บันทึกที่ 3 เพื่อนรัก 1
เหยียนฉง
5 ปี ต่อมา
การเปิดกิจการดูดวง ดูโหงวเฮ้ง ดูฮวงจุ้ย เป็นเรื่องยากมากสำหรับวัยรุ่นอย่างพวกฉันที่ต้องทำงานพวกนี้ ธุรกิจของฉันมีเพื่อนร่วมหุ้นด้วยและฉันก็ได้ช่วยเหลือคนอื่นๆที่เก่งในเรื่องนี้นับตั้งแต่อดีตตัวของฉันเองก็ได้รู้จักกับคนมากมาย พวกเขาเก่งกาจในแต่ละด้านของตัวเอง อย่างเช่น โจวซือ เก่งด้านทำอาคมอาวุธอาคมที่ทำด้วยเวทมนตร์ซึ่งสืบทอดมาจากอาจารย์ของพวกเขา โจวหยู เก่งในด้านการปราบผีแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ทักษะการปราบผีของเธอโคตรเก่งเลยจึงเขาเรียกว่าหมอผีนั่นเอง ซูเหยียนเซิง เป็นร่างทรงหรือผู้สื่อสารกับวิญญาณและสารดูดวงได้ด้วย หลี่ซิ่วถง เป็นเพื่อนสนิทของฉันคอยดูแลงานต่างๆอย่างเช่นหางานหาคนมาทำงานเพื่อนคนนี้ของฉันเธอดีกับฉันมาก
"ทิ้งไพ่สิครับเจ๊"
"เสี่ยวเซิง นายแพ้แน่"
"เจ๊นั้นแหละแพ้แน่"
"พอๆ พวกแกต่างหากแพ้ฉัน"
"เจ๊หลี่ เจ๊นั้นแหละแพ้ฉัน"
"เสี่ยวซืออย่าพูดมากเหอะๆ"
"เหยียนเซิง ลูกค้ามาดูดวง"
"บ้าเอ้ยคนกำลังจะชนะ มาตอนนี้ทำไมก่อนอยากกรี๊ดจริงๆ"
"555 ดูทำหน้าเข้าไปทำงานเถอะ"
ฉันบอกแล้วว่าเหยียนเซิงจะแพ้แต่เหอะๆ ตอนนี้ฉันทิ้งไพ่นกกระจอกของตัวเองที่อยู่ในมือสุดท้ายคนที่ชนะกลับกลายเป็นเพื่อนฉันซะงั้น
"แก้แพ้แล้วฉงฉง"
"อะไรกันม้ามืดจริงๆด้วย"
ฉันบ่นให้กับเพื่อนของตัวเองก่อนที่จะหมุนเก้าอี้นุ่มๆของตัวเองไปมาก่อนที่จะเลิกเล่นให้คนอื่นเก็บไพ่กันตอนนี้ฉันทำธุรกิจนี้มาเกือบ 4 ปีใช้ชีวิตเออระเหยมา 1 ปีทำงานอีก 4 ปี ตอนนี้มีธุระกิจใหญ่โตขึ้นมาอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเราดูดวงแม่นมากดูฮวงจุ้ยแม่นมากเหมือนกันจึงทำให้คนหลายคนต่างติดใจในการมาดูดวงกับพวกเราแต่สิ่งเดียวที่เป็นข้อห้ามและก็คือไม่รับดูดวงให้กับเมียน้อยมันเป็นคำต้องห้ามที่ฉันไม่ชอบที่สุดและฉันไม่อยากจะดูดวงให้กับคนแบบนั้นด้วย
"แย่แล้วเจ๊ถง เสี่ยวเซิงโดนด่า"
"โจวหยู เธอปล่อยให้เสี่ยวเซิงโดนด่าได้ยังไงใครกันไม่พอใจอะไรทำไมถึงขั้นด่ากันแบบนี้"
"ก็คนที่มาดูดวงนั่นแหละไม่พอใจที่ตัวของเสี่ยวเซิงดูดวงให้กับตัวเองแล้วบอกว่าตัวเองโชคร้ายฉันจึงมาตามเจ๊ไปไง"
"เฮ้อ...มนุษย์เป็นพวกโลภมากอยู่แล้วถ้าดวงตัวเองดีก็ชื่นชมถ้าตัวเองซวยก็ด่าทอคนดูดวงให้เดี๋ยวฉันจัดการเอง"
ฉันก็เลยเดินออกจากห้องที่ไว้เล่นไพ่ห้องนั้นเป็นห้องทำงานของฉันเองนั่นแหละเล่นไพ่เอาไว้คลายเครียดสักหน่อยเป็นปกติแล้วธรรมดาของฉันที่เวลาเครียดๆก็จะทำงานหรือไม่ก็เล่นไพ่กับเพื่อนๆคนอื่นคนที่ทำงานของฉันมีทั้งหมด 5 คนรวมถึงฉันเป็น 6 เราทำงานอยู่ด้วยกันแบบนี้มา 4 ปีแล้วเหยียนเซิงเป็นเด็กกำพร้าไม่มีครอบครัวถูกเลี้ยงโดยสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในตอนที่ฉันเห็นเขาเมื่อ 4 ปีก่อนยังเป็นเด็กวัย 13 ปีฉันจึงขอรับเขามาทำงานด้วยซึ่งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลังขาดทุนฉันจึงให้เงินก้อนนึงเพื่อแลกตัวกับเด็กที่มีความสามารถซึ่งแน่นอนว่าเขาสื่อสารกับวิญญาณได้จริงๆ
