บทที่ 2 ยมทูตสุดหล่อ (1)
บทที่ 2
ยมทูตสุดหล่อ
หน้าจอโทรทัศน์ทุกช่อง หน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวอย่างเผ็ดร้อนสร้างความฮือฮาให้กับผู้คนที่ได้เสพสื่อ แน่ล่ะว่าข่าวตำรวจเจอศพผู้หญิงที่ถูกฝังอยู่ด้านหลังสถานบันเทิงชื่อดังแทบจะไม่มีคนสนใจเท่ากับข่าวที่มีคนสิ้นสติอยู่ข้างทางใกล้ๆ รถตัวเอง
ข่าวคงไม่ดัง หากสภาพจะไม่ซีดขาว เสียเลือดเป็นจำนวนมาก แต่ที่น่าแปลกคือบริเวณนั้นไม่มีเลือดเปรอะเปื้อนเลย มีเปื้อนตรงรอบๆ บาดแผลที่คอเท่านั้น
รอยแผลเหมือนโดนสัตว์ที่มีสองเขี้ยวฝังลงไปลึกพอสมควร
ประวิตรอาการโคม่า ต้องเติมเลือดด่วน ครั้นได้สติมาก็เอาแต่พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนกลายเป็นคนโรคประสาทไปเลย
“ตายจริง สมัยนี้ข่าวแปลกๆ มีเยอะจัง” ชาลินีอุทาน เธอนั่งอยู่บนโซฟาข้างสามีในห้องโถง ดูโทรทัศน์ด้วยกัน ในมือเธอถือรีโมททีวีอยู่ด้วย
“คงเป็นสัตว์อะไรสักอย่างกัดนั่นแหละ” ปริวัทน์ออกความเห็น
“แต่น่าแปลกนะคะ ทำไมถึงเหมือนโดนดูดเลือดเลย เพราะแถวๆ ที่หมดสติก็ไม่มีรอยเลือดสักนิด”
“นั่นสิ พี่ก็ว่าแปลกเหมือนกัน รอยเจาะเหมือนเขี้ยวงู”
“ช้างว่าคงไม่ใช่งูหรอกค่ะ”
“แล้วช้างคิดว่าเป็นอะไรล่ะ ผีดิบหรือไง” ถามกลั้นหัวเราะเหมือนเห็นเป็นเรื่องขำๆ มากกว่าจะจริงจัง แต่ภรรยานี่สิ...ท่าทางจะคิดจริง
“นั่นสิคะ อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้”
“เฮ้อ จินตนาการล้ำเลิศซะจริง พี่พูดเล่น”
ชาลินีไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็หันไปเห็นลูกสาวเดินลงจากชั้นสองมาพอดี
“อ้าวหนูเม่น ตื่นซะสายเชียว เกือบเที่ยงแล้วนะจ๊ะ ไปกินข้าวกินปลาได้แล้วนะลูก”
“ค่ะ ปวดหัวจัง” หญิงสาวกุมขมับ หน้าซีด อิดโรย
“เมื่อคืนดื่มเยอะเกินไปล่ะสิ” ผู้เป็นพ่อมีท่าทางไม่ค่อยจะพอใจนัก “ตอนตีสองพ่อได้ยินเสียงกริ่งเลยออกไปดู เห็นลูกนั่งพิงรั้วหลับปุ๋ย เมาจนไม่ได้สติแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ถ้าเจอคนชั่วพาไปปู้ยี้ปู้ยำจะทำยังไง”
“แหม...คุณพ่อล่ะก็...” เธอนั่งตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ พลางกอดเอวพ่อไว้อย่างออดอ้อน “หนูเม่นขอโทษค่ะ”
“ต่อไปแม่คงจะไม่ให้หนูเม่นออกไปเที่ยวกลางคืนอีกแล้วนะ”
“โธ่ ทำไมล่ะคะคุณแม่” หันไปกอดเอวแม่บ้าง “หนูเม่นขอโทษ คุณแม่อย่าโกรธเลยนะคะ นะๆ ”
“หนูเม่นเป็นผู้หญิงนะลูก แถมเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่อีก บอกตรงๆ ว่าแม่เป็นห่วง”
“แต่ว่า”
“ไปกินข้าวได้แล้วจ้ะ”
หญิงสาวหน้าม่อย ลุกเข้าครัวไปหาอะไรกิน ในใจก็สับสน...เมื่อคืนนี้เธอรู้สึกเหมือนเมาๆ แล้วยัยเพื่อนแสบก็ขายเธอให้กับผู้ชายคนหนึ่ง เธอกระโดดลงจากรถแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
อ้อ...ช่วงที่หมดสติไป เธอรู้สึกราวกับว่าได้ฝัน...
หน้านวลแดงก่ำขึ้นทันตาเห็น เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก ฝันว่าหลับนอนกับผู้ชายคนหนึ่งที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แต่จำความรู้สึกได้ดีว่ามันมีทั้งความปีติ อิ่มเอม วาบหวาม เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
มาริสาหยิกหูตัวเองเบาๆ บ้าชะมัด เธอนี่ท่าจะบ้าจริงๆ ฝันอะไรเป็นตุเป็นตะ ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะหื่นขนาดเก็บไปฝัน
เอ...แต่ก็น่าแปลกเหมือนกันนะ เธอกลับมาที่บ้านเองได้อย่างไรกันหว่า
หรือว่าเธอจะหาทางกลับมาเอง แต่เพราะเมามากเลยจำไม่ค่อยจะได้
แต่จะว่าไปเธอก็ชักไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าเมื่อคืนได้กระโดดลงจากรถจริงหรือเปล่า เพราะตอนนี้ไม่เห็นจะมีบาดแผลหรือปวดเมื่อยอะไรตรงไหนเลยสักนิด ทุกอย่างดูปกติดี นอกจากอาการมึนหัวเหมือนคนแฮ้งค์เหล้าเท่านั้นเอง
เธอนี่ท่าจะเป็นเอามากจริงๆ เห็นทีว่าต่อไปจะต้องเบาๆ การดื่มลงบ้างเสียแล้ว
หญิงสาวเห็นข้าวแล้วไม่รู้สึกอยากกิน เลยโทรไปหาเพชรวดีเพื่อนรัก นัดแนะไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางด้วยกัน ก่อนจะรีบไปอาบน้ำ
บางทีการได้เจอเพื่อนอาจจะทำให้เธอเบาเครียดลงบ้างก็ได้
เอาเถอะ อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย เมื่อคืนเธอคงดื่มหนักเกินไปจริงๆ นั่นแหละ