปด้านล่างด้วย เชิญท่านเคาน์ลงไปก่อนเถอะค่ะ ข้าจะตามลงไปทีหลัง..”
เธอกล่าวออกมาโดยที่สายตาทั้งคู่หันไปมองทางอื่น จีเซลไม่กล้าที่จะช้อนสายตามองหน้าเขาในตอนนี้เลย เธอไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่ใบหน้าของเธอในยามนี้มันกำลังเห่อร้อนอย่างห้ามไม่อยู่ และมันคงไม่น่าดูมากแน่ๆ
ฟาเบียนโน้มกายลงมาอย่างช้าๆ ริมฝีปากของเขาแตะลงไปบนหน้าผากของเธอ
“เรื่องนั้นตามใจเจ้าเลย แต่อย่าลืมว่าคืนนี้เราต้องมาพบเจอกันที่นี่ เข้าใจไหม..”
จีเซลพยักหน้าไปก่อน เพราะหากเธอไม่ตกปากรับคำดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมออกไปจากห้องนี้..
“ให้ข้าสวมเสื้อตัวนอกให้นะคะ”
หน้าที่ก็ยังคงต้องกระทำอยู่เหมือนเดิม จีเซลรวบรวมสติของตัวเองกลับมาแล้วเดินไปหยิบเสื้อตัวนอกและผ้าคลุมมาสวมให้เขา
“เจ้าเป็นผู้สวมใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ลงไปบนตัวข้า เช่นนั้นเจ้าก็จะต้องถอดมันออกด้วยนะจีเซล..”
เธอไม่ได้กล่าวคำใด จีเซลเพียงยืนเงียบๆ และพยายามติดกระดุมเสื้อตัวนอกให้เขาเท่านั้น
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของพ่อบ้านคอลตัน
“ได้เวลาแล้วครับนายท่าน.”
หากเลือกได้คอลตันก็ไม่อยากจะทำหน้าที่นี้เท่าไหร่นัก เพราะว่าเขาไม่อยากทำให้นายท่านโกรธ แต่ดูจากด้านในที่เสียงเงียบเช่นนั้นแล้ว นายท่านคงไม่โกรธเขาที่เข้ามาขัดจังหวะเท่าไหร่หรอกละมั้ง
มือของฟาเบียนจับเข้าที่ปลายคางของจีเซล เขาอยากให้เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วช้อนสายตามองหน้าเขา..
“แล้วเจอกันนะจีเซล..”
คำกล่าวของเขายังคงมีความสามารถในการสั่นไหวหัวใจของเธออย่างน่าเหลือเชื่อเหมือนเดิมเลย จีเซลมองตามแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินออกไปจากประตูห้องนี้ด้วยแววตาที่สั่นระริก
เธอเองก็ไม่ใช่อิฐไม่ใช่ปูนนะเว้ย..มาใกล้ชิดกันแบบไหน ใครมันจะไปทนไหวกันวะ!!
ทั้งที่รู้ว่าเขาจะต้องฆ่าเธอในสักวัน แต่ความกลัวในยามนี้มันมีน้อยมากกว่าความต้องการแล้วละสิ
ไม่ได้นะโว้ยจีเซล นี่แกจะหลงใหลในตัวของนายท่านไม่ได้นะโว้ย!!
ไม่ได้การฉันต้องลงไปข้างล่างเพื่อไปเรียกสติของตัวเองกลับมา หากได้พบเจอ ดยุคเดเมี่ยนลูกรักสักครั้ง บางทีเขาอาจจะดึงสติของฉันกลับมาก็ได้
การอยู่ที่นี่..อยู่ในห้องนอนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของท่านฟาเบียนมันมีแต่จะทำให้สติอันน้อยนิดของฉันจางหายไป นี่แค่ห้ามไม่ให้ตัวเองกระโดดขึ้นเตียงนอนของเขาเพื่อสูดดมกลิ่นของเขายังยากเลย..
จีเซลเดินมาที่ด้านหน้ากระจก เธอจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติ
“ไปเจอเดเมี่ยนลูกรักกันเถอะ!”
ทว่าเมื่อจีเซลเปิดประตูออกมา เธอก็พบเจอกับสตรีผู้หนึ่งที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าห้อง
“นี่คือห้องของท่านเคาน์รึเปล่าคะ ข้ามีนามว่าโรซาลีนค่ะ เป็นนักร้องโอเปร่าที่ท่านเคาน์เลือกข้าเอาไว้ให้เป็นนางบำเรอคนใหม่ของท่าน นี่คือจดหมายยืนยันค่ะ..”
สตรีผู้นั้นงดงามมากทีเดียว สมแล้วที่เป็นนักแสดงละครโอเปร่าอีกทั้งยังสมแล้วที่เป็นนางบำเรอของท่านเคาน์น่ะ
จีเซลรีบจดหมายนั้นมาเปิดอ่าน มันมีตราประทับของคฤหาสน์ซากอสจริงๆ ด้วยสินะ และท่านเคาน์น่าจะเป็นผู้ลงนามด้วยตัวเอง
“รับทราบแล้วค่ะเลดี้ ไม่ทราบว่าเลดี้ต้องการห้องพักไหมคะ”
โรซาลีนยกมือขึ้นมาปิดปากหัวเราะ
“ข้าต้องการห้องพักค่ะ และข้าจะพักที่นี่เพราะข้าจะทำหน้าที่นางบำเรอของตัวเองในคืนนี้เลย เจ้าไม่ต้องบอกกล่าวกับท่านเคาน์ก็ได้นะ ข้าอยากจะทำให้ท่านเคาน์แปลกใจน่ะ”
เหมือนถูกค้อนทุบลงมาบนศีรษะแรงหลายๆ ครั้งเลย มันเจ็บแบบแปลกๆ แต่ถึงอย่างนั้นจีเซลก็ยังคงยิ้ม
“เรื่องนั้นคงต้องขออนุญาตท่านเคาน์ก่อน..”
“ขออนุญาตอะไรกัน ในเมื่อจดหมายนี่ก็บอกชัดเจนว่าท่านเคาน์เลือกข้าเป็นนางบำเรอน่ะ ข้าจะเข้าไปรอที่ด้านในห้องนอนของท่าน เคาน์ มีเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะสมกัน”
เมื่อกล่าวจบโรซาลีนก็เดินเข้าไปในห้องนอนของท่านเคาน์ในทันที
“เจ้าเป็นสาวใช้ประจำตัวของท่านเคาน์ใช่ไหม..เช่นนั้นหลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงสักสองชั่วโมงเจ้าควรมารอคอยอยู่ด้านหน้าห้องนี้ เพื่อเตรียมน้ำอุ่นให้ข้าอาบด้วยนะ หลังจากทำเรื่องเช่นนั้นเสร็จแล้วข้าชอบแช่น้ำอุ่นน่ะ..แล้วก็เตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ข้าด้วยล่ะ..”