เมื่อฉันมาถึงเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาจนทำเอาฉันแสบแก้วหูไปหมดคนพวกนี้มาดูดวงก็หวังพึ่งแต่อยากดูดวงที่ดีไม่คิดเลยว่าดวงตัวเองจะสวยขนาดไหนแล้วยิ่งทำกับคนที่ดูดวงให้ต่อให้เด็กคนนี้จะเป็นเด็กแค่อายุ 17 ปีแต่ก็ไม่ควรที่จะทำร้ายหรือด่าทอแบบนี้ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงเด็กคนนี้จะไม่พูดอะไรที่มันเกินเลยไปเด็ดขาดและอีกอย่างนึงมาแล้วก็ทำลายข้าวของในห้องทำงานคิดว่าเรื่องนี้จะจบอย่างง่ายดายอย่างนั้นหรอไม่มีทางหรอก
"พวกแกมันนักต้มตุ๋นดูดวงกันยังไงพวกฉันจะสวยอย่างนั้นหรอมีคนไม่อยากจะช่วยเหลือฉันอย่างนั้นหรอ เหอะ ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนดูดวงไปซะที่ไหนไปหาคนที่ดูดวงเก่งๆมาสิ"
"โวยวายพอหรือยัง"
"แล้วเธอล่ะเป็นใครเข้ามาทำหน้าตาไม่พอใจฉันดูเด็กของแกด้วยดูดวงภาษาอะไรทำนายทายทักเหมือนคนไม่เคยได้รับการศึกษา"
"นี่ก่อนจะพูดอะไรให้เกียรติสถานที่ว่างที่นี่คือที่ดูดวงแม้ว่ามันจะไม่ใหญ่โตเหมือนคนที่เคยออกทีวีหรือคนที่โด่งดังที่สามารถดูดวงได้แต่ที่นี่ก็นับว่ามีชื่อเสียงอยู่พอตัวเด็กคนนี้เขาทำนายดูดวงพวกคุณเป็นยังไงคุณถึงไม่พอใจถึงขนาดนั้น"
"ก็ไอ้เด็กนี่มันทำนายว่าฉันกำลังจะซวยธุรกิจกำลังจะล่มจมดูดวงยังไงว่าจะไม่มีใครช่วยเหลือฉันในยามที่ลำบากโกหกทั้งเพ"
"นายไปพักผ่อนไปเดี๋ยวฉันจะดูดวงให้เขาเอง"
"ผู้หญิงอย่างเธอเนี่ยนะจะดูดวงเป็นฉันไม่เชื่อหรอก"
"ไม่เชื่อก็ลองดูนั่งลงสิคะฉันจะดูดวงให้ถ้าไม่แม่นจริงฉันจะแถมเงินให้คุณ 10,000 หยวนเพื่อเป็นการไถ่โทษคุณถ้าคุณดูดวงแล้วมันแม่นตามที่ฉันพูดคุณต้องกล่าวขอโทษเด็กของฉันอยู่ที่หน้าบริษัทของฉันเป็นไงถือว่าสมน้ำสมเนื้อไหม"
"ค่าดูดวงเท่าไหร่บอกมาได้เลย"
"ดูดวง 500 หยวน ดูโหงวเฮ้ง 500 หยวน ดูฮวงจุ้ย 1500 หยวน ไล่ผี 20,000 หยวน"
"งั้นฉันดูดวงกับดูโหงวเฮ้งถ้าดูแล้วดีและเก่งจริงๆฉันจะเชิญไปดูฮวงจุ้ยที่บ้าน"
"ได้งั้นดีลงาน มาฉันจะดูดวงให้ก่อนก็แล้วกันมาเถอะ"
ฉันหันมามองใบหน้าของหญิงสาววัย 40 ปลายมองดูแล้วแม้ว่าจะอายุ 40 รายแต่ผู้หญิงคนนี้กลับเป็นผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงที่สวยบานสะพรั่งตามประสาฉันมองดูรอบๆแล้วพลังงานบนตัวของผู้หญิงคนนี้มีทั้งสีขาวและก็สีดำบางทีก็เหมือนกันเป็นสีเทาซึ่งแน่นอนว่าคนคนนี้ก็ไม่ใช่คนดีเกินไปหรือเลวร้ายเกินไปอยู่ระหว่างกึ่งกลาง
"คุณยังไม่ได้แต่งงานอายุก็ 40 ปลายๆ ถ้าไม่บอกอายุทุกคนก็คงจะเข้าใจว่า 20 เกือบ 30 คุณหน้าเด็กมากเลยนะแต่นิสัยของคุณก็เหมือนหญิงอายุ 40 นั่นแหละคุณหลงรักผู้ชายคนนึงสูงประมาณ 180 อายุน้อยกว่าเกือบ 20 ปีเขากำลังเรียนมหาลัยอยู่ใช่ไหมคุณไม่ต้องตอบฉันแค่ตอบฉันในใจก็พอฐานะทางครอบครัวของคุณก็ถือว่าร่ำรวยนะดวงคุณพื้นเพก็ดีมาตั้งแต่เด็กแต่พออายุเข้าเลข 4 คุณรู้สึกปวดกระดูกสันหลังอยู่บ่อยๆปวดตามข้อตามกระดูกอาเจียนอยู่บ่อยครั้งมีอาการหน้ามืดอยู่บ่อยๆคุณเคยทำร้ายคนอื่นหรือเปล่าอย่างเช่นเพื่อนสนิทเรื่องแย่งผู้ชาย"
"ฉันไม่เคยทำ"
"แล้วผู้หญิงที่ผมยาวถึงกลางหลังผมหยักศก หน้าเรียวเล็กรูปร่างสูงประมาณ 169 cm ที่กลายเป็นวิญญาณร้ายอยู่ด้านหลังของคุณหมายความว่ายังไงล่ะเขาก็ติดคุณขี่หลังคุณอยู่บ่อยๆทำให้คุณรู้สึกปวดหลังปวดตามข้ออยู่บ่อยๆ"
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอเอาเรื่องนี้มาพูดได้ยังไงฉันไม่เคยทำร้ายใครฉันไม่เคยฆ่าใครทั้งนั้นแล้วไม่เคย..."
"คิดดีๆสิเรื่องผู้ชายสำหรับผู้หญิงแล้วไม่เข้าใครออกใครคุณคิดว่าคุณไม่เคยทำร้ายใครจริงๆหรอทั้งคำพูดและการกระทำคุณไม่เคยใช้คำพูดนั้นจริงๆหรอลองคิดทบทวนดูดีๆ"
ฉันมองเห็นวิญญาณของผู้หญิงคนนี้ เดินตามติดของคนที่มาดูดวงกับฉัน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาไปทำอะไรกัน แต่ที่แน่ๆก็คือผู้หญิงคนนี้เป็นต้นเหตุทำให้วิญญาณคนนี้กลายเป็นวิญญาณแค้นซึ่งแน่นอนว่า ตามติดชีวิตของผู้หญิงคนนี้มาตั้งนานแล้วค่อยๆกลืนกินความสุข และโชคดีของคนที่มาดูดวงกับฉัน
"คุณชื่ออะไร"
"หม่าหวงหวั่น"
"คุณหม่า นับดูแล้วผู้หญิงคนนี้น่าจะเสียมาแล้วประมาณ 20 ปีหรือจะมากกว่านั้นคุณลองทบทวนดูดีๆสิคิดได้แล้วค่อยบอกฉันก็ยังไม่สาย"
"ฉันไม่ได้ฆ่าอะไรใครทั้งนั้นจริงๆนะ ฉันเคยมีเพื่อนอยู่คนนึงเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยประถม เราโรงเรียนม.ปลายด้วยกันฉันหลงรักรุ่นพี่คนนึงเพื่อนของฉันบอกว่าเขาจะเป็นคนเป็นแม่สื่อให้กับฉันเองแต่นับวันนอกจากผู้ชายจะไม่สนใจฉันกลับไปชอบเพื่อนของฉัน ฉันเสียใจที่ถูกหักหลังฉันจึงขอเลือกคบกับเพื่อนคนนี้แต่ฉันก็ไม่ได้เลิกคบกับเขาด้วยดีฉันทะเลาะกับเพื่อนคนนี้หนักมากแล้วเธอก็หายตัวไปนับตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกันแล้วฉันก็ไม่เห็นเธออีกเลย"
"เธอเสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่คุณทะเลาะกันกับเธอนั่นแหละ"
"ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดทำร้ายจิตใจของผู้หญิงคนนั้นเธอทำร้ายจิตใจของฉันก่อนฉันก็เผลอพูดไม่ดีกับเธอไปฉันลืมเรื่องของเธอไปได้ยังไงกัน"
"คุณไม่รู้หรอว่าเธอตามติดคุณเวลาคุณจะได้เจอกับผู้ชายที่ดีเธอก็คอยขัดขวางทำให้คุณไม่สามารถได้ครองรักกับผู้ชายที่คุณเจอ"
"ฉันเคยสัญญาไว้ว่าฉันจะให้เพื่อนของฉันแต่งงานก่อนแล้วฉันจะแต่งงานทีหลังถ้าเพื่อนของฉันไม่แต่งงานฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะแต่งงาน"
"นั่นเป็นคำพูดของคุณตอนสมัยคุณยังเด็กๆเพื่อนของคุณยังอยู่ในช่วงเวลาที่ยังจำคำสัญญาของคุณเอาไว้ตอนนี้เธอมาทวงคำสัญญาของคุณ คุณทะเลาะกับเขาเรื่องความรักคุณก็ต้องแก้ไขกับเธอด้วยความรักเช่นเดียวกัน"
"เธอตายไปแล้วเธอจะแต่งงานกับใครอีกล่ะเธอตายไปแล้วแทนที่เธอจะปล่อยให้ฉันมีความสุขแต่เธอกลับขัดขวางฉันนี่มันเป็นเพื่อนรักกันตรงไหน"
"เหยียนเซิง นายถอดสร้อยออกซะเชิญวิญญาณเข้าร่างชั่วคราว"
"ครับเจ๊"
เหยียนเซิงถอดสร้อยคอที่กักเก็บพลังและกันพลังสิ่งชั่วร้ายเข้ามาสิงร่างออกโดยที่มีถงถงเก็บสร้อยเอาไว้ให้ ไม่นานพลังที่ถูกปล่อยออกมาก็รับพลังของวิญญาณที่อยู่ติดกับคุณหม่าเข้าไปลักษณะท่าทางของเหยียนเซิงจึงเปลี่ยนไปปฏิกิริยากลายเป็นผู้หญิงสุภาพเรียบร้อย ฉันแทบจะอัดวีดีโอไว้เลยและที่แน่ๆก็คือเพื่อนของฉันเธอถ่ายคลิปเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เสี่ยวหวั่นฉันเอง เจิงข่ายซิน"
"เจิงข่ายซิน...ที่แท้เธอก็ตายไปแล้วจริงๆตัวของเธอตายไปแล้วทำไมยังตามติดชีวิตของฉันอยู่ยังคอยกลืนกินความดีของฉันความโชคดีของฉันหายไปเพราะเธอรู้หรือเปล่าฉันหมดโอกาสที่จะได้แต่งงานกับคนที่ดีก็เพราะเธอทำไมเธอถึงทำกับฉันแบบนี้"
"หลายปีที่ฉันคอยตามติดเธอโทษฉันกลัวว่าเธอจะต้องเสียใจกับผู้ชายที่ไม่รักเธอจริงๆแต่ฉันไม่รู้ว่าการตามติดเธอจะทำให้ความโชคดีของเธอหายไปแถมยังทำให้เธอป่วยทางร่างกายและจิตใจฉันขอโทษนะ ฉันติดค้างคำขอโทษของเธอมาตลอดหลายปีเธอมองไม่เห็นฉันแต่ฉันอยู่กับเธอมาโดยตลอดฉันอยากให้เธอเจอคนที่ดี"
"แล้วเธอตายเพราะอะไรเธอฆ่าตัวตายนั่นหรอทำไมเธอถึงสิ้นคิดแบบนี้"
"ฉันไม่ได้ฆ่าตัวตายรุ่นพี่คนนั้นเป็นคนฆ่าฉันแล้วเขาก็นำศพของฉันไปทิ้งและทำลายไปฉันจึงกลายเป็นวิญญาณเรร่อน อาจจะเป็นเพราะว่าจิตสุดท้ายของฉันยึดติดกับเธอและอยากขอร้องเธอให้มาช่วยฉันรู้ตัวอีกทีวิญญาณของฉันก็เกาะติดเธอไปไหนไม่ได้"
"ทำไมรุ่นพี่คนนั้นถึงจะฆ่าเธอ"
"รุ่นพี่คนนั้นเขาเป็นคนในแก๊งขโมยอวัยวะฆ่าคนเพื่อเอาอวัยวะภายในไปขายที่เขาร่ำรวยมีเงินเลี้ยงพวกเราก็เพราะต้องการอวัยวะของพวกเรามีขายในวันที่เราทั้งสองคนทะเลาะกันเขาบังเอิญเห็นฉันกำลังร้องไห้เขาจึงพาฉันกลับบ้านแต่เขากลับพาฉันเข้าไปที่บ้านหลังนึงใช้ยาสลบกับฉันเมื่อฉันฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นวิญญาณร่างของฉันอยู่ที่บ้านร้างแห่งนั้นชั้นใต้ดินตอนนี้ก็คงจะเหลือเพียงเถ้ากระดูกที่ยังหลงเหลืออยู่"
"เจิงข่ายซิน...ฮืออออออ!!ฉันขอโทษ ฮืออออ!!"
"อย่าร้องไห้เลยคนๆนั้นสมควรได้รับผลกรรมของตัวเองมากกว่าเธอในครั้งนี้ถ้าเธอไม่ป่วยเพราะฉันเธอคงไม่มาที่นี่และเราก็คงจะไม่ได้พูดคุยกัน"
"พวกคุณสองคนอย่าเพิ่งดราม่ากันได้ไหมเรื่องนี้มันเกี่ยวกับการฆาตกรรมถ้าจะบอกว่าวิญญาณมาเข้าร่างแล้วบอกว่าตัวเองตายเพราะใครตำรวจก็คงไม่เชื่อเพราะไม่มีหลักฐานเอาแบบนี้ก็แล้วกันในฐานะที่ฉันทำให้คุณสื่อสารกับวิญญาณได้ฉันจะช่วยตามหาฆาตกรและหาร่างของคุณให้ได้ก็แล้วกัน"
"ขอบคุณนะคะฉันต้องออกจากร่างนี้แล้วเพราะเจ้าของร่างทนรับแรงอาฆาตของฉันไม่ไหวจึงทำให้เขาอ่อนแอลงฉันกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรฉันต้องออกจากร่างเขาให้เร็วที่สุดแต่ก่อนที่ฉันจะออกไปฉันจะวาดแผนที่ให้นะคะ"
วิญญาณที่อยู่ในร่างของเหยียนเซิงคว้าปากกากับกระดาษขึ้นมาวาดแผนที่จุดสังเกตง่ายๆเอาไว้ให้กับพวกเราทำเอาฉันตกตะลึงเพราะที่แห่งนั้นฉันเคยไปในสมัยตอนที่ฉันกำลังเรียนอยู่มอปลายฉันเคยไปที่นั่นทำเอาฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆไปเสียแล้วและฉันจะช่วยคนๆนี้ให้ถึงที่สุด
"การตามหาในครั้งนี้คุณต้องการเงินเท่าไหร่บอกฉันได้ฉันจะให้เงินคนอย่างเต็มที่ไม่เกี่ยงขอให้ตามหาศพของเพื่อนฉันที่เจอก็พอ"
"ได้เลยมันเป็นงานของพวกเราอยู่แล้วงั้นวันนี้คุณกลับบ้านไปก่อนอีก 3 วันพวกเราค่อยมาเจอกันอีกครั้งที่นี่"
"ฉันฝากความหวังไว้กับคุณแล้วนะคะ"
"แน่นอนค่ะเชิญ"
คุณหม่าออกไปพร้อมกับจ่ายเงินที่ฝ่ายบัญชีซึ่งก็คือเพื่อนของฉันเองเรานัดกันอีก 3 วันถึงจะไปหาเนื่องจากว่าอีก 3 วันจะเป็นวันปล่อยผีซึ่งเป็นวันที่แรงมากเราจะไปหาโครงกระดูกนั่นได้ง่ายที่สุดเพราะนั่นเป็นวันที่แรงที่สุดเหมือนกันเราต้องมีการเตรียมพร้อมเอาไว้ด้วยพระวิญญาณที่ตายโดยไม่เป็นธรรมน่าจะไม่ใช่แค่ศพเดียวน่าจะมีเยอะกว่านั้นอีกแน่นอน
: